เที่ยวชมวัดย่านบางมด (วัดพุทธบูชา ,วัดยายร่ม และ วัดหลวงพ่อโอภาสี)
พระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในวัดพุทธบูชา
แวะไหว้พระที่ "วัดพุทธบูชา" สำหรับวัดแห่งนี้มีประวัติการสร้างอยู่ว่า นายเล็กและนางทองคำ เหมือนโค้ว เป็นผู้ยกที่ดินให้สร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ.2497 ฉันเลี้ยวรถเข้าไปในบริเวณวัดเพื่อแวะไปไหว้พระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่จำลองแบบมาจากพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลกมาเป็นพระประธานในอุโบสถวัดพุทธบูชาแห่งนี้
ได้พักไหว้พระสบายๆ แล้วก็อย่าลืมเดินไปด้านหลังโบสถ์ซึ่งอยู่ติดกับคลองบางมด ในคลองแห่งนี้เต็มไปด้วยปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสวาย ปลาเทโพ ฯลฯ ใครอยากทำบุญให้อาหารปลาที่นี่ต่อก็ได้ โดยที่ท่าน้ำวัดพุทธบูชานี้สามารถนั่งเรือหางยาวชมทัศนียภาพสองฝั่งคลองบางมดได้ หรือจะนั่งยาวไปออกที่ชายทะเลกรุงเทพฯ ก็ยังได้ด้วย
ไม้จำหลักที่โบสถ์วัดยายร่ม
"วัดยายร่ม" วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง มีอายุกว่า 200 ปีแล้ว คือสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2365 เดิมมีชื่อว่าวัดจุฬามณี แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อตามชื่อคนสร้าง ก็คือยายร่มซึ่งเป็นชาวบางมดนี่เอง วัดแห่งนี้แม้จะเป็นวัดเก่าแก่แต่ก็ไม่เหลือสิ่งก่อสร้างเก่าๆ แล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์ของวัดยายร่มนั้นมีความงดงามแปลกจากวัดอื่นๆ โดยพระครูโสภิตบุญญาทร
เจ้าอาวาสวัดได้นำรูปแบบงานแกะสลักไม้แบบล้านนามาใช้แทนการวาดจิตรกรรมฝาผนัง โดยได้นำช่างจากอำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่มาเป็นผู้แกะสลัก
ไม้ที่นำมาแกะสลักนั้นก็คือไม้สัก แต่ละแผ่นนั้นก็ต้องใช้เวลาและความประณีตเป็นอย่างมาก บางแผ่นใช้เวลาถึง 6 เดือนเลยทีเดียว และเมื่อแกะเสร็จแล้วไม้จำหลักเหล่านั้นก็ถูกนำมาติดไว้ภายในโบสถ์ทั้งหลัง จึงนับว่าเป็นโบสถ์ที่งดงามและน่าสนใจอีกหลังหนึ่งของเขตจอมทอง
และในบริเวณวัดยายร่มนี้ ก็ยังเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตจอมทอง" อีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ในเขตจอมทองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้มีการขุดคลองด่าน ขึ้นในเขตจอมทอง ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านแถบนี้ผูกพันกับคลองมาเป็นเวลานาน
พิพิธภัณฑ์นี้ยังทำให้ฉันรู้ว่า วิถีชีวิตของชาวชุมชนเขตจอมทองนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบอาชีพทำสวน โดยสวนส้มบางมดนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังที่เคยได้ยินชื่อเสียงกันมาเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าจะมีบางช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจนทำให้สวนส้มบางมดแทบจะสูญพันธุ์ไป แต่ปัจจุบันก็ได้มีการปลูกส้มบางมดขึ้นในหลายพื้นที่เพื่อให้ชาวสวนส้มรักษาพันธุ์ส้มของตนเอาไว้
และนอกจากการทำสวนแล้ว ในเขตจอมทองนี้ก็ยังเคยมีการปลูกข้าวอีกด้วย เรียกว่าเป็นนาสวน คือปลูกข้าวไว้ในร่องสวนเพื่อกินเองในครอบครัว ไม่เสียพื้นที่ว่างในสวนแถมยังมีข้าวกินอีกต่างหาก แต่ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีนาข้าวในเห็นแล้วล่ะ ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเขตจอมทองมากกว่านี้ก็ต้องมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้เองเสียแล้ว
เจดีย์หลวงพ่อโอภาสี
"วัดหลวงพ่อโอภาสี" อยู่ในซอยพุทธบูชา 39 หลวงพ่อโอภาสีนี้เป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ท่านบำเพ็ญเพียรทางจิตด้วยการเพ่งพระอาทิตย์ บูชาไฟเพื่อทำเตโชกสิณ เล่ากันว่าท่านนำข้าวของทั้งหลายที่ญาติโยมถวายมาเผาไฟ เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสทั้งหลาย เพราะท่านถือว่า จิตใจของมนุษย์นั้นถูกเผาผลาญด้วยไฟราคะแห่งกิเลสซึ่งไม่สามารถต้านทานได้ นอกจากจะกลายเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงการตายเท่านั้นจึงจะหลุดพ้น
แต่เดิมนั้นหลวงพ่อโอภาสีอาศัยอยู่ที่วัดบวรนิเวศ และได้เดินทางมาแสวงหาที่สงบปฏิบัติธรรมที่ละแวกนี้ เมื่อก่อนนี้คนเรียกวัดหลวงพ่อโอภาสีว่าสวนอาศรมบางมด จนเมื่อได้มีการออกประกาศจัดตั้งให้เป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2536 นี้เอง
สำหรับตัวหลวงพ่อนั้นได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และยังเก็บไว้ให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้กัน โดยอยู่ภายในองค์เจดีย์หลวงพ่อโอภาสีนั่นเอง และมีประชาชนเดินทางมาบูชาถึงที่วัดเป็นจำนวนมาก
|