หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

คนดีอย่างกวนอู

ความกตัญญูรู้คุณคนถือเป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ถ้าใครเป็นคนกตัญญู ผู้คนมักจะยินดีที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลมากกว่าคนที่อกตัญญูไม่รู้คุณคน เพราะรู้ว่าถ้าช่วยเหลือคนแบบนี้แล้ว ยามที่ไปขอความช่วยเหลือเขา ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คนแบบนี้จะต้องทดแทนบุญคุณ เรามักจะพบได้เสมอในหนังจีนกำลังภายในจากประโยคที่ว่า "บุญคุณต้องทดแทน" ถือว่าเป็นคุณธรรมของผู้ที่เป็นจอมยุทธ์แท้ๆ


คนกตัญญูคือคนที่มักจะซื่อสัตย์ด้วย เพราะเขาซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ถ้าใครเคยช่วยเหลือเขา เขาจะจำและถือเป็นสัตยาบรรณที่จะต้องทดแทนหรือใช้หนี้บุญคุณนั้น

นอกจากเราจะพบคุณธรรมข้อนี้ในหนังจีนกำลังภายในแล้ว เรายังพบในหมู่นักเลงอีกด้วย ไม่ว่านักเลงชาติไหนก็ดูจะมีอะไรที่คล้ายๆ หลักการ "บุญคุณต้องทดแทน" มิฉะนั้นไม่ใช่นักเลงหรือลูกผู้ชายตัวจริง

เมื่อพูดถึงความเป็นลูกผู้ชายแล้ว ก็อดนึกถึงเหล่าทหารหาญไม่ได้ เพราะในหมู่ทหารก็นับถือคุณธรรมข้อนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจอมยุทธ์และนักเลงโบราณ ในหมู่ทหารเขา "มีนายมีลูกน้อง" กัน นายต้องมีหน้าที่อุปถัมภ์ดูแลลูกน้อง ซึ่งต่างจากตำรวจที่ลูกน้องมีหน้าที่ดูแลอุปถัมภ์นาย ดังนั้น คุณธรรมเรื่องความกตัญญูจึงไม่แรงในหมู่ตำรวจเท่ากับทหาร สายสัมพันธ์ของเหล่าทหารหาญนั้นแน่นแฟ้นกว่าตำรวจมากนัก


กวนอู ถือเป็นตัวละครสำคัญในสามก๊ก ซึ่งเป็นเรื่องจีน กวนอูจึงตกอยู่ในกระแสเดียวกันกับพวกกำลังภายใน ซึ่งเป็นเรื่องของจีนเหมือนกัน อีกทั้งกวนอูยังเป็นนักรบหรือทหารอีกด้วย และถ้าจะกล่าวว่า กวนอูเป็นนักเลงโบราณด้วย ก็คงไม่ผิดอะไร

ในสามก๊ก กวนอูเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณคนและซื่อสัตย์ต่อหลักการเป็นอย่างยิ่ง เมืองไทยเราก็นับถือกวนอูเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ตั้งศาลเจ้าให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา และนับวันจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่กวนอูเป็นเจ้าพ่อตามศาลเจ้า แต่ไม่ยักมีศาลเจ้าเล่าปี่ ก็เพราะเมื่อกวนอูตายแล้ว วิญญาณยังพยาบาทเป็นอสุรกายอาฆาตแค้นอาละวาดเอาเรื่องอยู่ ซึ่งจะได้ขยายความต่อไปทีหลัง


มีครั้งหนึ่ง ขงเบ้งวางแผนจับตัวโจโฉ และมอบหมายสั่งงานให้เหล่าทหารไปเตรียมการ ให้จูล่งคุมทหารสามพันยกข้ามแม่น้ำลัดไปซุ่มอยู่ใกล้ตำบลฮัวหลิม โดยคาดการณ์ไว้ว่าราวสามยาม กองทัพโจโฉจะแตกไปทางตำบลดังกล่าว อีกทั้งให้เตียวหุยคุมทหารอีกสามพันไปซุ่มอยู่อีกทางหนึ่ง หากทัพโจโฉจะหนีไปทางนั้น และสั่งให้บิต๊ก บิฮองคุมเรือรบไปเที่ยวอยู่ตามชายทะเลคอยจับทหารโจโฉที่จะหนีลงมา แล้วให้เล่ากี๋คุมเรือรบไปตั้งอยู่ตำบลฮูเชียงซึ่งเป็นที่สำคัญ โดยถ้าเห็นโจโฉแตกมาทางนี้ก็ให้ทีจะดักจับโจโฉได้ก็ให้จับไว้

ส่วนกวนอูเห็นขงเบ้งใช้คนอื่น แต่ไม่ใช่ตน ก็น้อยใจที่ตนไม่ได้มีหน้าที่อะไรในแผนสำคัญนี้ เนื่องด้วยกวนอูเป็นคนกล้า ซึ่งความกล้าอยากทำงานนี้ บางคนก็ว่าเป็นความทะเยอทะยานขี้อิจฉาเสียมากกว่าด้วยซ้ำ จึงไม่พอใจที่ขงเบ้งมิได้กะเกณฑ์ให้ไปทำการแห่งใด จึงว่าแก่ขงเบ้งว่า "ตัวข้าพเจ้านี้มาอยู่กับเล่าปี่ช้านาน ครั้งนี้ท่านแคลงข้าพเจ้าสิ่งใดหรือ จึงไม่ใช้ไปทำการเหมือนคนทั้งปวง" ขงเบ้งตอบว่า "ยังมีที่สำคัญอยู่แห่งหนึ่ง ครั้นจะให้ท่านไปก็มีความสงสัยอยู่" กวนอูจึงถามว่า "ท่านสงสัยด้วยเหตุอันใด"


ขงเบ้งจึงว่า "ซึ่งเราแคลงใจท่านนั้นด้วยเหตุว่า แต่ก่อนท่านได้ไปอยู่กับโจโฉ โจโฉก็เอ็นดูทำนุบำรุงท่าน อันน้ำใจท่านมีความสัตย์รู้จักคุณคน เวลาวันนี้โจโฉจะแตกไปทางฮัวหยง ครั้นเราจะให้ไป ท่านจะคิดถึงคุณโจโฉอยู่ จะไม่ฆ่าโจโฉเสีย" กวนอูจึงตอบว่า "อันสติปัญญาของท่านนี้ลึกซึ้งหลักแหลมนัก ซึ่งโจโฉเลี้ยงดูนั้น ข้าพเจ้าก็ได้อาสาฆ่างันเหลียง บุนทิว แทนคุณโจโฉแล้ว แม้จะให้ข้าพเจ้าไปครั้งนี้ ถ้าพบโจโฉแล้ว ข้าพเจ้ามิได้ตัดศีรษะโจโฉมาให้ท่าน ก็ให้ท่านตัดศีรษะข้าพเจ้าแทนเถิด แต่ข้าพเจ้าเกรงอยู่ว่า ถ้าโจโฉจะไม่หนีไปทางฮัวหยงอันเป็นทางลัด ฝ่ายท่านจะว่าประการใดเล่า"

ขงเบ้งจึงว่า "แม้ท่านยกไปไม่พบโจโฉทางนั้น ก็ให้เร่งกลับมาเถิด เราจะตัดศีรษะเรานี้ให้แทนโจโฉ" ว่าแล้วขงเบ้งก็สั่งให้กวนอูคุมทหารห้าร้อยไปตั้งสกัดอยู่ทางฮัวหยง

หลังจากกวนอูไปแล้ว เล่าปี่จึงว่าแก่ขงเบ้งว่า "ตัวท่านก็รู้น้ำใจกวนอูอยู่ว่าเป็นคนกตัญญูต่อผู้มีคุณ เมื่อท่านใช้กวนอูไปครั้งนี้ ถึงมาตรว่าจะพบโจโฉเข้า กวนอูก็จะไม่ทำอันตรายเพราะคิดถึงคุณเขาอยู่ แลการทั้งปวงซึ่งท่านคิดไว้ก็จะมิเสียไปหรือ"


ขงเบ้งจึงตอบว่า "ข้าพเจ้าดูดาวสำหรับมหาอุปราชก็ยังรุ่งเรืองสุกใสอยู่ เพราะชะตาโจโฉยังไม่ขาด ข้าพเจ้าจึงแกล้งให้กวนอูไปทำการครั้งนี้ หวังจะให้แทนคุณโจโฉเสียให้เสร็จกัน สืบไปภายหน้ากวนอูจะได้ทำการกับโจโฉถนัด"

ในที่สุด แผนการสกัดจับโจโฉก็สัมฤทธิผลตามที่ขงเบ้งวางไว้ โจโฉถึงทางตัน จะหนีก็ไม่ได้ จะสู้ก็ไม่ได้ เทียหยกจึงแนะนำโจโฉว่า "อันน้ำใจกวนอูเป็นทหารนั้นก็จริง ถ้าเห็นผู้ใดไม่สู้รบแล้วก็มิได้ทำอันตราย ประการหนึ่ง เป็นผู้มีความสัตย์ ทั้งรู้จักคุณคนนักด้วย แล้วท่านก็ได้เลี้ยงดูมีคุณไว้ต่อกวนอูเป็นอันมาก แม้ท่านเข้าไปว่ากล่าวโดยดี เห็นกวนอูจะไม่ทำอันตรายท่าน"

โจโฉฟังแล้วก็เห็นชอบตามคำแนะนำของเทียหยก จึงขับม้าไปใกล้ถ่อมตัวลงคำนับแล้วร้องถามว่า "แต่ท่านจากเรามายังมีความสุขอยู่หรือ?" กวนอูได้ฟังดังนั้นก็ยอบตัวลงคำนับแล้วว่า "สุขแลทุกข์ก็เป็นประมาณอยู่ บัดนี้ขงเบ้งให้ข้าพเจ้ามาฆ่ามหาอุปราชเสีย" โจโฉจึงว่า "เราแตกจิวยี่มาครั้งนี้ได้ความลำบากนัก ท่านจงเห็นแก่ความไมตรีของเราซึ่งมีไว้แก่ท่านแต่ก่อน จงเปิดทางให้เราไป"

กวนอูจึงตอบว่า "ซึ่งคุณของมหาอุปราชอยู่กับข้าพเจ้านั้นก็จริงอยู่ ครั้งเมื่ออ้วนเสี้ยวยกมารบท่านตำบลแปะแบ๊นั้น ข้าพเจ้าได้อาสาฆ่างันเหลียง บุนทิว แทนคุณท่านแล้ว บัดนี้เป็นการของขงเบ้งใช้ให้มา ซึ่งท่านจะให้ข้าพเจ้าเปิดทางให้ไปนั้น ขงเบ้งจะมิเอาโทษข้าพเจ้าหรือ?"


โจโฉตอบไปว่า "ซึ่งท่านแทนคุณเราครั้งหนึ่งก็จริง แลเมื่อท่านหักด่านออกมาถึงห้าตำบล แล้วฆ่านายด่านแลทหารทั้งปวงเสียเป็นอันมาก เราก็มิได้โกรธด้วยคิดถึงคำที่ท่านได้ว่าไว้ เราจึงให้หนังสือไปถึงแฮหัวตุ้นซึ่งอยู่แม่น้ำฮองโหให้ปล่อยท่านไป บัดนี้เราเข้าตาจนเหมือนหนึ่งคนตกน้ำ แล้วก็ไม่ต่อสู้ท่าน ท่านจงเห็นไมตรีเราซึ่งได้อ้อนวอน ท่านจงปล่อยเราให้พ้นภัยเถิด" กวนอูได้ฟังโจโฉว่าดังนั้นก็มีความสงสาร ทั้งคิดถึงคุณซึ่งมีมาแต่หลัง จึงขับม้าพาทหารหลีกทางเสีย

จะว่าไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของขงเบ้งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการที่โจโฉไม่มีทางรอด รวมทั้งที่กวนอูยอมปล่อยตัวโจโฉไป ด้วยความยึดมั่นในคุณธรรมความเป็นคนกตัญญูของตน ไม่มีสิ่งใดจะมาขัดขวาง "การทดแทนบุญคุณ" ของกวนอูได้ ทำให้โจโฉรอดตัวไปได้

เมื่อกวนอูคุมทหารกลับถึงหน้าค่าย ขงเบ้งรู้เข้าก็พาเล่าปี่แสร้งทำทีออกไปรับ แล้วว่าแก่กวนอูว่า "ตัวเรารู้ว่าท่านผู้มีน้ำใจช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินไปได้ศีรษะโจโฉซึ่งเป็นศัตรูราชสมบัติมา เราออกมารับท่านด้วยความยินดี" กวนอูได้ฟังก็นิ่งอยู่ ขงเบ้งเห็นกวนอูสะเทินใจก็แกล้งซ้ำว่า "ท่านน้อยใจเราหรือว่าไม่ไปรับถึงกลางทาง" แล้วว่าทหารทั้งปวงว่า "เหตุใดจึงไม่ไปบอกข่าวให้เรารู้ก่อนจะได้ไปรับกวนอู ควรหรือนิ่งเสียได้ แล้วให้กวนอูโกรธจนไม่พูดกับเรา"


กวนอูได้ฟังขงเบ้งว่าดังนั้น จึงว่า "ข้าพเจ้าจะมารับโทษ" ขงเบ้งจึงแกล้งถามว่า "ท่านไปไม่พบโจโฉ จะกลับมาเอาศีรษะเราหรือ" กวนอูจึงบอกว่า "ข้าพเจ้าไปนั้นพบโจโฉเหมือนคำท่าน แต่ข้าพเจ้าหามีฝีมือไม่ โจโฉจึงหนีไปได้" ขงเบ้งก็หัวเราะแล้วถามว่า "อันตัวโจโฉหนีไปได้นั้นก็ตามทีเถิด แต่ท่านยังจับทหารมาได้บ้างหรือไม่" กวนอูบอกว่า "ถึงทหารโจโฉนั้น ข้าพเจ้าก็จับไม่ได้" ขงเบ้งทำเป็นโกรธแล้วว่า "ตัวท่านไปพบโจโฉแล้ว หากคิดถึงคุณเขาอยู่ จึงมิได้เอาศีรษะมานั้นโทษท่านใหญ่หลวงนัก ซึ่งสัญญาไว้แก่เรานั้นลืมเสียแล้วหรือ?"

กวนอูจึงตอบว่า "ซึ่งข้าพเจ้าสัญญาไว้ว่า ถ้าพบโจโฉแล้วมิได้เอาศีรษะมานั้นก็จะให้ศีรษะข้าพเจ้าแทนตามสัญญา" แล้วกวนอูก็ชักกระบี่ออกจะตัดศีรษะให้ขงเบ้ง ขงเบ้งเห็นกวนอูชักกระบี่จะตัดศีรษะให้ฟังดังนั้นก็เข้ายุดมือไว้แล้วห้ามว่า

"ซึ่งเราใช้ท่านไปทั้งนี้ ปรารถนาจะให้ท่านแทนบุญคุณโจโฉดอก มิได้คิดว่าจะเอาโทษท่าน ซึ่งท่านจะให้ศีรษะเราตามสัญญานั้นก็ขอบใจที่มิได้เสียความสัตย์ สมเป็นชาติทหาร แล้วไปเถิด"


คนที่อ่านสามก๊กตอนนี้ คงจะรู้สึกกันไปต่างๆ นานา คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เสียดายที่โจโฉรอดไปได้ เพราะหลังจากนั้น ขงเบ้งก็ไม่มีโอกาสจับตัวโจโฉได้เหมือนครั้งนี้อีกเลย ถ้ากำจัดโจโฉไปได้แล้ว ก๊กเล่าปี่ก็ย่อมจะได้เปรียบและสามารถสถาปนาอำนาจการปกครองแผ่นดินจีนได้อย่างแน่นอน แต่แม้ว่าจะเสียดายโอกาสดังกล่าว แต่หลายคนก็คงอดชื่นชมความเป็นคนยึดมั่นในหลักการคุณธรรมกตัญญูของกวนอูไม่ได้ ขนาดยอมปล่อยศัตรูของนายให้รอดไป ด้วยเหตุผลที่ศัตรูของนายคนนี้เคยช่วยชีวิตตนไว้

คนที่ชื่นชมกวนอูคงคิดว่า ถ้าตนได้ช่วยเหลือคนแบบกวนอูไว้ ย่อมจะเป็นการดีแน่ เพราะสักวันหนึ่ง เมื่อร้องขอความช่วยเหลือ คนแบบนี้ย่อมจะต้องทดแทนกลับคืน ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม คนอ่านที่คิดแบบนี้คงไม่ได้จินตนาการตัวเองเป็นเล่าปี่กระมัง?! พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ได้มองกวนอูในฐานะของคนที่เป็นผู้นำหรือผู้ปกครองที่ลูกน้องของตน ปล่อยให้ศัตรูสำคัญทางการเมืองลอยนวลไปเสียฉิบ

กวนอูสนใจแต่จะรักษาคุณธรรมสำหรับตัวเองในฐานะที่เป็นปัจเจก โดยไม่คิดถึงคุณธรรมสำหรับหมู่คณะ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณธรรมในทางการเมือง ในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งของพวกของตนหรือของนายของตน หรือถ้าพูดให้ถึงที่สุดก็คือ ต่อให้ชาติมีวิกฤตแค่ไหนเพียงไร คนแบบกวนอูก็ยังจะคิดถึงแต่การรักษาคุณธรรมส่วนตัวของตนอยู่ดี ไม่ยอมที่จะเสียสัตย์อกตัญญูเพื่อชาติหรือพวกพ้องอย่างแน่นอน คนอย่างกวนอูอาจจะขายชาติได้โดยไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่รักษาคุณธรรมกตัญญูของตนไว้


ไปข้างบน