Palungdham.com : พลังธรรม -นำแสงสว่างสู่จิตใจมวลมนุษย์

ไม่ผิดหวัง'บั้งไฟพญานาค' ผุดเห็นทุกจุดในหนองคาย-แห่ดูนับแสน

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม'บั้งไฟพญานาค'

'บั้งไฟพญานาค' หรือ 'บั้งไฟผี' จ.หนองคาย ผุดขึ้นที่ริมแม่น้ำโขง จ.หนองคายสร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม'บั้งไฟพญานาค' และยังคงใจจดใจจ่อเฝ้าดูปรากฎการณ์อย่างใกล้ชิด

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม'บั้งไฟพญานาค'

'บั้งไฟ' ลูกแรกขึ้นที่ อ.รัตนวาปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค.50 บริเวณริมฝั่งโขง บ้านโพนแพง ตำบลโพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย มีประชาชนนับแสนคนเดินทางมารอลุ้นชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคต่างพากันฮือฮาดีอกดีใจ เมื่อบั้งไฟลูกแรกผุดขึ้นมาให้เห็นในช่วงก่อนพลบค่ำ (16.45 น.) และไม่ผิดหวังที่มารอเฝ้าชมปรากฎการณ์อย่างใกล้ชิด

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม'บั้งไฟพญานาค'

ผุดกว่า 33 ลูกในทุกจุด

ในเวลาต่อมา (18.15 น.) ได้เกิดบั้งไฟพญานาคที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี เป็นลูกที่สอง จากนั้นอีกประมาณ 5 นาที ลูกไฟพญานาคก็ผุดขึ้นจากแม่น้ำโขงเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพนแพง นับรวมได้จนถึงเวลา 19.00 น. จำนวน 9 ลูก ส่วนพื้นที่อื่นๆ ใน อ.รัตนวาปี นับได้ดังนี้ บ้านหนองแก้ว 12 ลูก บ้านน้ำเป 5 ลูก บ้านท่าม่วง 4 ลูก ขณะที่ อ.สังคม มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่บ้านผาตั้ง ต.ผาตั้ง จำนวน 3 ลูก

ผู้สื่อข่าวรายว่าในพื้นที่บ้านผาตั้งนี้มีนักท่องเที่ยวไปชมบั้งไฟพญานาคกันนับหมื่นคนจนไม่มีที่นั่งชมริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่างจากเมื่อปีที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าใดนัก ส่วนที่อำเภอโพนพิสัย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนับแสนคน ยังไม่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยใจจดจ่อ

นับปี 49 ได้กว่า 273 ลูก

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บ้านโพนแพงมีผู้เฒ่าผู้แก่ในละแวกนั้นบอกว่าเมื่อหลายปีก่อนในช่วงออกพรรษาถึงแม้พระอาทิตย์จะยังไม่ตกดินแต่ก็มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นได้ หากมีอากาศเย็นปกคลุม ซึ่งในบริเวณบ้านโพนแพงแห่งนี้ทุกปีที่ผ่านมาเป็นจุดที่เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นเป็นประจำ โดยในปี 2549 เฉพาะในพื้นที่อำเภอรัตนวาปี มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 100 ลูก และจำนวนบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของจังหวัดหนองคายรวม 273 ลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันจับจองที่นั่งที่ดีที่สุดในการชมบั้งไฟพญานาค โดยปูเสื่อ กางเต้นท์ จับจองล่วงหน้า เพราะหากช้าจะไม่มีที่ให้สามารถนั่งได้ ขณะเดียวกันก็มีคณะนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ซึ่งทางผู้จัดทัวร์จะล็อคพื้นที่ใช้เชือกกั้นบริเวณสำหรับชมบั้งไฟไว้ให้ล่วงหน้าแล้วท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุแต่ก็ยังนั่งรอชมบั้งไฟพญานาคกันอย่างไม่ย่อท้อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจับจองพื้นที่นั่งชมส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว และเดินทางมาจากจังหวัดที่อยู่จังหวัดไกล ๆ ส่วนหนึ่งได้เดินทางมาจังหวัดหนองคายตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว บางส่วนได้เดินทางมาในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา และได้ออกเดินทางมาตั้งช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งทุกคนต่างคาดหวังว่าจะได้ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคกันสักครั้ง

นักท่องเที่ยวแห่ชม'บั้งไฟ' หนองคายคึกคัก

สำหรับบรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคของจังหวัดหนองคาย เริ่มคึกคักกันตั้งแต่เช้า มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวและรถทัวร์ทยอยเดินทางเข้ามาทำให้การจราจรตามถนนมิตรภาพอุดรธานี – หนองคาย รถยนต์หนาแน่น แต่สามารถเคลื่อนตัวได้สะดวกไม่ติดขัด ซึ่งรถยนต์ทุกคันมุ่งหน้าเข้าจังหวัดหนองคายก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอำเภอโพนพิสัย อำเภอรัตนวาปี จุดหลักในการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค

ส่วนบรรยากาศที่วัดไทย อ.โพนพิสัยนั้น ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนนักท่องเที่ยวจนเบียดเสียดยัดเยียดแน่นขนัดริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ได้เกิดปัญหาเมื่อนักท่องเที่ยวได้กางเต้นท์ริมฝั่งแม่น้ำโขงจนแน่นพื้นที่ทำให้บดบังการชมบั้งไฟพญานาคของนักท่องเที่ยวรายอื่นไปด้วย นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือหลายเครือข่ายไม่สามารถใช้การได้ การสื่อสารเป็นอัมพาตรวมทั้งระบบอินเตอร์เน็ตก็เกิดการขัดข้องอยู่บ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยงข้ามไปลาว 3 พันคน

นอกจากนี้บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว อ.เมืองหนองคาย มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวยังประเทศลาวจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคายแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวยื่นเอกสารขอข้ามไปเที่ยวยังประเทศลาวประมาณ 3,000 คน มีทั้งนำรถส่วนตัวไปเองและนั่งรถโดยสารประจำด่านสะพานไปเที่ยวก่อนจะเดินทางมาชมบั้งไฟพญานาค ซึ่งคาดว่าในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวที่ชมบั้งไฟพญานาคแล้วเดินทางไปเที่ยวต่อยังประเทศลาวอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ด่านศุลกากรหนองคาย และเจ้าหน้าที่ประจำด่านได้จัดเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันมิให้มีการฉวยโอกาสกระทำผิดกฎหมายทั้งยาเสพติดและอาชญากรรม

รายงานข่าวแจ้งว่าในปีนี้มีประชาชนที่มาเฝ้าชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างเฝ้าชมบั้งไฟพญานาค หรือ บั้งไฟผี เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายที่ชัดเจนได้ โดยมีลักษณะเป็นลูกไฟสีชมพู ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง พุ่งขึ้นเหนือลำน้ำโขง มีตั้งแต่ระดับ 1-30 เมตร แล้วพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงประมาณ 50-150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5-10 วินาที โดยจะเกิดปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ในช่วงวันออกพรรษา หรือ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตามปฏิทินลาว ซึ่งอาจตรงกับวันแรม 1 ค่ำ หรือ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของไทย โดยแต่ละปีจะปรากฏขึ้นประมาณ 3-7 วัน มากกว่า 90% ของจำนวนลูกบั้งไฟพญานาคในแต่ละปี จะพบที่จังหวัดหนองคาย หน้าวัดไทย และบ้านน้ำเป อำเภอโพนพิสัย วัดอาฮง อำเภอบึงกาฬ วัดหินหมากเป้ง และอ่างปลาบึก อำเภอสังคม

นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาถึงแล้วส่วนใหญ่ได้ไปที่วัดต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อทำบุญ ไหว้พระ ขอพรพระ เนื่องในวันออกพรรษา โดยเฉพาะที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคาย และทำบุญกับทางวัด ทำให้บรรยากาศที่วัดเนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยว

ด้านสภาพการจราจรบนถนนสายหลักสายหนองคาย – โพนพิสัย คับคั่งไปด้วยรถยนต์หลากหลายชนิดที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี รวมถึงพื้นที่ที่เกิดบั้งไฟพญานาค โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยประจำจุดอำนวยความสะดวกในการจัดการจราจรแต่ก็ยังคงมีรถติดบ้างบริเวณคอสะพานปากสวย ประกอบกับมีร้านค้าริมทางหนาแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอให้แม่ค้าขยับแผงขายสินค้าเข้าไปในพื้นที่อีก เพื่อให้การจราจรสะดวกขึ้น รวมทั้งห้ามไม่ให้จอดรถข้างทางเพื่อซื้อของด้วย และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างโดยเป็นการเฉี่ยวชนเล็กน้อยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งรถแต่ละคันสามารถวิ่งรถได้ที่ความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ รก.ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้วางกำลังตำรวจประจำจุดอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ทั้งด้านการจราจร การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การประชาสัมพันธ์แจ้งเส้นทางและการรับฟังความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยว โดยจัดการจราจรใช้เส้นทางการเดินรถทางเดียวขาไป ตั้งแต่หน้าโรงงานสุรา กม.10 อ.เมืองหนองคาย – อ.โพนพิสัย ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. ขากลับเดินรถทางเดียวจาก อ.โพนพิสัย – โรงงานสุรา กม.10 อ.เมืองหนองคาย ตั้งแต่เวลา 20.00 – 02.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค.50 กำลังตำรวจ 1,500 นาย ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประจำจุดตลอดเส้นทาง ตั้งแต่กิ่ง อ.สระใคร – อ.บึงกาฬ สำหรับการรายงานเส้นทางการเดินทางและสถานการณ์การเกิดบั้งไฟพญานาคสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย (สวท.)ได้จัดให้มีการถ่ายทอดพิเศษในระบบ FM ความถี่ 90.5 MHz. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 26 ต.ค.50 ถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค. โดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วยตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พาณิชย์จังหวัดหนองคาย, พัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย บริษัททีโอทีจำกัดมหาชน ส่วนบริการลูกค้า และมูลนิธิวีอาร์กู้ภัยหนองคาย รายงานสถานการณ์และรับเรื่องราวร้องทุกข์เรื่องต่าง ๆ จากนักท่องเที่ยว

นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจ.หนองคาย ย้ำทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และกำชับให้พาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการที่จอดรถไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมบังคับใช้มาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดหากมีผู้ประกอบการฝ่าฝืน และยังกำชับร้านขายของไม่ให้จำหน่ายประทัดหรือดอกไม้ไฟ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็นบั้งไฟพญานาคเกิดความสับสนว่าอันไหนเป็นบั้งไฟพญานาค อันไหนเป็นดอกไม้ไฟ

มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พร้อมคณะได้เดินทางมาชม ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตอำเภอโพนพิสัยในครั้งนี้ด้วย.

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "มติชน"