เผยโฉม ‘ยอดมนุษย์’ ผู้ปราบมาร อภิบาลคนดี
หากเอ่ยถึง ‘ยอดมนุษย์’ บรรดาเด็กๆ รวมถึงผู้ใหญ่ ที่หัวใจยังผูกพันกับฮีโร่ผู้ปราบอธรรมต่างก็ต้องนึกถึง ‘อุลตร้าแมน’ ยอดมนุษย์ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกจากท่าไม้ตายที่พิฆาตเหล่าร้ายด้วยการปล่อยแสง แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้แก่แฟนๆของอุลตร้าแมนก็คือ แท้จริงแล้วซูปเปอร์ฮีโร่ตัวนี้เกิดจากฝีมือของคนไทยที่ชื่อ ‘สมโพธิ แสงเดือนฉาย’ ประธานบริษัท ซึบูราญ่า ไชโย จำกัด นอกจากนั้นต้นแบบของอุลตร้าแมนยังมาจากพระพักตร์ของพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยอีกด้วย
เหตุใดสมโพธิจึงนำพระพักตร์ของพระพุทธรูปมาเป็น ต้นแบบ และพระพุทธรูปที่นำมาเป็นแบบนั้นคือพระพุทธรูปองค์ใด อยู่ที่วัดไหน จังหวัดอะไร รวมถึงท่าปล่อยแสง ของอุลตร้าแมนนั้นมาจากรูปแบบใด สมโพธิได้เผยให้ฟังถึงที่มาที่ไปของตัวเองและยอดมนุษย์ไว้ว่า
สมโพธิ แสงเดือนฉาย เจ้าของลิขสิทธิ์อุลตร้าแมน
หนีดวงโจร เลือกเดินสายศิลป์
ชื่อของนักสร้างภาพยนตร์ผู้นี้ดูจะผูกพันกับพุทธศาสนาอยู่ไม่น้อย เนื่องจากสมัยนั้นพ่อแม่ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อลูกด้วยคำเพียงพยางค์เดียว สมโพธิเป็นลูกคนเล็ก ที่บ้านจึง ตั้งชื่อให้ว่า ‘เล็ก’ แต่ด้วยความเป็นเด็กดื้อรั้น พ่อแม่จึงส่ง ไปเป็นลูกศิษย์วัดเพื่อให้พระช่วยอบรมสั่งสอน และหลวงพ่อที่วัดได้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า ‘สมโพธิ’ (อ่านว่า สม-โพด) ซึ่งมาจากคำว่า ‘สมโพธิญาณ’ แปลว่า ‘การตรัสรู้’ หลวงพ่อยังบอกด้วยว่าดวงของเขานั้นถ้าเดินในเส้นทางโจรก็จะเข้า ขั้นมหาโจร แต่หากรักในทางศิลปะเขาก็จะเป็นบุคคลที่มี ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
โชคดีที่เขาเดินมาถูกทางโดยสมโพธิเริ่มสนใจการถ่ายภาพมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เขามีผลงานภาพถ่ายลงในหนังสือชัยพฤกษ์ และวิทยาสาร ติดต่อกันหลายปี จนกระทั่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ในสาขาวิชาช่างภาพ และได้เข้าทำงานที่กองการโฆษณา ธนาคารออมสิน ซึ่งทำให้มีโอกาสได้ทุนไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น และเมื่อเรียนจบเขาก็กลับมาทำงานที่ธนาคารออมสิน พร้อมกับลงทุนสร้างภาพยนตร์ทีวี ด้วยวัยเพียง 23 ปี ทำให้เขา เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และ 3 ปีต่อมาเขาก็เบนเข็มไปสร้างภาพยนตร์เพื่อฉายตามโรงหนัง
สมโพธินำภาพพระพุทธรูปที่จะเป็นต้นแบบในการสร้างอุลตร้าแมนไปให้อาจารย์เอยิ ซึบูราญ่า(คนซ้าย)ดู
อดีตนายกฯ-หม่อมคึกฤทธิ์ ตั้งชื่อบริษัทให้ว่า ‘ไชโย’
เนื่องจากสมโพธิเป็นคนที่มีความคิดความอ่านโตเกินวัย ในช่วงวัยรุ่นเขาจึงไม่ชอบคบเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่จะคบกับคนที่โตกว่า หลายคนจึงแปลกใจที่เห็นเด็กหนุ่มวัย 15-16 ปี ที่ชื่อสมโพธิสนิทสนมคุ้นเคยกับศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง ประยูร จรรยาวงศ์, เหม เวชกร ไปจนถึงหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมทย์
“ตอนที่ผมไปขอเข้าพบหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ครั้งแรก ผมอายุแค่ 15 ปี อยู่มัธยม 5 ซึ่งสมัยนั้นเขาเรียก ม.5 นะ วันนั้นไปยังขำเลย ท่านนัด 11 โมง เราก็ไปรอตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง ท่านก็เดินผ่านไปผ่านมา แล้วก็ดูนาฬิกา เอ๊ะ! 11 โมงแล้ว ท่านก็เดินบ่นไปที่โต๊ะทำงานของคุณประยูร (ประยูร จรรยาวงศ์) ว่าไอ้นายสมโพธินี่นัด 11 โมงแล้วทำไมยังไม่ มา ผมก็รีบบอกท่านว่า ผมมาตั้งแต่ 10 โมงครึ่งแล้วครับ ท่านก็ตกใจว่า อ้าว!..นี่มันเด็กนักเรียนนี่หว่า (หัวเราะร่วน) คือตอนนั้นผมจะไปสมัครเป็นช่างภาพที่สำนักพิมพ์ของท่าน ผมส่งผลงานไปให้ท่านดูก่อน ท่านชอบใจก็เลยเรียก ไปคุย แต่ท่านไม่นึกว่าภาพถ่ายที่ส่งไปจะเป็นฝีมือของเด็ก (หัวเราะ)” สมโพธิ์เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าชื่อ ‘บริษัทไชโย โปรดักชั่น’ นั้นเป็นชื่อที่ท่านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของไทย และศิลปินผู้มีฝีมือเอกอุเป็นผู้ตั้งให้ ด้วยท่านเห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ของสมโพธิ ซึ่งนอกจากจะเป็นช่างภาพฝีมือดีแล้วยังเป็นลูกน้องเก่าที่ท่านให้ความเอ็นดูอีกด้วย
“หม่อมคึกฤทธิ์ท่านบอกว่าให้ชื่อ บริษัทไชโย แปลว่าผู้ชนะ คือชนะทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เราก็ได้วิชาถ่ายภาพ ที่ท่านสอนมาทำมาหากินจนสร้างฐานะได้ ปีนี้บริษัทไชโยก็ครบ 40 ปีแล้ว ผมทำหนังทีวีได้ 4-5 เรื่องก็มาทำหนังโรง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวต่อสู้ แนวอภินิหาร เป็นหนังสำหรับเด็กและดูกันได้ทั้งครอบครัว ซึ่งเหตุผลที่ผมทำหนังแนวนี้ก็เพราะเห็นว่าเมืองไทยสมัยนั้นมีแต่หนังโจร พระเอกกับผู้ร้ายยิงกันสนั่นจอ กับหนังโป๊ ซึ่งมันไม่เหมาะกับเด็กๆ เราเลยอยากทำหนังที่เด็กดูได้โดยไม่เป็นพิษเป็นภัย”
สมโพธิ กับต้นแบบอุลตร้าแมนแบบแรก ที่ร่างแบบและปั้นโดย โทรุ นาริตะ(คนขวา)
กำเนิดยอดมนุษย์
ย้อนไปเมื่อพ.ศ.2505 สมโพธิซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 20 ปี มีตำแหน่งเป็นช่างถ่ายภาพยนตร์ ที่กองการโฆษณา ธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน แต่ด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ทำให้เขามีโอกาสได้ทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสมโพธิเลือกไปเรียนการทำสเปเชียลเอฟเฟค กับอาจารย์เอยิ ซึบูราญ่า ผู้ก่อตั้งบริษัทซึบูราญ่า โปรดักชั่น และผู้สร้าง ภาพยนตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสเปเชียลเอฟเฟค
ในช่วงนั้นบริษัทซึบูราญ่าได้สร้างภาพยนตร์เรื่องคิงคอง ผจญกอสสิล่า ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก แต่ในมุมมองของสมโพธิแล้วกลับเห็นว่าหากจะสร้างฮีโร่ขึ้นมาสักตัว ตัวเอกของเรื่องก็ไม่ควรจะเป็นสัตว์ประหลาด แต่น่าจะนำคนมาสวมบทพระเอกผู้ปราบอธรรมมากกว่า ดังนั้นต่อมาในปี 2506 สมโพธิจึงเสนอไอเดียกับอาจารย์เอยิ ว่าเขาจะหาคาแรกเตอร์ของพระเอกที่เป็นมนุษย์มาปราบคิงคองและกอสสิล่า และสร้างเป็นภาพยนตร์ทีวี นี่เองจึงเป็นที่มาของ ‘อุลตร้าแมน’ ยอดมนุษย์ขวัญใจเด็กๆ ตัวแรก ของญี่ปุ่นที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2508
พระปางลีลา
เผยโฉมยอดมนุษย์ พร้อมอาวุธปราบมาร
การที่สมโพธินำพระพักตร์ของพระพุทธรูปมาเป็นแบบในการสร้างอุลตร้าแมนนั้นก็หาใช่ความบังเอิญหรือไอเดียชั่วแล่น แต่เกิดจากแรงบันดาลใจที่เขาได้ซึมซับธรรมะมา ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยในฐานะเด็กวัด สมโพธิวางคอนเซ็ปไว้ว่ายอดมนุษย์ต้องเป็นผู้ที่ใช้ธรรมะปราบอธรรม และใน มุมมองของเขานั้น ‘ยอดมนุษย์’ ที่ใช้ธรรมะปราบอธรรม มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลและอยู่ในใจเขามาตลอดก็คือ ‘พระพุทธเจ้า’ ดังนั้นเมื่อเขาจะสร้างยอดมนุษย์ในโลกเซลลูลอยด์ขึ้นมาสักตัวหนึ่งเขาจึงเลือกที่จะนำสัญลักษณ์บาง อย่างที่สื่อถึงพระพุทธองค์มาใส่ไว้ในตัวยอดมนุษย์
“ชื่อยอดมนุษย์นี่ผมเป็นคนตั้งเอง คือจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าท่านก็เป็นมนุษย์ แต่ท่านสั่งสมความดีจนสามารถ ตรัสรู้ธรรม ท่านจึงเป็นยอดแห่งมนุษย์ แรงบันดาลใจเกิด จากตรงนี้ ผมจึงนำภาพถ่ายพระพุทธรูป 3 องค์ ไปให้อาจารย์เอยิดู ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยและอยู่ในจังหวัดสุโขทัยทั้ง 3 องค์ คือพระปางลีลา จากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระปางห้ามญาติ วัดสะพานหิน และพระอัฏฐารส ปางเปิดโลก ซึ่งอาจารย์เห็นแล้วชอบมาก ท่านจึงให้นำพระพุทธรูปดังกล่าวมาเป็นต้นแบบในการร่างคาแร็กเตอร์ของยอดมนุษย์ โดยมีโทรุ นาริตะ เป็นผู้เขียน แบบตามที่ผมบอก
นอกจากนั้นอาจารย์เออิยังสังเกตเห็นว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์มีท่าทางไม่เหมือนกัน ผมก็อธิบายว่านี่คือปางต่างๆของพระพุทธรูป เช่น ปางห้ามญาติ ปางเปิดโลก แต่ละปาง ก็มีพุทธานุภาพไม่เหมือนกัน อาจารย์ก็รู้สึกทึ่ง และบอกว่า น่าจะนำท่าทางเหล่านี้มาดีไซน์เป็นท่าไม้ตายในการปราบสัตว์ประหลาด จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นท่าปล่อยแสง
เหตุที่ผมนำพระพุธรูปสมัยสุโขทัยมาเป็นต้นแบบก็เพราะพระพุทธรูปในสมัยนี้ท่านมีใบหน้าที่ยิ้ม ดูมีเมตตา คืออุลตร้าแมนเป็นพระเอกก็ควรจะดูใจดี ซึ่งจุดที่เรานำมาเป็นจุดเด่นของอุลตร้าแมนก็คือใบหน้าเรียวมน ปากยิ้ม ตาเรียวคล้ายกับตาพระพุทธรูปที่หลุบตามองต่ำ และรูปร่างเพรียว ที่สำคัญอุลตร้าแมนเป็นยอดมนุษย์ที่ไม่มีอาวุธ แต่จะปราบสัตว์ประหลาดโดยการปล่อยแสงออกจากร่างกาย ซึ่งแสงนี้ก็เปรียบเสมือนพลังแห่งความดีที่มีอยู่ในตัว” สมโพธิ อธิบายถึงที่มาของต้นแบบในการสร้างอุลตร้าแมน
พระอัฏฐารส
สัตว์ประหลาดคือตัวแทนของมาร
นอกจากคาแรกเตอร์ของอุลตร้าแมนแล้วเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังนำเอาธรรมะขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นแก่นแกนในการดำเนินเรื่อง เพื่อให้เด็กๆ ซึมซับในเรื่องของคุณธรรม โดยให้อุลตร้าแมนเป็นตัวแทนของความดีหรือฝ่ายธรรมะ และให้สัตว์ประหลาดเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายหรือฝ่ายอธรรม
“ผมและอาจารย์เอยิมีจุดประสงค์ตรงกันในการสร้างภาพยนตร์เรื่องอุลตร้าแมน คือต้องการให้เด็กในรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีธรรมะ จะได้ไม่ต้องมาเข่นฆ่ากันอีก ซึ่งเรื่องพวกนี้เราต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ โดยผมเป็นคน กำหนดเนื้อหาที่เป็นแก่นของเรื่อง คือธรรมะย่อมชนะอธรรม ส่วนรายละเอียดในแต่ละตอนคนญี่ปุ่นจะเป็นคนเขียน
เราไม่ได้นำพระพุทธรูปมาล้อเล่นนะครับ แต่นำคาแร็กเตอร์ของท่านมาเป็นต้นแบบ เพราะโครงเรื่องของเราคือเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะชนะอธรรม ซึ่งก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้นั้นท่านต้องปราบพวกมารมากมาย สัตว์ประหลาดในเรื่องอุลตร้าแมนก็เหมือนกับมาร ส่วนอุลตร้าแมนจะเป็นฮีโร่ที่มีความเมตตา บางทีจับสัตว์ประหลาดได้ก็พาไปส่งที่ดวงดาวที่สัตว์ประหลาดอยู่
คาแร็กเตอร์ของสัตว์ประหลาดนั้นเราจะไม่ให้ออกมาในแนวดุร้าย แต่จะดูตลก คาแรกเตอร์ของสัตว์ประหลาดบางตัวนั้นเรานำมาจากตัวโกงในเรื่องรามเกียรติ์ เช่น ทรพี, ทรพา ลวดลายบนตัวของสัตว์ประหลาดบางตัวก็มาจากลาย บ้านเชียง เพราะช่วงที่ผมไปญี่ปุ่นตอนนั้นคนกำลังเห่อลาย บ้านเชียง ส่วนการต่อสู้ระหว่างอุลตร้าแมนและสัตว์ประหลาดก็จะไม่มีภาพที่น่ากลัว เลือดสาดเหมือนอย่างการ์ตูน สมัยนี้ ซึ่งผมมองว่ามันจะไปปลูกฝังให้เด็กเป็นคนก้าวร้าว และโหดร้ายโดยไม่รู้ตัว” สมโพธิ กล่าว
พระปางห้ามญาติ
ยอดมนุษย์ ยุค 2006
อย่างไรก็ดี สำหรับสถาการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันซึ่งบอบช้ำอย่างหนักจากการบริหารงานของระบอบทักษิณนั้น สมโพธิมองว่า ‘ยอดมนุษย์’ ที่จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์นั้นจะต้องมีธรรมะเป็นเข็มทิศนำทาง
“คอนเซ็ปของยอดมนุษย์คือ ธรรมะย่อมชนะอธรรม พวกนักการเมืองที่โกงกินนี่ พวกนี้เป็นสัตว์ประหลาดทั้งนั้น คนที่เข้ามาปราบสัตว์ประหลาดก็คือยอดมนุษย์ ก็ เหมือนกับอุลตร้าแมนตอนที่สู้กับสัตว์ประหลาด เมื่อสัตว์ประหลาดค่อยๆขยายขนาดใหญ่ขึ้น เที่ยวเหยียบทำลาย บ้านคนไปทั่ว อุลตร้าแมนเองก็ต้องขยายขนาดใหญ่ตาม เพื่อปราบสัตว์ประหลาด คือเหมือนกับคนชั่วคนพาล ตอนที่ยังไม่มียศถาบรรดาศักดิ์หรือยังไม่เป็นใหญ่เป็นโตก็ยังไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครมากนัก แต่พอเริ่มมีอำนาจมากก็ลืมตัว คิดว่าตัวเองใหญ่โตเหลือเกิน แล้วก็ใช้อำนาจ เพื่อแสวงหาประโยชน์ เบียดเบียนและคดโกงผู้อื่น นักการเมืองของไทยในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ ซึ่งผู้ที่จะมาปราบคนชั่วเหล่านี้ก็ต้องมีอำนาจและบารมีมากพอจึงจะสามารถจัดการกับคนพวกนี้ได้”
อุลตร้าแมนที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยโลหะ
งานเผยแพร่ภาพพระราชกรณียกิจ อีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจ
นอกจากการสร้างภาพยนตร์แนวสเปเชียลเอฟเฟคแล้ว อีกผลงานหนึ่งที่สมโพธิภูมิใจคือการผลิตภาพยนตร์เกี่ยว กับพระราชกรณียกิจขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกเผยแพร่แก่ประชาชน เนื่องจากในช่วงปี 2500 เป็นต้นมา จนถึง 2525 เป็นยุคที่ลัทธิคอมมิวนิสต์เข้ามาคุกคามประเทศไทยอย่างหนักและสร้างความแตกแยกให้สังคม ทางธนาคารออมสินซึ่งเป็นต้นสังกัดของสมโพธิจึงมี นโยบายที่จะจัดทำภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งประเทศออกเผยแพร่เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชน
“เวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จไปเปิดงานหรือเสด็จไปเยี่ยมเยียนราษฎร ผมก็จะไปเก็บภาพ ท่านโดยถ่ายเป็นวิดีโอแล้วก็มาตัดต่อเป็นภาพยนตร์ แล้วนำออกฉายให้ประชาชนได้ดู คือสมัยนั้นคนส่วนใหญ่ยังไม่มีทีวีดู บางบ้านไฟฟ้าก็ยังเข้าไม่ถึง มีแต่หนังกลางแปลง ประชาชนส่วนมากจึงไม่ทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนอย่างไรบ้าง บางคนไม่รู้แม้กระทั่งว่าพระเจ้าอยู่หัวหน้าตาเป็นอย่างไร คือสื่อต่างๆมันยังไม่กว้างขวางเหมือนสมัยนี้
ทีมงานของธนาคารออมสินก็จะนำภาพยนตร์พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านไปฉายให้ประชาชนได้ดู โดยเราตระเวนฉายหนังกลางแปลงซึ่งก็เป็นพวกภาพยนตร์ ทั่วไปที่ฉายกันในช่วงนั้น แต่ก่อนที่หนังจะฉายนั้นเราก็นำภาพยนตร์พระราชกรณียกิจมาฉายก่อน พวกผมก็บรรยาย ว่าท่านเสด็จไปที่ไหน อย่างไร ก็พากย์กันสดๆเลย สมัยนั้นจอมพลสฤษดิ์ (จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย) กับผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ท่านเห็นตรงกันว่าประเทศไทยต้องมีในหลวงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งงานนี้เป็นสิ่งผมภาคภูมิใจมาก” สมโพธิเล่าด้วยความปลาบปลื้ม
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นยอดมนุษย์ในโลกเซลลูลอยด์ หรือยอดมนุษย์ในชีวิตจริง แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือผู้ที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นยอดมนุษย์นั้นจะต้องมีคุณงามความดีและเป็นผู้ที่เสียสละเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นอย่างแท้จริง มิใช่เพียงเสียงตะโกนป่าวร้องถึงความเสียสละ ขณะที่สองมือยังไขว่คว้าหาอำนาจและผลประโยชน์อย่างมิรู้จบสิ้น
อุลตร้าแมนภาคต่างๆ ซึ่งทุกตัวยังคงเอกลักษณ์ที่เหมือนกันคือ หุ่นเพรียว ตาเรียว ปากยิ้ม และมีดวงไฟอยู่กลางอก
|