เบียวโดอิน สวรรค์ที่เอื้อมถึง

พุทธศาสนิกชนให้ความสำคัญกับสัญลักษณ์ของพุทธศาสนามากแค่ไหน ‘วัดเบียวโดอิน’ ที่อยู่ในเมืองยูจิของกรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น คงให้คำตอบที่ชัดเจนและลึกซึ้ง เพราะไม่เพียงแค่วิหารรูปทรงคล้ายนกฟีนิกซ์ที่เปรียบเสมือนการเวียนว่ายตายเกิดเท่านั้น แต่วิวทิวทัศน์ของวัดแห่งนี้ยังเปรียบประดุจสรวงสวรรค์อีกด้วย และวัดแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมในยุคเฮอันหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น
เบียวโดอินสร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 998 ซึ่งขณะนั้นสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่ พักของผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เหมือนๆกับวัดทั่วไปในญี่ปุ่น โดยเจ้าของคือ มิจินากา ฟูจิวาระ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1052 โยริมิจิ ฟูจิวาระ ผู้เป็นลูกชายได้ใช้เวลากว่าปี เปลี่ยนสถานที่แห่งนี้เป็นวัด และสร้างวิหารฟีนิกส์ขึ้น

วิหารฟีนิกซ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านข้างของแม่น้ำยูจิแห่งนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานของนกฟีนิกซ์ ที่เชื่อกันว่า เป็นนกที่มีความหมายของความเป็นอมตะ การเกิดใหม่ และชีวิตหลังความตาย เพราะนกฟีนิกซ์ มีวงจรชีวิตยาวนานถึง 500 ปี เมื่อถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต นกฟีนิกซ์จะก่อกองไฟขึ้นเผาตนเอง เพื่อกำเนิดขึ้นเป็นนกฟีนิกซ์ตัวใหม่จากกองขี้เถ้านั้น และใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกจนครบ 500 ปี วนเวียนกันอยู่เช่นนี้
ความเชื่อนี้จึงนำมาสู่การสรัางสถาปัตยกรรมที่สื่อให้เห็นถึงการเวียนว่ายตายเกิดตามความเชื่อของศาสนาพุทธ

ลักษณะภายนอกของวิหารแห่งนี้มีลักษณะเหมือนนกฟีนิกซ์ที่สยายปีกอย่างสง่างาม พร้อมที่จะบินไปสู่โลกอันบริสุทธิ์ ด้วยหลังคาที่ยื่นออกไปด้านข้างทั้งสองข้าง และส่วนระเบียงที่ยื่นออกไปด้านหลังมีลักษณะคล้ายหาง ภายใต้ลักษณะโครงสร้าง ของอาคารอันโปร่งโล่ง แต่ละปีกทางด้านข้างของอาคารก็เป็นที่ตั้งของหอสูง ที่ตกแต่ง ภายนอกได้อย่างวิจิตร

ส่วนภายในวิหารมีงานจิตรกรรมอันวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพระพุทธรูปแกะสลักประทับบนดอกบัว รายล้อมด้วยพระโพธิสัตว์ไม้แกะสลักกว่า 52 องค์ ประทับบนก้อนเมฆ โดยฝีมือของโจโช นักแกะสลักชื่อดังชาวญี่ปุ่น ส่วนด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของระฆัง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ระฆังสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสมบัติสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของประเทศ
ส่วนอาคารอื่นๆในวัดที่สร้างขึ้นภายหลัง ส่วนใหญ่โดนทำลายในช่วงสงคราม กลางเมืองในปี 1336 แต่ส่วนที่สวยงามที่สุดของวัดแห่งนี้ คงเป็นสวนและสระน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวิหารฟีนิกซ์ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำยูจิ ภาพทิวทัศน์โดยรวมของวัดเปรียบประดุจสรวงสวรรค์อันงดงาม จนกระทั่งรัฐบาลญี่ปุ่นนำภาพวัดนี้ไปพิมพ์ลง บนเหรียญ 10 เยน

ศาสนวัตถุและศาสนสถานต่างๆในวัดเบียวโดอินได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จไปเยือนวัดเบียวโดอินแห่งนี้เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ปี 1963 และต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 1994 องค์การยูเนสโก้ก็ยกวัดเบียวโดอินขึ้นเป็นมรดกโลก

ต่อมาได้มีการสร้างวัดเบียวโดอิน จำลองขึ้นที่เกาะโออาฮู มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ซึ่งก็มีความสวยงามไม่แพ้ที่ญี่ปุ่นเลย

วัดเบียวโดอินจำลอง สหรัฐอเมริกา
|