|
ทำบุญข้ามชาติ ใส่บาตรพระเดิน(เป็น)ขบวนที่พม่า
เจดีย์มุเตา แห่งเมืองหงสาวดี
จากข่าวภาพเหตุการณ์พระสงฆ์นับหมื่นเดินขบวนประท้วงรัฐบาลเผด็จการทหารของพม่าช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มันทำให้ผมอดคิดถึงบรรยากาศการเดินเป็นขบวนจำนวนมากของพระ-เณรเมื่อครั้งไปเที่ยวพม่าหนล่าสุดเมื่อกลางปีที่แล้ว(2549)ไม่ได้
เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่า ในปีที่แล้วที่พม่ายังสามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ ครั้งนั้นผมนอกจากจะไปไหว้มหาเจดีย์ชเวดากองและเที่ยวเมืองย่างกุ้งแล้ว ผมยังมีโปรแกรมไปเที่ยวเมือง “หงสาวดี” หรือที่คนพม่าเรียกว่าเมือง"พะโค"อีกด้วย
เมืองหงสาวดีอยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งไปประมาณ 92 กม. เมืองนี้เป็นหนึ่งในอดีตราชธานีเก่าแก่ของพม่า ที่มี “เจดีย์ชเวมอดอ” หรือ “เจดีย์มุเตา” 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวพม่านับถือสูงสุดเป็นไฮไลท์สำคัญประจำเมือง
และที่หงสาวดีนี่เอง ผมมีโอกาสได้เห็นและได้ใส่บาตร พระ-เณรพม่าจำนวนมากที่เดินขบวนกันเป็นแถวยาวนับพันรูป แต่ประทานโทษ?!? พระ-เณรเหล่านี้ท่านไม่ได้เดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารแต่อย่างไร หากแต่พวกท่านเดินเป็นขบวนเพื่อให้พุทธศาสนิกชนรวมถึงนักท่องเที่ยว ได้ทำบุญใส่บาตรกันตามจิตศรัทธาของแต่ละคนต่างหาก ซึ่งแตกต่างจากการใส่บาตรหมู่ทั่วไปตรงที่พระ-เณรท่านไม่ได้ออกมาเดินบิณฑบาตให้ชาวพุทธที่นั่งรอ-ยืนรอใส่บาตร เหมือนการใส่บาตรปกติในยามเช้าตรู่ แต่นี่เป็นการใส่บาตรในช่วงสายๆที่เราเดินทางไปใส่บาตรกันถึงที่ในวัดเลยทีเดียว
การใส่บาตรพระหมู่ที่วัดไจ้คะวาย
สำหรับการใส่บาตรพระหมู่ในวัดเช่นนี้ ไกด์ที่นำเที่ยวบอกผมว่าทั่วทั้งพม่ามีเพียง 3 วัดใน 3 เมืองเท่านั้น นั่นก็คือ วัดนาดาคูหาในย่างกุ้ง วัดมหากันทะยงในมัณฑะเลย์ และวัดไจ้คะวายในหงสาวดีที่ผมมีโอกาสได้ไปร่วมทำบุญใส่บาตรกับเขาด้วย
อันที่จริงการใส่บาตรพระหมู่ในวัดไจ้คะวายไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในโปรแกรมการเที่ยวของผมในทริปนี้ เนื่องจากช่วงสายของวันนี้เรามีโปรแกรมไปสักการะเจดีย์ชเวมอดอที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางเมืองหงสาวดี ในขณะที่ทัวร์ไทยหลายๆบริษัทนิยมบรรจุการใส่บาตรพระหมู่หรือการตักบาตรข้าวสวยเอาไว้เป็นหนึ่งในโปรแกรมเที่ยวเมืองหงสาวดี โดยใครต้องการถวายปัจจัยอย่างอื่นก็สามารถนำไปถวายได้ตามกำลังศรัทธา (แต่สิ่งที่ทางวัดต้องการก็คือพวก ถ้วย ชาม เพื่อเอาไว้ใส่อาหาร และสมุด ปากกา ดินสอ เครื่องเขียน สำหรับการศึกษาของพระ-เณรในวัด)
แต่คงเป็นเพราะบุญพาวาสนาส่งให้ผมและเพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆได้มีโอกาสทำบุญร่วมชาติ ใส่บาตรข้ามชาติข้ามประเทศกันที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากหลังเดินทางเข้าเขตเมืองหงสาวดีได้ไม่นาน ฝนก็ได้โปรยสายลงมาแม้จะไม่หนักหนา แต่ว่าหากออกไปไหว้เจดีย์ชเวมอดอที่กลางแจ้งก็ย่อมหลีกหนีสายฝนไม่พ้น
เมื่อสภาพการณ์ไม่เป็นใจไกด์จึงขอเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสม พาคณะใส่บาตรหมู่ในวัดไจ้คะวายและถือโอกาสหลบฝนไปในตัว(ส่วนเจดีย์ชเวมอดอขอเปลี่ยนไปไหว้ในช่วงบ่ายแทนโดยหวังว่าช่วงนั้นฝนน่าจะหยุดตกแล้ว)
และต้องถือว่าผมโชคดีและมีดวงสมพงษ์กับการใส่บาตรพระหมู่ในครั้งนี้ เพราะถึงแม้จะเปลี่ยนโปรแกรมเปลี่ยนเส้นทางกันนิดหน่อย แต่เราก็มาถึงยังวัดไจ้คะวายในเวลาประมาณ 10 โมงครึ่งซึ่งถือเป็นช่วงที่ทางวัดนี้กำลังจะมีการใส่บาตรเลี้ยงพระเพลพอดี
พระฉันรวมหมู่ที่วัดไจ้คะวาย
วัดไจ้คะวาย วัดนี้ไม่ใช่วัดประเภทที่มีชื่อในเรื่องของเจดีย์หรือพระพุทธรูปองค์โตสูงใหญ่ แต่วัดนี้มีชื่อในเรื่องของการเป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาเปรียญธรรมชั้นตรี, โท และเอก อันโด่งดังของพม่า จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนธรรมะที่นี่กันเป็นจำนวนมากนับพันรูป อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีคนนิยมทำบุญใส่บาตรพระหมู่เลี้ยงอาหารพระเพลกันเป็นประจำ
อย่างกับวันที่ผมไปนี่มีคนรับอาสาเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว แต่วันไหนถ้าไม่มีเจ้าภาพจัดเลี้ยง ทางวัดจะนำเงินดอกเบี้ยจากกองทุนเงินฝากของวัดไปจัดเตรียมอาหารมาเลี้ยงพระเพล ส่วนมื้อเช้าพระ-เณรทางวัดก็ออกบิณฑบาตแล้วนำอาหารกลับมาฉันตามปกติ
สำหรับงบเลี้ยงพระเพลในวันนั้นอยู่ที่ 500,000 จ๊าด( 1 บาทประมาณ 30 จ๊าด) มีอาหาร 4 อย่างด้วยกันทำรอไว้แล้ว คือ ไข่ต้มราดน้ำแกงแบบพม่า แกงไก่ น้ำพริกกะปิ+ผัก(แตงกวา) และน้ำซุปวิญาณไก่ จัดตั้งไว้บนโต๊ะฉันอาหารให้ห้องฉันเพล ส่วนข้าวนั้นเป็นข้าวสวยใส่ไว้ในหม้อเหล็กใบเบ้อเริ่มที่ตั้งอยู่หน้าห้องฉันเพล
ญาติ-โยมชาวพม่าที่มาทำบุญในวัดไจ้คะวาย
พอถึงเวลาฉันเพล พระ-เณรทั้งรูปเล็กรูปใหญ่ในวัดก็จะเดินอุ้มบาตรเรียงแถวเป็นขบวนมาให้ญาติโยม เจ้าหน้าที่วัด หรือพระ-เณรด้วยกันตักข้าวสวยใส่บาตร
มื้อเพลมื้อนั้น เจ้าหน้าที่วัดบอกกับผมว่ามีพระ-เณรเดินแถวมาให้ใส่บาตรทั้งหมด 1,050 รูป ซึ่งพอถึงเวลาใส่บาตรพระ-เณรเหล่านั้นต่างก็ถือบาตรไม่ไผ่สานลงรักสีดำสนิทเดินแถวเป็นระเบียบยาวเหยียดมาต่อคิวรับข้าว ดูมากไปด้วยศรัทธา จนผมอดไม่ได้ที่จะต้องไปขอทางเจ้าหน้าที่วัดร่วมแจมใส่บาตรกับเขาด้วย ก่อนจะนำเงินหยอดตู้ทำบุญไปจำนวนหนึ่ง
หลังจากนั้นผมจึงเดินไปถ่ายรูปปั้นพระ-เณรเดินเป็นแถวบิณฑบาตที่อยู่ใกล้ๆกันซึ่งทางวัดไว้เอาไว้เป็นสัญลักษณ์ ก่อนจะเดินกลับมาดูพระ-เณรท่านนั่งล้อมวงล้อมโต๊ะกลมฉันเพลกันอย่างเอร็ดอร่อย ดูแล้วพลอยรู้สึกอิ่มเอมและอิ่มบุญตามไปด้วย
อนึ่งภาพพระจำนวนมากเดินเป็นขบวนรอใส่บาตรช่วงก่อนการฉันเพลนั้น มันทำให้ผมอดนึกถึงการใส่บาตรข้าวเหนียวในหลวงพระบาง หรือการใส่บาตรดอกไม้ที่สระบุรี รวมไปถึงการตักบาตรเทโวในช่วงออกพรรษาบ้านเรา เพราะมีบรรยากาศคล้ายๆกัน คือเต็มไปด้วยพระเดินเป็นแถวยาวดูขรึมขลังเปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
แต่นั่นคือเหตุการณ์และบรรยากาศของปีที่แล้ว...
ส่วนปีนี้ดูเหมือนว่าหลังการสลายการประท้วงสถานการณ์ของพระสงฆ์ในพม่าจะยังคงไม่สู้ดีเท่าไหร่ เพราะจากข่าวที่ออกมา ณ วันนี้(กลางเดือน ต.ค.)ยังคงมีการจับพระสงฆ์ที่เป็นแกนนำและร่วมขบวนประท้วงอยู่เรื่อยๆ
แต่นั่นมันยังไม่เท่ากับเหตุการณ์การสลายการประท้วงเมื่อปลายเดือน ก.ย. ซึ่งหลังสถานการณ์ประท้วงในพม่าคลี่คลายลง
สิ่งที่คนส่วนใหญ่สงสัยกันมากก็คือ เหตุการณ์สลายการประท้วงครั้งนี้มีประชาชนและพระสงฆ์ต้องสูญเสียชีวิตสังเวยความบ้าอำนาจของผู้นำทหารพม่าไปกี่คน???
และเมื่อไหร่??? พม่าถึงจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเผด็จการทหาร เป็นประเทศประชาธิปไตยแบบสากลนิยมเสียที
นี่เป็นคำถามที่คำตอบยังคงล่องลอยอยู่ในสายลม...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เยือน "พม่า" ย่ำย่างกุ้ง ดินแดนแห่งเจดีย์
สักการะ "พระธาตุอินทร์แขวน" สิ่งมหัศจรรย์แดนพม่า
เที่ยว "ชเวดากอง" แล้วลองย้อนดูตัว
พระนำม็อบกว่าแสนประท้วงในพม่า !!
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์" โดย คุณปิ่น บุตรี
| 
