หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

"พิธีสยามมงคล" เพื่อความเป็นมงคลแห่งสยามประเทศ


สนามหลวงที่จัดพิธีสยามมงคลในครั้งนี้

หลังบ้านเมืองถูกนานาปัญหารุมเร้า รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงกำหนดจัด“พิธีสยามมงคล” ขึ้น รวม 12 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-11 ก.พ. 50 นี้ ที่ท้องสนามหลวง

พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน พิธีสยามมงคล เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปี 2549 และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี 2550 ซึ่งนับเป็นปีมหามงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวที แสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะที่ได้ทรงนำความผาสุกสงบร่มเย็นมาสู่ปวงประชาราษฎรทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา และทุกชนชั้น จากการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่ทรงสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาตินานัปการ มูลนิธิพิทักษ์ภูมิไทยจึงร่วมกับภาคเอกชนจัดงาน“พิธีสยามมงคล”ขึ้น เพื่อความมงคลของชาวสยาม และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ และความสามัคคีให้แก่ประชาชนในชาติ

พล.อ.วัธนชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีสยามมงคลไม่ใช่งานทำบุญประเทศตามที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคมช. เคยให้ข่าวไว้ก่อนหน้านี้ เพราะงานทำบุญประเทศจะทำขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.นี้

สำหรับพิธีสยามมงคล แต่ละวันจะมีการประกอบพิธีกรรมของศาสนาต่างๆ ได้แก่ ศาสนาพุทธทั้งฝ่ายจีนนิกายและอนัมนิกาย ศาสนาคริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ซิก และฮินดู ในส่วนของศาสนาพุทธและพราหมณ์ การจัดพิธีเจริญพุทธมนต์ที่ศาลหลักเมือง พิธีเจริญนวคหายุสมธัมม์ สวดพระปริตรนพเคราะห์หลวง โดยพระสงฆ์ 108 รูปที่นิมนต์มาจากทุกภาค นอกจากนี้ยังมีพระธุดงค์ 801 รูปมาปักกลดร่วมเจริญจิตภาวนาในช่วงเวลา 12 วันด้วย

ความพิเศษของพิธีสยามมงคลก็คือ พิธีกรรมต่างๆนั้นต่างมีที่มาที่ไป ไม่ว่าจะเป็น การนิมนต์เกจิอาจารย์ทั่วประเทศมาทำพิธีสวดนพเคราะห์บูชา 108 รูป ซึ่งเป็นไปตามแผนภูมิทั้งหมดที่จะได้พลัง 108 ที่เป็นพลังของมวลดาวพระเคราะห์ตามทักษาพยากรณ์ หรือกิจกรรมทหารบก เรือ อากาศ ตำรวจ จะยิงปืนใหญ่ ฝ่ายละ 21 นัดทุกวันตอนเที่ยง ยิงออกสี่มุมเมือง 4 ทิศ เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม-ไพรีพินาศ

นอกจากนี้ก็จะอัญเชิญพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์องค์จำลองมาจากทุกภาคของประเทศไทยมาประดิษฐานในมณฑลพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา อาทิ พระแก้วมรกต พระไพรีพินาศ พระนิรันตราย พระพุทธรูปทองคำ จาก กทม. พระพุทธชินราช จากภาคเหนือ พระพุทธโสธร จากภาคตะวันออก พระพุทธสิหิงค์ จากภาคใต้ หลวงพ่อใส จากภาคอีสาน อีกทั้งยังมีการนำน้ำพระพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไทย 108 แห่งมาผสมกับน้ำมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกในมณฑลพิธี น้ำพระพุทธมนต์ที่ผ่านพิธีแล้วจะนำใส่ขวดแจกจ่ายให้ประชาชนที่ต้องการมีไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

ส่วนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่เป็นวันสุดท้ายของงานจะมีพิธีหล่อ "พระพุทธรวมใจไทยทั้งชาติ" ในเวลา 17.49 น. โดยพระพุทธรูปดังกล่าวจะเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรหนึ่งเดียวแห่งมหามงคลสมัยที่หล่อหลอมมาจากคำถวายพระพรของพสกนิกรชาวไทย เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายต่อไป ซึ่งประชาชนสามารถร่วมเขียนคำถวายพระพรลงแผ่นโลหะทองเหลือง หรือนำโลหะมีค่ามาหล่อรวมได้ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง หรือส่งแผ่นโลหะที่เขียนคำถวายพระพร ส่งทางไปรษณีย์โดยจ่าหน้าซองว่า "พระพุทธรวมใจไทยทั้งชาติ" สำนักงานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์) สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กทม. 10300 จากนั้นในเวลา 18.59 น. จะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร


ไปข้างบน