คืนวันออกพรรษา ลุ้นระทึกกับ‘บั้งไฟพญานาค’
ทุกๆปี ในคืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11(ปีนี้ตรงกับวันที่ 26 ต.ค.50) ณ ลำน้ำโขงรอยต่อจังหวัดหนองคายกับเมืองเวียงจันทน์ โดยเฉพาะที่ อ.โพนพิสัย จะเกิดปรากฏการณ์อันน่าพิศวงที่คนรู้จักกันดีในนาม“บั้งไฟพญานาค” ซึ่งมีลักษณะเป็นลูกไฟประหลาดลักษณะเหมือนไข่ไก่สีแดงส้ม พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ลำน้ำโขงแล้วดับหายไปในอากาศ แบบไร้เสียงไร้ควัน ไร้กลิ่น
ในระยะเวลาสั้นๆเพียง 5-10 วินาที ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงกลางดึกที่ดูแล้วน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
ตราบจนทุกวันนี้บั้งไฟพญานาคยังคงเป็นปริศนาดำมืดรอคอยให้มนุษย์ขี้สงสัยทั้งหลายพิสูจน์กันต่อไปว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
บ้างก็ว่าเป็นการกระทำของพญานาคที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง?!?
บ้างก็ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ?!?
ส่วนบางคนว่าจริงๆแล้วบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์?!?นี่แหละ
ลูกไฟประหลาด ณ ลำน้ำโขงเมืองหนองคาย
แต่ไม่ว่าบั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสีสันในเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คือ เรื่องราวของเมืองพญานาคใต้ลำน้ำโขงช่วงเขต จ.หนองคายและเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งไปสอดรับกับเรื่องของพญานาคในทางพุทธศาสนา ที่มีบันทึกไว้ว่า
...เดิมพญานาคที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลมีนิสัยดุร้าย แต่พอพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ก็เกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนา เลิกนิสัยดุร้าย และคิดจะหันมาออกบวช แต่ติดตรงที่เป็นสัตว์ไม่สามารถบวชได้เนื่องจากเป็นสัตว์ พญานาคจึงปวารณาตนเป็นพุทธมามะกะในกาลต่อมา
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จนครบ 1 พรรษา ( 3 เดือน) และเสด็จกลับโลกมนุษย์ในวันออกพรรษา(15 ค่ำ เดือน 11) พญานาคที่อยู่เมืองบาดาลเมื่อรู้ข่าว จึงได้จัดทำ “บั้งไฟพญานาค” ถวายในคืนวันออกพรรษาของทุกๆ ปี
พญานาค(จำลอง)กับตำนานที่เกี่ยวพันกับลูกไฟประหลาด
และนั่นก็คือเรื่องราวของตำนานบั้งไฟพญานาค ที่ ณ วันนี้ แม้ยังคงเป็นปริศนา?!? แต่ว่าอานิสงส์ของบั้งไฟพญานาคก็ทำให้ในช่วงวันออกพรรษาจังหวัดหนองคายคึกคักคึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง
ในปีนี้จังหวัดหนองคายมีการจัดงานชวนชมบั้งไฟพญานาคขึ้น(เหมือนเช่นทุกปี) ณ ถนนริมเขื่อนวัดศรีบุญเรือง อ.เมืองโดยจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การแสดงแสง-สี-เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ถนนสายอาหาร การประกวดกระทงยักษ์ การแข่งขันเรือยาว
ส่วนในวันออกพรรษาปีนี้( 26 ต.ค.50)ที่เป็นวันไฮไลท์ จะมีพิธีบวงสรวงพญานาค ณ ศาลหลักเมืองปากห้วยหลวง อ.โพนพิสัย จากนั้นก็เป็นการลุ้นระทึกกับบั้งไฟพญานาคว่าปีนี้จะขึ้นมากขึ้นน้อยแค่ไหน?!? โดยจุดชมบั้งไฟพญานาคนอกจากที่ริมน้ำโขง อ.โพนพิสัยแล้ว ยังมีที่บริเวณริมฝั่งน้ำโขง ในเขตพื้นที่ริมโขงอื่นๆในจังหวัดหนองคาย อาทิ อ.เมือง อ.ปาดคาด อ.บึงกาฬ อ.บึงโขงหลง กิ่ง อ.รัตนวาปี รวมถึงที่ริมน้ำโขงในเมืองเวียงจันทน์
งานนี้ใครโชคดีก็จะได้เห็นบั้งไฟพญานาคสมใจอยาก
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดงานและจุดชม “บั้งไฟพญานาค” รวมถึงการจราจร ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย โทร.0-4242-1326 ทุกวัน สำนักงาน ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 5 โทร.0-4232-5406 ถึง 7
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
แห่ดูบั้งไฟพญานาคโขงเจียม คาดเงินสะพัดนับสิบล้าน
โลกร้อน-กระทบ บั้งไฟพญานาค
ลุ้นพุ่งขึ้นฟ้า-บั้งไฟ "พญานาค" รับคลื่นคน-ทะลัก!
ตามรอยพญานาค…จากคำชะโนดถึงหนองคาย
เรื่องเล่าจากป่าคำชะโนด
ตามรอย(บั้งไฟ)พญานาค ธุรกิจเงินล้าน
เลาะริมโขง รู้จักจุดชม "บั้งไฟพญานาค"
หลากหลายประสบการณ์...กับพญานาค
พบรอยพญานาคโผล่ก่อนถึงวันออกพรรษา
อลังการแสงสีเสียงตำนานบั้งไฟพญานาค
เมื่อแม่น้ำโขงเปลี่ยนไป บางที “บั้งไฟพญานาค”อาจสูญพันธุ์
บั้งไฟพญานาค: ปฏิกิริยาเคมีในลำโขง
เที่ยวหนองคาย ลุ้นระทึกกับ"บั้งไฟพญานาค"!!!
“บั้งไฟพญานาค” กับเหตุผลที่คนทำได้และไม่ได้
ชาวบ้านแตกตื่นแห่ดูพญานาคน้ำโขง
เล่าขานตำนานบั้งไฟพญานาค
ปริศนา?? บั้งไฟพญานาค : ต่างมุมต่างความคิด
|