หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

หยุด... ความเครียด!

พระแนะ ‘ลิ้นงู’ สู้เครียด!

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต หัวหน้าค่ายพุทธธรรมนำชีวิตจากวัดสร้อยทอง บางซื่อ กทม. พระนักเทศน์ชื่อดัง แนะนำว่าถ้าไม่ต้องการให้เกิดความเครียดต้องทำตัวเป็น “ลิ้นงู” เพราะลิ้นงูอยู่ท่ามกลางพิษสงต่างๆ ในตัวงู ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวงูอันแหลมคม หรือพิษงู ปริศนาธรรมนี้หมายถึงให้ดำเนินชีวิตอยู่ได้แม้อยู่ในท่ามกลางสังคมที่มีอันตรายมากมาย

นอกจากนี้ จะต้องทำใจให้ว่าง การว่างคือไม่ใช่ไม่คิดอะไรเลย ไม่คิดอะไรเลยแบบนั้นคือคนไม่มีสมอง ให้ว่างคือ ไม่กังวล ยิ่งกังวลยิ่งย่ำแย่ ยิ่งมีปัญหา แล้วจะมานั่งกังวลทำไม ก็รู้อยู่แล้วว่า กทม.รถติด ก็ออกเดินทางก่อนเวลาก็จะไม่เครียด หรือมีคนขับรถแซงปาดหน้า ก็เป็นเรื่องธรรมดา ขับรถก็เจอเป็นปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเซอร์ไพรส์อะไรบนท้องถนน ดังนั้นจะด่าเขาไปทำไม จะกังวลไปทำไม แค่ยอมรับในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ใช้สติ ใช้ธรรมะเข้าไปจับ ธรรมะใดก็ไร้ค่า ถ้าไม่นำไปทำ ธรรมะใดก็มีค่า ถ้านำมาปฏิบัติ”

พระนักเทศน์ชื่อดัง ยังได้มอบข้อคิดให้กับความเครียดที่คนไทยทุกคนกำลังวิตก อย่างการลอบวางระเบิดว่า ให้แต่ละคนระวังตัวไว้ เพราะบางเรื่องระมัดระวังยาก เป็นปัจจัยจากภายนอก ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ระวังได้ โดยเฉพาะระวังจิตใจของเราเอง ทำใจให้เข้มแข็ง ระวังได้แต่ต้องไม่กังวล ระมัดระวังตามหลักการไม่ทุกข์ร้อนใจ ไม่เครียดไปกับมัน

“อย่างแม่อาตมาอายุ 60 กว่าปีให้แพทย์ตรวจร่างกาย หมอยังไม่ออกผลการตรวจก็กลัวว่าจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ อาตมาเลยบอกว่า คนเรามีอายุอยู่เกิน 60 ปี ก็ถือว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้ว จะเป็นอะไรก็เป็น ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกังวล ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลตนเองไปด้วย ยิ่งกังวล โรคก็ยิ่งรุนแรงกว่าเดิม บางคนหมอบอกว่าป่วยโรคนี้อยู่ได้ไม่เกิน 5 วัน หลังจากนั้นเขาได้ไปปฏิบัติธรรม จิตใจสงบ ไม่กังวลกับโรคที่ป่วยอยู่ จาก 5 วัน ตอนนี้อยู่มา 5 ปีแล้ว”

ในเมื่อหลีกหนีความสูญเสีย หรือความเครียดไม่ได้ ธรรมะที่พระท่านนี้เทศนามา คือ ให้ยอมรับอยู่กับมัน สักระยะ ให้เวลาไม่เกิน 3 วัน จากนั้นก็ให้กำลังใจตนเอง และสุดท้ายชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป มีสมาธิกับ ทุกสิ่ง เริ่มจากนั่งแล้วหลับตา จิตใจจดจ่อกับสิ่งนั้น หรือกับงาน ไม่คิดเรื่องอื่น อยู่กับสิ่งใดที่อยู่ตรงหน้าก็จดจ่อกับสิ่งนั้น แค่นั้นเอง


แอบงีบในที่ทำงานช่วยขจัดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

เผยเคล็ดลับกำราบความเครียดในที่ทำงาน

หากเพียงการคิดถึงวันอันยุ่งเหยิงในที่ทำงานก็ทำให้แบตเตอรี่ในตัวคุณอ่อนลง ขอแนะนำว่าคุณควรมีน้องหมาสักตัว งีบหลับสักนิด และปิดโทรศัพท์

ผลศึกษาจากทั่วโลกสามารถคั้นกรองออกมาเป็น 6 วิธีคลายเครียดในที่ทำงาน โดยคำแนะนำมีตั้งแต่นั่งหลับที่โต๊ะทำงาน ไปจนถึงพาสัตว์เลี้ยงไปออฟฟิศด้วยกัน

เคล็ดลับแรกที่นำเสนออยู่ในวารสารนิวไซเอนทิสต์คือ การคบค้าสมาคมกับเพื่อนร่วมงานในระดับพอประมาณ ไม่มากเกินไป แต่อย่าน้อยเกินไป

นักวิจัยเมืองผู้ดีระบุว่า การเข้าสังคมดีต่อสุขภาพ โดยจากการศึกษาข้าราชการนับพันคนพบว่า การได้รับกำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน การสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา และทิศทางที่ชัดเจนจากเจ้านาย ทำให้ความเครียดลดลง

ในทางตรงข้าม ข้าราชการผู้ชายที่ไม่ได้รับการสนับสนุนในที่ทำงานมีแนวโน้มมากขึ้น 31% ที่จะวิตกกังวลและซึมเศร้า และ 43% สำหรับผู้หญิง

อย่างไรก็ดี การสังสรรค์มากเกินไปอาจทำให้งานคั่งค้างเป็นดินพอกหางหมูได้

เคล็ดลับข้อที่สองคือ ทำให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวรื่นรมย์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

การมองเห็นเพื่อนร่วมงานทำให้คุณรับมือกับวันทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้น ระดับความสูงของฉากกั้นจึงมีผลผกผันต่อระดับความเครียด และที่น่าแปลกใจก็คือ ยิ่งฉากกั้นสูงเท่าไร พนักงานก็ยิ่งบ่นว่าเพื่อนร่วมงานข้างๆ ส่งเสียงดังมากขึ้นเท่านั้น

ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยมอนทรีออล แคนาดา เผยว่าระดับความสูงของฉากกั้นที่เหมาะสมที่สุดคือ 1.3 เมตร เพราะสูงพอที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัว และต่ำพอที่จะไม่ทำให้พนักงานรู้สึกโดดเดี่ยว

เคล็ดลับข้อที่สาม เหยียดหยามเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต โดยผลศึกษาหลายชิ้นระบุว่า คนที่อยู่บนบันไดอาชีพขั้นล่างสุด มีแนวโน้มเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย

คำแนะนำข้อที่สี่บอกว่า ควรเรียนรู้ที่จะปิดโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารประดามีเสียบ้าง เพื่อให้เซลล์สมองที่อ่อนล้าได้พักผ่อนและเติมพลัง

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแสดงให้เห็นว่า 1 ใน 4 ของวันทำงานหมดไปกับการถูกขัดจังหวะโดยอีเมล โทรศัพท์ ข้อความสั้น ซึ่งทำให้คุณต้องละสายตาจากงานทุก 3 นาที และภารกิจ 1 ใน 4 ที่ได้รับมอบหมายต้องถูกเลื่อนออกไปทำต่อในวันรุ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น

การเล่นกับหมาแมวช่วยให้ผ่อนคลายได้เช่นกัน ยิ่งถ้าพนักงานสามารถกล่อมให้เจ้านายยอมให้นำสัตว์เลี้ยงมาที่ออฟฟิศด้วย รับรองว่าวันทำงานจะจบลงอย่างรวดเร็ว

แต่หากไม่สำเร็จ วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือ การพักสายตาที่โต๊ะทำงาน ซึ่งจะช่วยทั้งคลายเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นอย่างดี


ไปข้างบน