Palungdham.com : พลังธรรม -นำแสงสว่างสู่จิตใจมวลมนุษย์

ลุ้นพุ่งขึ้นฟ้า-บั้งไฟ "พญานาค" รับคลื่นคน-ทะลัก!

ดูปรากฏการณ์ริมโขง ห้ามพลุ-ห้ามของแพง! ย้ำไม่มีโคโยตี้เด็ดขาด

เริ่มแล้ววันนี้ปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” จ.หนองคาย ลูกไฟปริศนาพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ผู้ว่าฯ ประชุมรับ มือคลื่นนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะแห่กันมาแน่นขนัด เพราะตรงกับวันหยุดศุกร์-เสาร์-อาทิตย์พอดี เผยสั่งเป็นพิเศษกวดขันการจุดพลุ-ดอกไม้ไฟเพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวสับสน และรำคาญ รวมทั้งเรื่องราคาที่พัก-อาหารห้ามแพงเกินเหตุ พร้อมเตรียมเต็นท์สำหรับคนที่หาที่พักไม่ได้ ขณะที่นอภ.โพนพิสัย จุดที่มีลูกไฟขึ้นมากที่สุดทุกปี ก็พร้อมรับมือเช่นกัน กำชับ “โคโยตี้” ห้ามมาปั่นป่วนหวั่นเสียชื่อเหมือนปีที่แล้ว ส่วนตร.จัดกำลังกว่า 1,500 คน อำนวยความสะดวกทั้งความปลอดภัยและเรื่องจราจร

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่บริเวณที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผวจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดการแสดงแสงสีเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค เปิดการลอยเรือไฟบูชาพญานาคในแม่น้ำโขง, การประกวดกระทงยักษ์, การจัดถนนอาหารริมฝั่งแม่น้ำโขง

บั้งไฟ - เทศบาลเมืองหนองคาย จัดงานแสดงแสงสีเสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาคและลอยเรือไฟในแม่น้ำโขง โดยนักท่องเที่ยวแห่จองโรงแรมที่พักเต็มหมดแล้ว เพื่อรอดูปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในค่ำคืน 26 ต.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการคำนวณในปีนี้ปรากฏ การณ์บั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นในวันออกพรรษาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปี 2550 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 26 ต.ค. พื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ได้แก่ ลำน้ำโขงเขต อ.สังคม, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.เมืองหนองคาย, อ.โพนพิสัย, กิ่ง อ.รัตนวาปี, อ.ปากคาด, อ.บึงกาฬ และ อ.บึงโขงหลง โดยอำเภอที่มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นมากที่สุด คือ อ.โพนพิสัย และกิ่ง อ.รัตนวาปี ในทุกปีจะมีการจัดแสดงแสงสีเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค บริเวณที่ราชพัสดุ ข้างวัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ให้นักท่องเที่ยวชมและรับทราบความเป็นมาของบั้งไฟพญานาค โดยจัดการแสดงในวันที่ 24-25 ต.ค.นี้ ในเวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

นายเจด็จ กล่าวว่า เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญา นาคประจำปีนี้ ย้ำให้ตำรวจและทางอำเภอกวดขันเรื่องการจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการตรวจร้านค้าที่นำมาจำหน่าย หากไม่มีใบอนุญาตจะถูกดำเนินการ หรือหากมีดอกไม้ไฟ พลุที่มีขนาดใหญ่ เสียงดังอยู่ภายในร้านเจ้าหน้าที่จะตรวจยึดทันที นอก จากนี้สายตรวจจะเข้มงวดกับกลุ่มวัยรุ่นที่มักเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ เพื่อไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวและสร้างความสับสนในการชมบั้งไฟพญานาค ว่าลูกไฟนั้นเป็นบั้งไฟพญานาคหรือดอกไม้ไฟ รวมทั้งป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากพลุ ดอกไม้ไฟ

“คาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาหนองคายจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดต่อเนื่อง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทางจังหวัดต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน ส่วนที่พัก และอาหารนั้น กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พาณิชย์จังหวัด ควบคุมดูแลไม่ให้ขึ้นราคาแพงจนเกินไป หากมีการขึ้นราคาโดยใช้ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามกฎระเบียบได้ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการควรตั้งราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม” นายเจด็จ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่พัก เช่นโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ ในจ.หนองคาย ถูกจับจองเต็มหมดแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยไม่มีที่พักอาศัย ทางจังหวัดนำเต็นท์จากกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดหนองคาย มากางบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวนอนพัก จำนวน 20 หลัง และกางเต็นท์ไว้ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอีก 20 หลัง รวมถึงยังสามารถพักภายในตัวอาคารของ กองร้อยได้ด้วย ขณะที่ทางจังหวัดจัดเตรียมอุปกรณ์ เช่น เสื่อ หมอน และผ้าห่ม ประจำทุกเต็นท์ และยังจัดเตรียมห้องน้ำ ที่จอดรถยนต์ ที่พักรถยนต์ อีกทั้งยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคแต่ยังไม่มีที่พักสามารถมาพักกางเต็นท์นอน หรือนอนเต็นท์ที่ทางจังหวัดจัดไว้ให้ได้ฟรี

นายอโณทัย ธรรมกุล นายอำเภอโพนพิสัย ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดบั้งไฟพญานาค กล่าวว่า ปีนี้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนงานด้านต่างๆ ส่วนกิจกรรมการบวงสรวงก็จะทำแบบย้อนยุคดั้งเดิมในช่วงเย็น โดยจะมีพิธีบวงสรวงพญานาค ปล่อยกระทงสาย ปล่อยประทีปไฟโบราณ ซึ่งมีการ เตรียมความพร้อมด้านที่พัก ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาจนเกินไป กำชับร้านอาหาร ความสะดวก ให้สะอาด ถูกสุขอนามัย ราคาเป็นธรรม และขณะนี้ทางอำเภอโพนพิสัย มีความพร้อมเต็มที่แล้วที่จะให้การต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานครบรอบ 750 ปี เมืองปากห้วยหลวง และครบ 100 ปี เมืองโพนพิสัย ซึ่งจะมีการแสดงแสงสีเสียงในวันที่ 24-25 ต.ค.นี้ ที่โรงเรียนอนุบาลจุมพล โดยเป็นการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมือง ซึ่งลูกหลานชาวโพนพิสัยไปทำงานที่กรุงเทพฯ และได้มีโอกาสร่วมงานทำฉากกับม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับฯ ภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" มาช่วยออกแบบตกแต่งฉาก ในการแสดงแสงสีเสียงในครั้งนี้ด้วย

นายอำเภอโพนพิสัย กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุการณ์สาวโคโยตี้เต้นโชว์สินค้าข้างวัดไทย อ.โพนพิสัย ในช่วงงานบั้งไฟพญานาคเมื่อปี 2549 นั้น ได้ประชุมหารือกันทุกภาคส่วน และผู้มาขอใช้พื้นที่ในการใช้พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ จะต้องไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ของงานประเพณีไทย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งที่แล้วสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีความห่วงใยกับภาพที่ปรากฏ และทำให้ชาวโพนพิสัยรู้สึกเสียใจ และยืนยันว่าปีนี้จะไม่มีภาพเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ด้านพ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย รองผบก.ภ.จว.หนอง คาย กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายจัดเตรียมแผนอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในด้านการจราจรโดยยึดแผนงานเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งประสบผลสำเร็จ รถยนต์ต่างๆ สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องตัวไม่ติดขัด มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,500-1,600 นาย ประจำจุดตามทางร่วมทางแยกตลอดเส้นทางชมบั้งไฟพญานาค

“ในช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00 น. จะเปิดให้เดินรถทางเดียวคือ จาก อ.เมืองหนองคาย ไปยัง อ.โพนพิสัย ส่วนขากลับจะปล่อยรถออกจากตัวอ.โพนพิสัย ประมาณ 20.00 น. โดยจะมีรถตำรวจนำขบวนให้รถนักท่องเที่ยวเชื่อมต่อตามพื้นที่รับผิดชอบตลอดเส้นทาง และนำขบวนสำหรับรถขาเข้าอำเภอโพนพิสัย ให้สามารถเข้าไปได้ เพื่อแก้ปัญหาการจัดการจราจร และคาดว่าในปีนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวได้คล่องตัว พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนไม่นำรถมาจอดข้างถนนเพราะจะทำให้การจราจรติดขัดได้”

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด"