ลองบารมีพระโพธิสัตว์
เจ้าสัวใจดีเปิดบ้านให้เที่ยวชมได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อยู่ใกล้แค่บางละมุงนี่เอง
เมื่อปลายปีก่อนผมได้ติดตามนาย ประจวบ จำปาทอง รองประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ไปในฐานะเลขาฯ ของท่านที่คฤหสาสน์หลังใหญ่ราคานับหมื่นล้านบาท โดยมีชื่อว่า บ้านสุขาวดี ที่ตั้งอยู่ริมถนน บางละมุง ชลบุรี บนที่ดินกว่า 24 ไร่ ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดริมทะเล
เจ้าของบ้านหลังนี้คือ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ และ ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ สองสามีภรรยาที่มีความร่ำรวยนับหมื่นล้าน และยังเป็นผู้ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการแสดงออกถึงความจงรักภักดี เป็นประธานจัดงาน 5 ธันวาคม เมื่อปีที่ผ่านมาในนามของมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช
ความกว้างใหญ่ของบ้านหลังนี้มีมากจนกระทั่งในบ้านเองยังต้องอาศัยวิทยุมือถือคอยเรียกขานกัน มิเช่นนั้นอาจจะหากันไม่พบ
เจ้าสัวปัญญาได้เล่าเรื่องแปลกๆ ให้ฟัง เมื่อตอนที่กำลังสร้างพระแม่กวนอิมองค์งามนี้ ตอนนั้นช่างได้ทำการขึ้นพิมพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะทำการตบแต่งองค์ให้เรียบร้อย เพื่อจะให้ทันกับงานฉลองทำบุญเลี้ยงพระขึ้นบ้านใหม่
เพราะว่าวันนั้นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ จะเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ตอนนั้นกลางวันแสกๆ ขณะที่ช่างกำลังตบแต่งลงรักปิดทองอยู่ มีผึ้งจำนวนนับร้อยตัวมาจากไหนไม่มีใครทราบ เข้ามาในโดมที่ประดิษฐานองค์พระแม่กวนอิมนี้ ท่านเจ้าสัวเล่าให้ฟังว่า
บ้านที่น่าจะเรียกว่าวังมากกว่า สวยงามทุกมุม ใครไม่เชื่อ ไปพิสูจน์ด้วยตาตนเองกันดีกว่า
“วันนั้นเป็นเวลากลางวัน ช่างกำลังลงรักปิดทองเจ้าแม่กวนอิมอยู่ ปรากฏว่า มีผึ้งจำนวนเป็นร้อยบินมาจากไหนไม่ทราบ จำนวนมากเป็นร้อยตัว บินเข้ามาในโดม ความจริงผึ้งไม่น่าที่จะบินได้สูงเท่าขนาดกับตึก 7 ชั้นได้เลย เมื่อบินเข้ามามาก ช่างทำงานไม่ได้ และไม่กล้าทำงานกลัวโดนต่อย
คนสนิทผมวิทยุไปบอกซึ่งผมกำลังเดินตรวจงานบริเวณอื่นๆ อยู่ จึงขึ้นมาดู เห็นผึ้งเยอะมากบินกันว่อนเลย
ผมเลยบอกให้ช่างหยุดทำ แล้วผมก็ยืนนิ่งๆ สงบๆ ระลึกถึงเจ้าแม่กวนอิม หากมีสิ่งใดกระทำผิดพลาดก็ขออภัยให้แก่ช่างด้วย เพียงเพื่อต้องทำการปิดทองลงรักให้เจ้าแม่ได้สง่างาม แล้วผมสั่งให้ปิดประตูโดมเลย เมื่อปิดแล้วทางที่จะลอดออกคงจะยากเพราะรูเล็กนิดเดียว ทางด้านบนของโดม ผมมีของหายากอยู่ด้านบน”
ผมเลยอธิบายให้ท่านเจ้าสัวฟังว่าเป็นไปได้มั๊ยที่จะเป็นผึ้งเสก คล้ายๆ มีคนอยากลองบารมีกับท่าน เพราะว่าท่านมีของหายากที่ได้มาจากบารมีมากกว่าการซื้อขาย เลยอยากลอง ดูเหมือนท่านเจ้าสัวฟังแล้วคิดพิจารณาว่าอาจเป็นไปได้เหมือนกัน
ท่านเจ้าสัวเล่าให้ฟังต่อไปว่า
“พอปิดประตูแล้วทางออกก็ไม่มี แต่พอตอนเช้ามาเปิดประตูออกดูแปลกมาก เพราะว่าไม่มีแม้ตัวผึ้งหลงเหลืออยู่เลยสักตัว หรือแม้แต่ปีกของผึ้งก็ไม่มีร่วงหล่น แปลกจริงๆ”
การตบแต่งคฤหาสน์ของบ้านสุขาวดีนั้นเกือบทุกจุดที่ตบแต่งเป็นไปตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย หินสลักก้อนที่วางเรียงรายประดับเพื่อความงดงามหรือแม้แต่จะเป็นสิ่งประดับอัลลอยต่างๆ ก็ล้วนอยู่ตามหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยทั้งสิ้น
คฤหาสน์ของเจ้าสัว ปัญญา โชติเทวัญ เจ้าของบริษัทสหฟาร์ม สร้างขึ้นมาพร้อมด้วยปรัชญาแห่งศาสนธรรมอันลึกซึ้งของพระเจ้า และ พระพุทธเจ้า ได้อย่างลงตัวและงดงาม ในเรื่องของเจ้าผึ้งน้อยนับร้อยตัว
ยังคงเป็นปริศนาคู่คฤหาสน์หลังนี้อยู่ว่า มาจากไหน มาได้อย่างไร และที่สำคัญมาทำไม หรือว่าผึ้งเหล่านั้นเป็นผึ้งเสกของใคร หรือเป็นผึ้งที่มาขอบารมีของเจ้าสัวเพื่อจะหาที่ทำรังพักอาศัยก็สุดจะคิดได้ แต่ทว่าอย่างไรเสีย ด้วยเพราะเจ้าสัวเป็นผู้มีบุญบารมีอีกคนหนึ่ง คฤหาสน์หลังงามนี้จึงมีแต่ความสุขและความร่มเย็น
พระบรมฉายาลักษณ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ซึ่งเคยเสด็จมาที่บ้านหลังนี้
|