|
ทรท.เก็บฉากแล้ว! "ทักษิณ"ร่อนสารลาออก-ลอยแพสมุนทางใครทางมัน
ไทยรักไทยเก็บฉากแล้ว "ทักษิณ" จนมุมร่อนสารจากลอนดอนลาออกจากหัวหน้าพรรคยุติบทบาททางการเมือง หลังสมุนกระโดดหนีเอาตัวรอดไม่ดูดำดูดีไปก่อนแล้ว
ดัน"สุดารัตน์"รักษาการ "จตุพร" อ้างทรท.ถูกทำลายจนสำเร็จแล้ว
วันนี้(3 ต.ค.) ที่พรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า วันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น.พรรคไทยรักไทยจะแถลงจุดยืนถึงท่าทีสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้และทิศทางของพรรคในอนาคตว่า ในการย่างก้าวจากนี้ไปจะดำเนินการอย่างไรเพราะขณะนี้เหมือนกับพรรคเจอมรสุม เหมือนกับพายุช้างสารกับพายุเกย์ เพราะการตั้งเป้าตั้งแต่เริ่มว่าจะทำลายล้างระบอบทักษิณ แบบถอนรากถอนโคน
ดังนั้น คำสั่ง คปค.ทั้ง 2 คำสั่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง การตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นจุดหักเหที่สำคัญที่สุด ทำให้หลายคนต้องตัดสินใจเดินออกจากพรรคไป
“ในวันนี้มีสารจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ส่งมาจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ซึ่งในช่วงบ่ายจะมีรายละเอียดทั้งหมดเพราะสถานการณ์ ขณะนี้สมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกคนต้องรับรู้สภาพความเป็นไปทุกอย่าง เพื่อจะได้รู้ในการย่างก้าวต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ในวันนี้การทำลายล้าง ถือว่ามีความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้วจึงอยากให้สมาชิกทั้งระดับแกนนำ สมาชิกพรรคและประชาชนรอฟังสารทิศทางจากผู้นำพรรค”นายจตุพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สารดังกล่าวจะเป็นการตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคจะต้องกำหนดทิศทางที่ชัดเจนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบในทุกเรื่องในฐานะหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคได้ติดต่อกับแกนนำพรรคตลอดเวลาอยู่แล้ว
มีรายงานว่าในสารดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากจะลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว ยังได้แสดงความจำนงค์ที่จะเปลี่ยนสภาพพรรคไทยรักไทยเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศลด้วย
ทั้งนี้เมื่อวานนี้ได้มีแกนนำ หัวหน้ากลุ่มก๊วนต่างๆและสมาชิกร่วมร้อยคนในพรรคไทยรักไทยได้ทยอยลาออก อาทิ กลุ่มวังน้ำยม วังน้ำเย็น กลุ่มบ้านริมน้ำ กลุ่มชลบุรี ขณะที่วันนี้กำลังจะมีกลุ่มลำตะคอง กลุ่มวังพญานาค จะยื่นใบลาออกตามไปด้วย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคได้อ่านจดหมายลาออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลงวันที่ 2 ต.ค.จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีเนื้อหาโดยสรุปว่าหลังจากมีการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยจนสามารถชนะเลือกตั้งถึง 2 ครั้งและตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีสมาชิกถึง 14 ล้านคน แต่หลังจากนั้นมีการต่อต้านทำให้ตนเองต้องใช้ความอดทนสูง มีการรักษารัฐธรรมนูญ และระบอบประชาธิปไตยและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนกระทั่งความขัดแย้งได้รุนแรงขึ้นจนไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ และจนนำไปสู่การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ดังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
เนื้อหาในหนังสือลาออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังระบุอีกว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วเมื่อเกิดเหตุแบบนี้แล้วหัวหน้าพรรคต้องลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคทุกคนได้มีโอกาสได้เลือกอนาคตของตัวเอง และในตอนท้ายได้ขอโทษสมาชิกพรรคที่ไม่ต้องการให้ลาออกอีกด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก ทำให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคแทน
ข้อความจากอดีตนายก ทักษิณ
2 ตุลาคม 2549
เรื่อง ขอลาออกจากหัวหน้าพรรค
เรียน คณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคไทยรักไทย
ตามที่ผมได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบัน ผมต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านตลอดจนกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่พรรคทุกคนที่ได้ร่วมกันสร้างพรรคไทยรักไทยให้เข้มแข็งเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งมีสมาชิกพรรครวมกว่า 14 ล้านคน และได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไปจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลถึง 2 ครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้ทุ่มเททำงานด้วยการยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งโดยยึดมั่นต่อคำปฏิญาณตนที่ว่า "จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
หลังการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2548 มีการวิพากษ์วิจารณ์และการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่องผมได้ใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อหลักเลี่ยงความรุนแรงมาโดยตลอดจนกระทั่งมีการยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนตัดสินใจ ผมต้องปฏิบัติหน้าที่รักษาการตามรัฐธรรมนูญเพื่อเตรียมมอบงานให้กับรัฐบาลใหม่แต่ก็มีความล่าช้าจนความขัดแย้งของกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลรุนแรงขึ้น รัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายตามที่ควรจะเป็นได้ จึงเกิดการปฏิวัติขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
ดังนั้น ผมเห็นว่าตามแบบธรรมเนียมของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเมื่อมีเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเช่นนี้ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารทุกคนควรจะเสียสละลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เลือกรรมการบริหารชุดใหม่มาบริหารพรรคฯ แทนในโอกาสแรกที่กฎหมายจะอนุญาตให้กระทำได้ สำหรับผู้ที่จะเปลี่ยนเส้นทางทางการเมืองหรือชีวิตส่วนตัวก็ย่อมจะได้ใช้โอกาสนี้ตัดสินใจได้ สำหรับผมพิจารณาแล้วว่าต้องเสียสละลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ผมขอส่งความปรารถนาดี มายังกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่พรรคฯ และสมาชิกพรรคฯ ทุกๆ ท่าน ขอขอบคุณอีกครั้งในความทุ่มเทสร้างพรรคฯ มาด้วยกัน ตลอดจนความห่วงใยที่มีต่อผมและครอบครัว ท้ายที่สุดนี้ผมต้องขอโทษสมาชิกพรรคฯ และพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ไม่ต้องการให้ผมลาออก ผมขอย้ำว่าผมจำเป็นจริงๆ ครับ เพราะโดยสภาพแวดล้อมใหม่ ทำให้ผมต้องเลือกที่จะรักษาอนาคตของทุกคนที่รักพรรคฯ และความภูมิใจที่เราเคยมี
ด้วยความเคารพรักและจริงใจ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นับถอยหลัง ทรท. “สมคิด” ชิ่งแล้ว!
นับเวลาถอยหลังพรรคไทยรักไทยแล้ว อดีตแกนนำและสมาชิกพรรค ไม่เว้นแม้แต่ข้าเก่าเต่าเลี้ยง “ทักษิณ” ต่างทยอยเดินหนีตลอดเวลา ล่าสุด “สมคิด” รวมทั้งกลุ่ม “วังน้ำยม” ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40 คนได้มายื่นใบลาออกแล้ว ยังเหลือ “วีระ-จตุพร” ยังไม่มีทางไปอยู่เฝ้าพรรค ขณะเดียวกันยังห้ามเอเอสทีวีเข้าพรรคเช่นเดิม
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ถึงความเคลื่อนไหวในการยื่นลาออกของสมาชิกพรรคไทยรักไทยว่า ล่าสุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่มายื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยต่อผู้อำนวยการฝ่ายทะเบียนพรรคไทยรักไทยแล้ว ส่งผลให้นายสมคิดพ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคด้วย นอกจากนี้ นายพิมล ศรีวิกรม์ อดีต ส.ส.กทม. นายวีระชัย วีระเมธีกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยแล้วเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีรายงานแจ้งด้วยว่า นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีต ส.ส.สุโขทัย ภรรยานายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม จะส่งตัวแทนมายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยพร้อมกับสมาชิกในกลุ่มอีกประมาณ 40 คนด้วย
ด้าน นายเอกภาพ พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กลุ่มวังพญานาค เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้นัดหารือเป็นการภายในแล้วโดย นายพินิจ จารุสมบัติ หัวหน้ากลุ่มวังพญานาคได้นัดพูดคุยกันระหว่างสมาชิกว่าจะตัดสินใจดำเนินการทางการเมืองอย่างไร ซึ่งกลุ่มวังพญานาคมีสมาชิก ประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส.ในภาคอีสาน เหนือและใต้ รวมทั้งนายปรีชา เลาหพงษ์ชนะ ด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในพรรคไทยรักไทยนั้นค่อนข้างเงียบเหงา และไร้แกนนำพรรคเช่นเคย มีเพียง นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรค นายเอกพร รักความสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งนายจุตพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย เดินทางมาหารือกันเป็นการภายในเท่านั้น
| 
