หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
ชม Video โอลิมปิก  ปักกิ่ง 2008 (Beijing 2008  Olympic Games)
ฐานิยปูชา ๒๕๕๒
ฐานิยปูชา ๒๕๕๑
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมา
เชิญชม การ์ตูนแอนนิเมชั่น  เสี้ยวลิ้มยี่  (The Legend of Shaolin Kung Fu)
เชิญชม VDO น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
เชิญชม ประวัติศาสตร์การเมือง ตอน ปิดตำนานทักษิณ
เจ้าแม่กวนอิม
ชมตัวอย่างภาพยนตร์,หนัง
คลังเก็บรูปภาพ

โกเดียนไปเมืองผี


ตายแล้วฟื้น

บันทึกจาก น.ส.พ. จักรวาล ฉบับที่ ๑๗ ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ บุคคลผู้บอกเล่าชื่อ แดง ณ ชุมแสง เรื่องราวตายแล้วฟื้นขึ้นมามีความประหลาดมหัศจรรย์และน่าศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ผู้ตายชื่อ โกเดียน อายุ ๔๒ ปี มีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากชื่อแม่คำ เถ้าแก่โกเดียนเป็นเจ้าของผู้จัดการโรงเลื่อยจักรเหนือตลาด อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากกลับจากดูกิจการโรงเลื่อยจักรกลับถึงบ้านเวลาประมาณบ่าย ๓ โมงเศษ มีความรู้สึกปวดศีรษะ จึงกินยาแอสไพริน เสร็จแล้วปวดปัสสาวะจึงเข้าไปในห้องน้ำ แม่คำผู้เป็นแม่ศรีภรรยานั่งอยู่บนเรือนได้ยินเสียงล้มตึงภายในห้องน้ำ จึงเรียกให้คนเข้าไปช่วยในห้อง น้ำและช่วยกันประคองขึ้นมาบนเรือน พร้อมกันนั้นสั่งคนไปตาม ร.ท.ชุบ หมออนามัย มาตรวจดูอาการ

หมอตรวจดูอาการ ปรากฏว่าเถ้าแก่โกเดียนหมดลมหายใจเสียแล้ว สันนิษฐานว่าตายด้วยโรคปัจจุบันคือเป็นลมตาย ภรรยาและญาติๆ จึงได้จัดการตั้งศพบำเพ็ญกุศล เวลาประมาณ ๑ ทุ่มเศษ จึงนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๔ รูปมาสวดหน้าศพ นิมนต์พระภิกษุสงฆ์หมดวัดมีจำนวนเท่าไรนิมนต์มาให้หมด

ภาคกลางนิมนต์พระสงฆ์มาสวดหน้าศพ ๔ รูป สำหรับชาวบ้าน ภาคกลาง หากมีพระสงฆ์มาขึ้นเรือน เจ้าของเรือนใจเสียถือเป็นอัปมงคลสำหรับเรือน เพราะมีพระมาขึ้นเรือน ๔ รูป หากเป็นงานมงคลนิยมนิมนต์พระ ๕-๗-๙ รูป

ทายกเอี่ยม ซึ่งคุ้นเคยและชอบพอสนิทสนมกันกับเถ้าแก่โกเดียน เคยชักชวนเถ้าแก่โกเดียนไปทำบุญถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์และถวายสังฆทาน เถ้าแก่มีความคิดเห็นว่า “ไปทำบุญเสียเปล่า ไหว้เจ้าเสียดีกว่า กลับมาอั๊วก็ได้กิน ไปทำบุญถวายทานถวายภัตตาหารที่วัด เอาไปเลี้ยงแต่ลูกคนอื่นเขา เอาไปทำบุญเท่าไรมีแต่หมด ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา สู้เอาไปไหว้เจ้าดีกว่า กลับมาอั๊วก็ได้กิน” ทายกเอี่ยมแนะนำเถ้าแก่โกเดียนว่า “เราทำบุญเอาไว้เมื่อเราตายยังไงล่ะ”

เถ้าแก่โกเดียนแย้งว่า “ลื้อนี่พูดทำเหมือนว่าพระภิกษุสามเณรเป็นธนาคารบุญอย่างนั้นแหละ”

ทายกเอี่ยมพูดว่า “เมื่อลื้อไม่เชื่อก็แล้วไป”

เถ้าแก่มักจะบ่นและว่ากล่าวแม่คำผู้เป็นภรรยาอยู่เสมอเมื่อเห็น แม่คำทำบุญเลี้ยงพระ “เอาอาหารไปทำบุญมันได้อะลาย เอาไปทำบุญ ก็มีแต่จะหมด อั๊วว่าเอาไปไหว้เจ้าดีกว่า กลับมาเราก็ได้กิน” แม่คำได้ยินสามีพูดอย่างนั้นก็คิดหนักใจ จะทำบุญแต่ละครั้งก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะแนวความคิดเห็นแตกต่างกัน

ข้าพเจ้ารู้จักตระกูลคฤหบดีครอบครัวหนึ่ง ภรรยาชอบทำบุญ ทำครั้งละหลายหมื่นบาท สามีเป็นเถ้าแก่ทราบ ด่าว่าภรรยา “มึงมีเงิน มึง ทำแต่บุญ ตายแล้วมึงหาบบุญไปนะ” ภรรยาจะทำบุญแต่ละครั้งต้องหลบๆ ซ่อนๆ

เมื่อเวลา ๒ โมงเช้าเศษๆ แม่คำผู้เป็นภรรยาและญาติๆ ที่ช่วย กันเลี้ยงข้าวน้ำโภชนาอาหารแก่แขก ผู้มาเยี่ยมงานศพของเถ้าแก่โกเดียน พากันกลับไปเกือบหมด เหลือค้างอยู่บนเรือนก็มีลุงวันผู้เป็นสัปเหร่อ ผู้อาวุโสก็มีลุงสุขและพวกผู้หญิงผู้เป็นแม่ครัว เสียงจากโลงศพดังขึ้นและดังขึ้นกุกกักๆ พวกผู้หญิงก็ใจคอไม่ค่อยดี ทุกคนต่างทยอยกันลงเรือน ทีละคนสองคน นึกว่าผีเถ้าแก่โกเดียนเล่นงานเอาเสียแล้ว ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน ชาวบ้านพากันชอบนักเมื่อเห็นพระไปสวดหน้าศพ ชอบ เคาะโลงศพ “แม่เอยไหว้พระรับศีลเถอะ อย่าไปเคาะโลงศพเลย เกิดศพลุกขึ้นมาจริงๆ พระก็ต้องวิ่งหนีจีวรปลิว ชาวบ้านจะอยู่ได้หรือ” ลุงวันตัดสินใจงัดโลงศพ ปรากฏว่าเถ้าแก่โกเดียนฟื้นกลับมาจริงๆ แม่คำดีใจร้องไห้โฮใหญ่ ลุงวันเข้าทางศีรษะ ลุงสุขเข้าทางเท้า ยกขึ้นมาจากโลงศพ ต่างช่วยกันเอามีดตัดด้ายตราสังข์ออกจากข้อมือทั้งสอง ให้คนรีบไปตาม ร.ท. ชุบ มารักษาพยาบาล อาการดีขึ้นเป็นลำดับ รวมเวลาตายทิ้งร่างกายนอกออกไป ๑๘ ชั่วโมงพอดี

เมื่อร่างกายดีขึ้นเป็นปกติ ทุกคนขอร้องให้เถ้าแก่โกเดียนเล่า เรื่องการตายแล้วฟื้นขึ้นมา เถ้าแก่โกเดียนได้เล่าความหลังให้ฟังว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านรู้สึกปวดศีรษะ จึงกินยาแอสไพรินไป ๒ เม็ด รู้สึกปวดปัสสาวะจึงเข้าห้องน้ำ แล้วเป็นลมหน้ามืด หมดความรู้สึกไป ได้เห็นคนรูปร่างใหญ่โต ๓ คน ผิวเนื้อดำแดง นุ่งผ้าเหน็บเตี่ยว ๒ คนนุ่งดำห่มดำ อีกคนนุ่งขาวห่มขาว โพกผ้าแดง คนนุ่งดำห่มดำ ๒ คนฉุดแขนคนละ ข้าง คนนุ่งขาวห่มขาวหันหลังกลับเดินนำหน้า เดินไปตามถนนสายใหญ่ ไปพบทิดชุ่มซึ่งตายได้ ๖-๗ วันแล้ว เดินสวนทางมา นึกในใจ “ไอ้ทิดชุ่มมันตายได้ ๖-๗ วันแล้วนี่ เราก็ได้ไปร่วมงานศพมัน หรือเราตายแล้วนี่” นึกได้ก็ร้องไห้โฮ

เขาพาเดินทางไปสู่สำนักของพระยายมราช ปล่อยให้เดินเล่นบนสนามหญ้า ได้เห็นผู้คนนั่งอยู่กันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มใดที่ไม่มีสำรับกับข้าววางอยู่ข้าง ตัวหน้าตารูปร่างก็ซูบซีดเศร้าหมอง เสื้อผ้าอาภรณ์ก็เศร้าหมอง ได้พบกับทายกเอี่ยม มัคทายกวัดคลองระนงค์ ซึ่งตายไปเมื่อ ๓ วันนี้เอง “เถ้าแก่ก็มาเหมือนกันหรือ” ทายกเอี่ยมทักทาย เห็นข้างทายกเอี่ยมมีสำรับกับข้าววางอยู่ข้างๆ เพราะความคุ้นเคยกัน “อั๊วหิวน้ำเหลือเกิน ขอกินด้วยนะ” พร้อมกับยื่นมือไปหยิบเอาขันน้ำ ขันน้ำร้อนเหมือนไฟจนต้องวางมืออย่างรวดเร็ว ทายกเอี่ยม “ของใครของมัน ขอกันกินไม่ได้หรอก” เถ้าแก่ได้ความคิด ทายกเอี่ยมเคยชักชวนให้ทำบุญเลี้ยงพระ ถวายภัตตาหาร ถวายสังฆทาน แต่ตนเองไม่เชื่อว่าทำบุญเอาไว้กินเมื่อตาย จึงอดทั้งข้าว หิวกระหายน้ำอย่างหนัก ทายกเอี่ยมชี้ให้ดูข้างๆ เถ้าแก่ โกเดียน “ของลื้อนี่ยังไงล่ะ” เถ้าแก่มองไปข้างๆเห็นกองกระดาษเผาไฟวางอยู่ใกล้ๆ ตัวเอง นึกในใจ ตายละเราคราวนี้ หิวข้าวและน้ำแสนสาหัส เพราะไม่ได้ทำบุญให้ทานไว้

เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปในตึกและกดตัวให้นั่งลงตรงหน้า เถ้าแก่มองเห็นคน ๓ คน นั่งอยู่บนโต๊ะ ๓ ตัว ๒ คนด้านซ้ายและขวา มีสมุดบัญชีเล่มใหญ่วางอยู่ตรงหน้า คนนั่งกลางคือพระยายมราช บุคลิกลักษณะสวยสง่า น่าเกรงขาม ลักษณะมหาอำนาจ นั่งเฉยอยู่ ถามขึ้นว่า ชื่ออะไร ตอบท่านว่า ชื่อโกเดียนครับ อายุเท่าไร ตอบท่านว่า อายุ ๔๒ ปีครับ เมียชื่ออะไร ตอบว่า ชื่อคำครับ ท่านถามว่าถูกไหม นายบัญชีคนขวามือตอบว่า ไม่ถูก ต้องชื่อเดี้ยน อายุ ๓๙ ปี เมียชื่อใบ พระยายมราช “อ้าว ผิดตัวละสิ ให้เขาเอาไปเข้าร่างเดิม ช้าไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะเผาร่างเดิมเสียก่อน” สั่งให้เจ้าหน้าที่อีกคนนำกลับมาส่ง พบโครงกระดูกควายขาวโพลน ตั้งใจจะวักน้ำที่ขังอยู่กินเท่านั้น ถูกผลักเสียงดังโครม รู้สึกตัวอีกครั้งนอนอยู่ในโลงศพ มือทั้งสองถูกผูกด้วยด้ายตราสังข์ จึงเอาข้อศอกทั้งสองถองโลงศพเสียงดังกึกกักๆ “อั๊วเข็ดเลี้ยว เลิกไหว้เจ้าเผากระดาษ เพราะตายไปอั๊วไม่มีอะไรกินกับเขา”

เมื่อตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ๕-๖ เดือน เถ้าแก่โกเดียนได้ออกบวชเป็นภิกษุภาวะในพระพุทธศาสนาเป็นเวลา ๑ พรรษา เป็นเวลา ๒๐ ปีกว่าแล้ว เถ้าแก่โกเดียนและแม่คำใส่บาตรตอนเช้าทุกๆ วัน ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ไปทำบุญที่วัดคลองระนงค์มิได้ขาด

มืดมาสว่างไปในเบื้องหน้า ต้นคดปลายตรงใช้ได้

“อันนักปราชญ์ สั่งสม บ่มบุญบ่อย
ทีละน้อย ทำไป ไม่ใหลหลง
ย่อมเต็มด้วย บุญนั้น เป็นมั่นคง
บุญย่อมส่ง สบสถาน พิมานทอง”



ไปข้างบน