|
ปุจฉา-วิสัชนา
ชาตินี้อยากรวย
ปุจฉา : กราบหลวงปู่พุทธะอิสระ ทุกวันนี้ผมต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำหาเลี้ยงครอบครัวลูกก็ยังเล็กอยู่ แต่ผม ก็พยายามหาโอกาสทำบุญอยู่เสมอ เผื่อว่าชีวิตนี้จะได้ดีขึ้นบ้าง ผมจึงอยากถามหลวงปู่ว่าชาตินี้เราจะทำอย่างไรถึงจะเป็นคนมีบุญกุศล ร่ำรวย และประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆด้าน.................ปรีชา
วิสัชนา : ตอบรวมๆกันคือ ต้องเป็นคนฉลาดคุณถึงจะมีบุญกุศล ถ้าคุณโง่คุณจึงทำผิดพูดผิดคิดผิด ถ้าคุณฉลาด คุณจึงรู้จักว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ในเวลาที่ควรหรือไม่ควรอย่างไร เพราะฉะนั้นต้องมีปัญญาที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ‘อวิชชา ทำให้พูดผิดคิดผิดทำผิด แต่เพราะวิชชาปรากฏจึงไม่มีตัณหา ไม่มีอุปาทานไม่มีชาติ ชรา มรณะ และก็ไม่มีอกุศล’ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณฉลาด คุณก็จะเป็นคนพูดถูกคิดถูกทำถูก ได้ในสิ่งที่คุณหวัง และสำเร็จในสิ่งที่คุณต้องการ
พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (หลวงปู่พุทธะอิสระ) เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย
ชวนเพื่อนเข้าวัด
ปุจฉา : ผมมีเรื่องที่ขอปรึกษาหลวงปู่ คืออย่างนี้ครับ ผมเป็นคนมีเพื่อนมาก แต่ก่อนก็มักชอบสนุกกับเพื่อนๆ คือหลังเลิกงานเราก็จะไปเฮฮาสนุกสนานตามที่ต่างๆกัน แต่หลังๆหลายปีมานี่ผมรู้สึกเบื่อๆ เลยไม่ค่อยได้ไปเฮฮากับพวกเขา ประกอบกับผมเผอิญได้อ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง แล้วรู้สึกว่ามันช่วยทำให้ผมเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น ตั้งแต่นั้นมาผมก็มักจะไปวัดไปฟังธรรมไปปฏิบัติธรรมอยู่เสมอๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่า เวลาในชีวิตของคนเรามีไม่มาก เราต้องขวนขวายขจัดขัดเกลากิเลสที่เกาะกุมอยู่ในใจ ซึ่งจะทำให้เราเป็นทุกข์ และสิ่งที่จะช่วยได้ก็คือพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อผมรู้อย่างนี้จึงได้พยายามชวนเพื่อนๆให้เข้าวัด ฟังธรรมปฏิบัติธรรมกันบ้าง แต่เขาบอกไม่ชอบ ผมเคยเอาเทปและหนังสือธรรมะให้ เขาก็วางทิ้งไว้ ไม่ใส่ใจ ผมจะทำอย่างไรดีครับ ที่จะชวนให้พวกเขาได้เข้าวัดเข้าวาถือ ศีลปฏิบัติธรรมกันบ้าง เพราะยิ่งนานไปเขาก็จะยิ่งจมปลักไปในทางอบายมากยิ่งขึ้น กราบขอบพระคุณครับ..............ฤทธิ์
วิสัชนา : ต้องรอโอกาส และหาโอกาสชวนเขาตอนที่มีทุกข์มากๆ เศร้าโศก เศร้าซึม เสียใจ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่สมปรารถนา อย่าไปชวนตอนที่เขากำลังสนุก กำลังเพลิดเพลินเจริญใจกับกาม คุณทั้งหลาย
ความคิดไม่ลงรอย
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ ดิฉันมีปัญหาบางอย่างที่อยากจะเรียนถามหลวงปู่ ดังนี้ค่ะ ปัญหามีอยู่ว่าในครอบครัวของดิฉัน คือสามี ลูก 3 คน และตัวดิฉันเอง มักจะมีเรื่องมีปัญหาทางความคิดความเห็นที่ไม่ค่อยจะลงรอย ไม่ตรงกันสักเท่าไหร่ ทำให้ต้องมีเรื่องขัดแย้งกันอยู่เนืองๆ แต่ก็ไม่ถึงกับทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันรุนแรงนะคะ เพียงแต่ว่าบางครั้งก็ทำให้ดิฉันรู้สึกเป็นทุกข์ใจกับบางเรื่องบางปัญหา ดิฉันเองไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะไม่ทุกข์ใจ ไม่ทราบว่าหลวงปู่พอจะมีทางแก้ไข หรือแนะนำอะไรได้บ้างไหมคะ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อ้อ..เกือบลืม อีกข้อหนึ่งอยากถามว่าความมุ่งมั่น กับการอยากเอาชนะ เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรคะ..........................................จริยา
วิสัชนา : มันเป็นธรรมชาติ เพราะคนไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะไปไขลานได้ ตัวคุณเองคุณก็คงไม่ชอบให้ใครมาครอบงำชีวิตจิตวิญญาณและความคิดของคุณ ฉันว่าเป็นเรื่องดีที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันแต่ว่าการยอมรับในความคิดเห็นกันได้นั่นสำคัญที่สุด เพราะถ้า มีอะไรคิดเห็นเหมือนกันไปหมด อย่างนั้นก็เป็นครอบครัวปัญญาอ่อนแล้ว สรุปคือเห็นต่างกันได้ไม่เป็นไร แต่ถ้ายอมรับกันและกันได้นั่นละวิเศษสุดแล้ว
ความมุ่งมั่น กับการอยากเอาชนะไม่เหมือนกัน ความอยากเอาชนะ มันเกิดจากมานะความถือตัวถือตน แต่ความมุ่งมั่นมันเกิดจากทิฐิ คือความเห็น
ชี้ให้เขาฆ่า
ปุจฉา : เรียนหลวงปู่ที่เคารพ ผมรู้ว่าการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นเป็นบาป ผิดศีลข้อที่ 1 แต่ว่าถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนฆ่าเอง อย่างเช่นเราไปร้านอาหารที่ขายอาหารทะเล เขาบอกว่ามีกุ้ง ปลา ปูม้าเป็นๆให้เลือกได้ตามใจชอบ แล้วก็มีคน มาเลือกมาชี้อเอาปลาเอาปูตัวนั้นตัวนี้ ให้ทางร้านไปทำอาหารตามที่ต้องการ ผมเลยอยากจะรู้ว่าการที่คนกินปูปลาที่ไปชี้ไปเลือกเอาอย่างนั้น จะเป็นบาปหรือไม่ เพราะไม่ได้ฆ่าสัตว์ด้วยตัวเอง ผมเองก็ เคยทำอย่างนี้เหมือนกัน แต่พอมีคนบอกว่าบาป ผมก็เลยไม่ทำอีก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าบาปจริงๆหรือไม่ หลวงปู่โปรด ชี้แนะด้วยครับ....................................ชาญชัย
วิสัชนา : ถ้ากินโดยไม่มีเจตนาไปชี้ไปสั่งให้เขาฆ่า ก็ไม่เป็นไร บาปมันเกิดที่การฆ่า ไม่ได้เกิดที่การกิน ถ้าคุณไม่ใช่เป็นคนฆ่า หรือชี้ให้ฆ่า บาปก็ไม่ได้อยู่ที่คุณ ต่อเมื่อใดที่คุณทำอย่างที่ว่ามาบาปก็จะอยู่ที่คุณด้วย
ทำบุญไถ่บาป
ปุจฉา : นมัสการท่านหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันเคยได้ยินเขาพูดกันมาว่า การทำบุญไถ่บาปของผู้หลงผิดแล้วคิดได้ในเวลาชาติเดียวกันนี้ สามารถจะทำได้ ทำให้ชาติหน้าไม่มีบาปติดตัวไป เพราะไถ่หมดแล้วในชาตินี้ เรื่องอย่างนี้เป็นไปได้หรือคะ หลวงปู่ช่วยกรุณาตอบให้ด้วยค่ะ......................................พิมล
วิสัชนา : ทำบุญไถ่บาปไม่มี สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำกรรมอย่างไรได้ผลอย่างนั้น เพราะในขณะที่คุณทำบาปก็ไม่ได้ทำบุญ ในขณะที่ทำบุญก็ไม่ได้ทำบาป อย่าเอามาปนกัน บุญกับบาปทำคนละที ขนาดพระอรหันต์อย่างพระโมคคัลลา ยังหนีกรรมไม่ได้เลย แล้วทำบุญอะไรมันถึงจะไถ่บาปได้ล่ะ แต่ที่เขามักจะพูดกันอย่างนั้น อาจเป็นการบอกให้คนที่ทำชั่วแล้ว ก็รู้จักทำดีบ้าง ปลอบใจคนชั่วว่าถ้าคุณ กลับใจได้ก็จะเป็นคนดีขึ้นมาบ้าง อย่าชั่วตลอดชีวิต คงจะทำนองนี้
ผลจากการอนุโมทนา
ปุจฉา : ตามที่ได้ติดตามอ่านการปุจฉา-วิสัชนา ของหลวงปู่มาหลายครั้ง ทำให้รู้ว่าการอนุโมทนาก็ทำให้เกิดผลบุญได้ แต่ก็อยากจะทราบว่าผลบุญที่เราจะได้รับจากการอนุโมทนาคืออะไรบ้างคะ ขอความกรุณาวิสัชนาด้วยค่ะ...พรพรรณ
วิสัชนา : การอนุโมทนาเป็นหนึ่งใน วิธีการทำบุญ 10 แบบ คือบุญสำเร็จได้ ด้วยการอนุโมทนา เพราะการอนุโมทนา คือพลอยยินดีที่เห็นคนอื่นทำดี เหมือนที่เรายินดีเมื่อเห็นลูกเราทำดีและได้ผลดีจากการกระทำ ยินดีเมื่อเห็นผัวเราทำดีและได้ผลดีจากการกระทำ ยินดีเมื่อเห็นเมียเราทำดีและได้ผลดีจากการกระทำ นั่นแหละคือ คุณลักษณะพิเศษ ของอนุโมทนาคือ อิ่มใจ เบาใจ สบายใจ แต่ถ้าอนุโมทนาแล้วยังหนักอึ้ง มึนงง สับสน นั่นไม่ใช่อนุโมทนา
อยากมีโยนิโสมนสิการ
ปุจฉา : กราบเรียนพระคุณเจ้าหลวงปู่พุทธะอิสระที่เคารพ กระผมมีปัญหาอยากจะกราบเรียนถามท่านว่า จะมีวิธีการทำอย่างไรให้โยนิโสมนสิการเกิดขึ้น ในตัวเราได้บ้าง กราบขอบพระคุณมากครับ...............................อัศวิน
วิสัชนา : โยนิโสมนสิการ คือการพิจารณาใคร่ครวญอย่างละเอียดถี่ถ้วน เรื่องนี้มันเป็นปัญหาของแต่ละบุคคลเหมือนกัน คนบางคนมีจิตอันหยาบ การพิจารณาก็คงไม่ละเอียด คนบางคนมีจิตอันละเอียด ก็จะพิจารณาได้ละเอียด
การรู้จักพิจารณาใคร่ครวญสิ่งแวดล้อมสรรพชีวิตและสิ่งที่ตัวเองมีมันต้อง เริ่มมาจากการฝึกสติ ฝึกให้มาก ทำให้สติปรากฏ แล้วความใคร่ครวญพิจารณา พินิจพิเคราะห์ก็จะอุบัติขึ้นตามมา
| 
