หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

วิถี แห่ง การปฏิบัติ วิถี แห่ง พระอาจารย์ "มั่น" วิถี แห่ง ดอยจอมแตง


พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

จากถ้ำเชียงดาว พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มุ่งไปยังดอยจอมแตง

จำพรรษาปี 2473 ท่านอยู่ที่ดอยแม่แตง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ท่านยังดำรงจุดมุ่งหมายเมื่อแรกที่ออกจากวัดเจดีย์หลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อย่างไม่แปรเปลี่ยน

นั่นคือสละละเจ้าอาวาส สละละพระครูฐานาที่ได้รับแต่งตั้ง

ทุกอย่างปล่อยวางเอาไว้ ณ วัดเจดีย์หลวง หมดสิ้น มิได้เอาติดตัวมาด้วย คงเป็นเพียง พระมั่น ภูริทัตโต

ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามีความสำคัญอย่างไร

ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าได้รับการยอมรับนับถือมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นทางภูพานหรือในมหานครกรุงเทพฯ

เพียงต้องการแสวงหาความสงบ ความวิเวก

น่ายินดีที่ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เล่ารายละเอียดเอาไว้ และ พระญาณวิริยาจารย์ ได้จดจารบันทึก

เป็นบันทึกที่มีความเห็นสอดแทรกอยู่ด้วยในเชิงธรรม

กระนั้น เมื่อจำแนกแยกสังเคราะห์ระหว่างคำบอกเล่ากับความเห็นออกมา ก็จะได้อรรถะอันทรงความหมายยิ่ง

โปรดพิจารณา

พรรษานี้เราจำพรรษาอยู่บนภูเขา อากาศชุ่มชื้น ฝนตกมาก หนาวจัด

ชาวบ้านได้หาฟืนมาไว้สำหรับก่อไฟผิง ยกเป็นกุฏิด้วยใบตองตึง ทำรั้วด้วยไม้รวกยางๆ พอเป็นที่ป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ แม้จะบอกว่ารั้วไม่ต้องทำก็ได้ แต่พวกเขาไม่ยอม นอกจากนั้น ยังมีคนมาคอยดูแล ก่อไฟและรับใช้ แม้เราจะบอกว่าไม่ต้องมาดอก แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง

พรรษานี้เป็นพรรษาที่มีความรู้สึกปลอดโปร่งและได้ความละเอียดทางใจมาก

ที่สำคัญก็คือ การได้อยู่คนเดียว ไม่ต้องสอนใร พูดกับชาวเขาก็ไม่รู้เรื่องกัน เหมือนกับอยู่วิเวกอย่างดีที่สุด


พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ทำให้หวนรำลึกถึงคำของ พระสารีบุตร ที่ว่า กายวิเวกเป็นเหตุให้บังเกิดจิตวิเวก จิตวิเวกเป็นเหตุให้บังเกิดอุปธิวิเวก เป็นความจริงแท้ สิ่งเหล่านี้จะเข้าใจได้ในตัวของตัวเองในเมื่อได้ลงมือกระทำ การพูดเป็นสิ่งง่าย การกระทำเป็นคนละเรื่องกัน

เมื่อประสบกับวิเวกอย่างจริงจังจึงย่อมจะต้องมีอะไรภายในที่วิเศษบังเกิดขึ้น สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่วิเวกจริง ต้นไม้ในป่าก็ทึบมาก อาหารก็เป็นไปตามอย่างชาวป่าชาวเขา ตามมีตามได้ ทำกันอย่างง่ายๆ ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาอย่างหนึ่งสำหรับการไปธุดงค์ ไม่ถือเอารสชาติความอร่อยชอบใจเป็นเกณฑ์ ถือเอาเพียงอยู่ได้ เพื่อมีชีวิตไปวันหนึ่งๆ เท่านั้นเป็นพอ เป็นเหตุให้ได้ประโยชน์หลายทาง คือ ทางหนึ่งได้รับการวิเวก ทางหนึ่งได้อาหารธรรมชาติไม่บำรุงมากนัก ทำให้เกิดผลมากในการบำเพ็ญสมณธรรม

อันวิเวกนั้นก่อให้เกิดความชินชาได้ เพราะเหตุแห่งการอยู่นาน แม้ว่าสถานที่จะวิเวกเพียงใด แต่เมื่ออยู่หลายเพลาเข้าก็เกิดความเข้าใจว่าเป็นที่ของเรา เป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับใจ ได้แก่ ความเคยชิน จึงควรจะต้องเข้าใจตัวเองและอย่าไปเข้ากับตัวเองจนเสียคน โดยความเข้าใจว่าเราก็อยู่บนภูเขา ป่าดง ถ้ำ แต่ว่าอยู่เสียจนเคยชินหรือชินชาเสียแล้วมันก็ไม่ผิดอะไรกับอยู่ในบ้านในเมือง จงพากันเข้าใจว่า ถ้ำ ป่า ภูเขา ก็เป็นเพียงสถานที่อยู่และเป็นที่วิเวกได้จริง แต่อย่าไปอยู่จนนานเกินควร

เป็นเวลาที่พูดน้อยมาก เมื่อมีความจำเป็นต้องพูดน้อย เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการครุ่นคิด พิจารณา ทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจทั้งอดีตและทำความเข้าใจทั้งปัจจุบัน


ไปข้างบน