หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมา
เชิญชม การ์ตูนแอนนิเมชั่น  เสี้ยวลิ้มยี่  (The Legend of Shaolin Kung Fu)
เชิญชม VDO น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
เชิญชม ประวัติศาสตร์การเมือง ตอน ปิดตำนานทักษิณ
เจ้าแม่กวนอิม
ชมตัวอย่างภาพยนตร์,หนัง
ฐานิยปูชา ๒๕๕๑

มิลินทปัญหา - พระอริยบุคคลและพระอรหันต์


ภายในท้องพระโรง พระเจ้ามิลินท์กำลังสนทนาธรรมกับพระนาคเสน

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน อันผู้ที่ตายไปแล้วมีบ้างหรือไม่ที่จักไม่กลับมาเกิดอีก

พระนาคเสนทูลตอบว่า มี ผู้ที่จักกลับมาเกิดอีกก็มี ผู้ที่จักไม่กลับมาอีกก็มี

ม. ใครที่จักกลับมาเกิดอีก ใครจักไม่กลับมาเกิดอีก

น. ผู้ที่มีกิเลสจักกลับมาเกิดอีก ผู้ที่สิ้นกิเลสแล้วจักไม่กลับมาเกิดอีก

ม. ตัวท่านเล่า จักกลับมาเกิดอีกหรือไม่

น. หากอาตมภาพยังมีอุปาทาน (ความถือมั่นด้วยกิเลส) อยู่ ก็จักกลับมาเกิดอีก หากไม่มีอุปาทาน ก็จักไม่กลับมา

ม. ผู้ที่ไม่ต้องมาเกิดอีกนั้น เขาจะรู้ตัวหรือไม่ว่าเขาจักไม่มาเกิดอีก

น. รู้ เพราะรู้ตัวอยู่ว่า ตนได้ทำให้สิ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดหมดสิ้นแล้ว อุปมาเหมือนชาวนาที่เก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งเพื่อบริโภคโดยไม่ทำนาเพิ่มอีก ยุ้งฉางของเขาจักไม่เต็มขึ้นเพราะตัวเขาได้หยุดทำนาแล้ว

ม. ผู้ที่จะต้องบังเกิดต่อไป เขารู้ตัวหรือไม่ว่าจะต้องไปเกิดอีก

น. รู้ อุปมาเหมือนชาวนาเมื่อหว่านข้าวลงในพื้นนาแล้ว ฝนโปรยปรายมา ก็ย่อมรู้ว่าข้าวปลูกจักงอกงาม ผู้ที่บังเกิดต่อไป ก็รู้ตัวเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะว่าบุญบาปซึ่งเป็นเหตุให้เกิด ตนยังเพาะยังทำอยู่

ม. ผู้ที่จะไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ระหว่างมีชีวิตอยู่ จะรู้สึกต่อความลำบากหรือไม่


พระเจ้ามิลินท์ พระมเหสี และพระนาคเสน

น. บางส่วนก็รู้สึก บางส่วนก็ไม่รู้สึก

ม. ส่วนไหนรู้สึก ส่วนไหนไม่รู้สึก

น. ร่างกายของท่านรู้สึกต่อความลำบาก แต่ใจของท่านไม่รับรู้ความลำบาก กล่าวคือ ความลำบากกาย เช่น เมื่อยขบ หิวกระหาย หรือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ยังคงเกิดแก่ท่าน เสียดแทงร่างกายท่านอยู่ตามธรรมดา แต่ท่านไม่มีความลำบากใจ ทุกข์ใจ เนื่องจากท่านได้ทำเหตุแห่งความลำบากใจให้สิ้นเชื้อแล้ว ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ใจความว่า ผู้ที่สิ้นกิเลสคือเหตุให้ใจเศร้า ยังคงมีแต่ทุกข์ประจำร่างกายเท่านั้น ส่วนความทุกข์ใจเป็นอันไม่มีแล้ว

ม. เมื่อเป็นเช่นนั้น ไฉนท่านจึงไม่รีบนิพพานหนีความลำบากเสียเล่า

น. เพราะเหตุว่าใจของท่านเหล่านั้น มิได้เกาะเกี่ยวอยู่ที่ความลำบาก โดยได้พิจารณาเห็นว่า ความลำบากเหล่านั้นเป็นอาการประจำของร่างกาย เมื่อมีเกิดมีแก่แล้ว ก็ต้องมีความไข้ความเจ็บ ต้องเมื่อยขบหิวกระหายเป็นธรรมดา

อนึ่ง ท่านเหล่านั้นไม่เร่งกาลเวลา ด้วยทำใจอยู่เสมอว่าจะทำประโยชน์สุขให้แก่ตนและผู้อื่นทุกๆ ขณะไป ดังพระสารีบุตรได้กล่าวไว้ว่า จะยังมีชีวิตอยู่ก็ดี จะตายเสียก็ดี ไม่เป็นเหตุให้ดีใจหรือเสียใจ แต่ว่าเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็จะทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อไป

ม. พระคุณเจ้าว่านี้จับใจ


ไปข้างบน