ถ้ำผาหยุนกัง แห่งต้าถง มณฑลซานซี:ร่องรอยแห่งพุทธ (1)
สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า "ถ้ำหินสลักหยุนกัง (Cloud Ridge Caves:云冈石窟)"
การก่อสร้างถ้ำหินอันมีพระพุทธรูปสลักอยู่ภายในที่อยู่ในจีนนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก อินเดียแหล่งกำเนิดของพุทธศาสนา ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ก่อนคริสตกาล 206 ปี ถึง ค.ศ.220) และต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่สมัย เป่ยเว่ย สุย จนถึงถัง ที่มีการก่อสร้างกันมากที่สุด
ทั้งนี้ปัจจุบันในประเทศจีนนั้นแม้จะมี ถ้ำหินสลัก (สือคู:石窟) อยู่นับเป็นพันๆ แห่ง แต่ก็มีถ้ำหินสลักที่ได้ชื่อว่า เป็นที่สุด 4 แห่ง** (หนังสือบางเล่มอาจระบุว่ามี 3 แห่งโดยตัด 'ไม่จีซาน' ออกไป) ประกอบด้วย
1.ถ้ำหินสลักม่อเกา (莫高石窟) แห่งตุนหวง (敦煌) มณฑลกานซู่
2.ถ้ำหินสลักหลงเหมิน (龙门石窟) แห่งลั่วหยาง (洛阳) มณฑลเหอหนาน
3.ถ้ำหินสลักหยุนกัง (云冈石窟) แห่งต้าถง (大同) มณฑลซานซี
และ 4.ถ้ำหินสลักไม่จีซาน (麦积山石窟) แห่งเทียนสุ่ย (天水) มณฑลกานซู่
นอกจากที่สุดของ ถ้ำหินสลัก ทั้ง 4 แห่งที่อยู่ในประเทศจีนแล้ว ยังมีถ้ำหินสลักอีกสองแห่งที่ถือว่าเป็นที่สุดในโลก ท่านผู้อ่านหลายท่านคงรู้จัก หรืออย่างน้อยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ก็คือ ถ้ำ Ajanta แห่งประเทศอินเดีย และ ถ้ำ Bamiyan แห่งอัฟกานิสถาน
สำหรับชื่อถ้ำ Bamiyan แห่งอัฟกานิสถานนั้น โด่งดังมากเมื่อ ปี 2544 เนื่องจากผู้นำรัฐบาลตอลิบันที่ปกครองอัฟกานิสถานอยู่ในขณะนั้นสั่งให้ทหารใช้อาวุธหนัก ทำลายพระพุทธรูปยืน 2 องค์ ที่สูงถึง 36 และ 53 เมตร อันเป็นสัญลักษณ์ของ Bamiyan เสีย โดยการกระทำดังกล่าวนั้นถูกคัดค้านจากชาวพุทธ และผู้คนทั่วโลก แต่สุดท้ายก็รั้งเอาไว้ไม่อยู่
กลับมาถึง ถ้ำหินสลักหยุนกัง ที่ ต้าถง กันต่อ
ถ้ำหินสลักหยุนกัง ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยเป่ยเว่ย ราวปี ค.ศ.460 จนถึงราวปี ค.ศ.520-524 รวมระยะเวลาทั้งหมดราว 64 ปี ซึ่งก็หมายความว่า ถึงปัจจุบันถ้ำหินสลักแห่งนี้มีอายุมากกว่า 1,500 ปี เข้าไปแล้ว เคยมีฐานะเป็นวัดอันมีชื่อว่า วัดหลิงแหยน (灵严寺)
ในการสร้างงานพุทธศิลป์เหล่านี้ พวกเขาไม่มีรถตัก เครื่องเจาะไฟฟ้า หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกทั้งหลายที่เราๆ มีกันอยู่ในปัจจุบัน แต่พวกเขามีสิ่งที่สำคัญกว่า คือ "ใจ"
|