หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

นักธุรกิจไต้หวันซึ้งน้ำใจคนไทย เก็บเงินกว่าล้านได้นำมาคืน


นายพิเชษฐ ผู้โดยสารที่พบกระเป๋าเงินมอบคืนให้กับนายซู ยอง เต๊อะ นักธุรกิจชาวไต้หวัน

พลเมืองดีพบกระเป๋าเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาทที่นักธุรกิจชาวไต้หวันลืมทิ้งไว้บนรถแท็กซี่ ประสาน จส.100 นำเงินมาคืนพร้อมปฏิเสธเงินรางวัล ตำรวจท่องเที่ยวเตรียมจัดทำโล่สรรเสริญ

วานนี้ (26 ม.ค. 50) เมื่อเวลา 21.30 น. ที่สถานีวิทยุ สจ.100 แขวงและเขตคลองเตย กทม. พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาด ผกก.1 บก.ทท. ได้เดินทางมาเป็นสักขีพยานให้กับนายพิเชษฐ (ขอสงวนนามสกุล)ผู้โดยสาร และนายบัญชา พิมประเสริฐ อายุ 31 ปี คนขับรถแท็กซี่แท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มจ 7296 กทม. ในการคืนกระเป๋าให้กับนายซู ยอง เต๊อะ อายุ 34 ปี นักธุรกิจชาวไต้หวัน ที่ลืมไว้ภายในรถแท็กซี่ ซึ่งภายในมีเงินสดจำนวน 3.5 ล้านเยน และเงินดอลล่าสหรัฐฯจำนวน 2,270 ดอลล่า คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.1 ล้านบาท

โดยเมื่อเวลา 16.00 น. ทางสถานีวิทยุ สจ.100 ได้รับแจ้งจากตำรวจท่องเที่ยวประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า นายซู ยอง เต๊อะ อายุ 34 ปี นักธุรกิจชาวไต้หวัน ได้มาขอความช่วยเหลือว่าได้ลืมกระเป๋าสตางค์หนังสีน้ำตาล ซึ่งภายในมีธนบัตรประเทศญี่ปุ่นเป็นสดเงินกว่า 3 ล้านเยน และเงินดอลล่าจำนวนหนึ่งหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1 ล้านบาท พร้อมด้วยพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน บัตรประชาชนไต้หวัน บนรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองโดยนั่งมาจากถนนพุทธมณฑลสาย 5 มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ


นายบัญชา พิมประเสริฐ คนขับแท็กซี่,นายพิเชษฐ,นายซู ยอง เต๊อะและเพื่อนของนายซู (เรียงจากซ้ายไปขวา)

ทั้งนี้หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุ จส.100 ได้ออกอากาศประชาสัมพันธ์ จนกระทั่งเวลา 19.20 น. ผู้โดยสารชายคนหนึ่ง และคนขับรถรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า พบประเป๋าดังกล่าว และกำลังนั่งรถมาส่งมอบกระเป๋าเงินคืนให้เจ้าของที่สถานีวิทยุ จส.100 ย่านคลองเตย

จนกระทั่งเมื่อนายซู เจ้าของกระเป๋าได้พบหน้า นายพิเชษฐ และนายบัญชา พิมประเสริฐ อายุ 31 ปี คนขับรถแท็กซี่ นายซู ได้เดินเข้าไปจับมือทั้งสองคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและกล่าวขอบคุณพลเมืองดีทั้ง 2 คน ที่นำเงินมาคืน พร้อมทั้งนับเงินต่อหน้าสักขีพยานซึ่งมีทั้งตำรวจและผู้สื่อข่าวและพบว่าจำนวนเงินครบถ้วนจึงรับมอบคืน

นายซู กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณคนทั้ง 2 เป็นอย่างมากที่นำเงินจำนวนนี้มาคืน เพราะเป็นเงินของบริษัทที่จะต้องนำไปทำธุรกิจซื้อคอมพิวเตอร์ที่ประเทศญี่ปุ่น ตอนแรกที่ลืมกระเป๋าไว้ในรถแท็กซี่รู้สึกเครียดมาก และขอบคุณในความมีน้ำใจของคนไทยซึ่งเขาจะไม่ลืมเลย

ด้าน นายพิเชษฐ กล่าวว่า ก่อนพบกระเป๋าเงินของนายซู ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่คันดังกล่าวจากพุทธมณฑล สาย 4 เพื่อกลับบ้านย่านท่าพระ ระหว่างทางได้สังเกตเห็นกระเป๋าดังกล่าวเหน็บอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ จึงได้สอบถามว่าเป็นกระเป๋าของคนขับหรือไม่แต่คนขับปฏิเสธ พร้อมทั้งบอกว่า น่าจะเป็นของผู้โดยสารลืมไว้ จึงโทรศัพท์ติดต่อไปที่สถานีวิทยุ จส.100 จนกระทั่งทราบว่าเจ้าของกระเป๋ารออยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะเดินทางมาส่งคืนให้ดังกล่าว

"ผมดีใจที่ส่งเงินคืนให้เจ้าของ และไม่อยากได้สิ่งตอบแทน เรื่องแบบนี้ต้องคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา คนที่ลืมเงินก็อยากได้คืน" นายพิเชษฐ กล่าว

พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ กล่าวว่า ปกติในแต่ละปีทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะนำชื่อของผู้ที่กระทำความดีไว้ เพื่อประกาศคุณความดี โดยหลังจากทราบเรื่องทาง พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบก.ทท.ได้เตรียมจะมอบโล่ห์เชิดชูความดีของทั้งสองคนที่เก็บเงินจำนวนมากได้แล้วนำส่งคืนเจ้าของ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองไทยเป็นอย่างมาก จึงจะมอบโล่ห์ให้เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดี และเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหันมาเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้น


ไปข้างบน