หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

เที่ยววัด “แม่นาค” รำลึกตำนานรักอมตะ


ของเล่น ชุดไทย ที่ผู้คนนิยมถวายแด่ย่านาคและลูก

“วัดมหาบุศย์” หรือที่มักนิยมเรียกกันอย่างติดปากว่า “วัดแม่นาคพระโขนง” เหตุที่เรียกเช่นนี้ เพราะภายในวัดมหาบุศย์ มีศาลแม่นาค หรือ “ย่านาค” ตั้งอยู่ ผู้คนจึงพากันเรียกว่า วัดแม่นาคพระโขนง

เล่ากันว่า วัดมหาบุศย์ เป็นวัดราษฎร์ที่เก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2305 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดย พระมหาบุตร วัดเลียบ (วัดราชบูรณะ) ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมญาติโยมของท่านในคลองพระโขนง ชาวบ้านรู้ข่าวจึงได้นิมนต์ให้อยู่ และนำสร้างวัดขึ้นโดยให้ชื่อว่า “วัดมหาบุศย์” ตามชื่อของท่าน และยังเป็นวัดที่มีส่วนเกี่ยวพันกับหนังผีคู่เมืองไทยอย่างเรื่องแม่นาคพระโขนงอีกด้วย


วัยรุ่นนิยมมาขอพรกับย่านาคอย่างไม่ขาดสาย

เมื่อฉันมาถึงยังวัดมหาบุศย์ ฉันเห็นป้ายชี้ทางไปยังศาลย่านาค จะใช้ชื่อ แม่นาค หรือ ย่านาค ก็เหมือนกัน แต่คนแถวนี้เขานิยมเรียกว่า ย่านาค ซึ่งศาลนี้เองเป็นเหมือนจุดมุ่งหมายของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคู่รัก และสำหรับฉัน...ที่นั่นก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของการมายังวัดนี้เช่นกัน ก็จะปฏิเสธได้อย่างไร ในช่วงนี้เป็นเทศกาลแห่งความรัก ใครๆ ก็อยากขอพรกันทั้งนั้น


นอกจากศาลย่านาคแล้วผู้คนก็นิยมมากราบไหว้หลวงพ่อยิ้มเช่นกัน

แต่ก่อนที่จะไปยังศาลย่านาค ฉันขอเข้าไปกราบขอพรจากหลวงพ่อยิ้ม ใน “วิหารหลวงพ่อยิ้ม” เสียก่อน เพราะอยู่ตรงด้านหน้าวัด วิหารนี้เป็นวิหารเล็กๆ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อยิ้ม ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ ฉันสังเกตว่า คนที่มากราบไหว้หลวงพ่อยิ้มมักจะเสี่ยงเซียมซีควบคู่ไปด้วย ฉันเองก็เลยไม่พลาดขอตั้งจิตอธิษฐานเสี่ยงโชคกับเขาบ้าง ปรากฏว่า ผลออกมาดีทำให้ฉันยิ้มหน้าบานมีกำลังใจขึ้นมาอย่างฉับพลันเลยทีเดียว

และที่ฉันสังเกตเห็นอย่างขำๆ อีกอย่าง ก็คือ ไม่ใช่แต่คนเท่านั้นที่มากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อยิ้ม แม้แต่แมวเหมียวก็เข้าไปนั่งตั้งจิตอธิษฐานอยู่ข้างๆ หญิงสาวที่มานมัสการหลวงพ่อ หลังจากที่หญิงคนนั้นลุกออกมา แมวตัวนั้นก็เดินเนิบๆ ออกมาด้วย จากภาพที่เห็นมันช่างเป็นความบังเอิญที่ดูน่ารักน่าขันยิ่งนัก เอ..หรือจะเป็นเรื่องจริง ฉันก็ไม่อาจรู้ได้

ถัดจากวิหารหลวงพ่อยิ้มไปเป็น “อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม” ภายในประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่กลางแจ้งแต่มากด้วยร่มไม้ทำให้ดูร่มรื่นสบายตา ฉันแวะไหว้เจ้าแม่ พร้อมทั้งท่องบทบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่แปะอยู่ตรงหน้า แต่เพราะภาษาเป็นภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาจีน ฉันจึงต้องผันวรรณยุกต์ ตัวสะกดกันจนหน้ามืด

หลังจากพยายามอ่านบทบูชาอยู่นานสองนาน ฉันก็เดินต่อไปยังโบสถ์ แต่ระหว่างทางฉันสังเกตเห็นสวนหย่อมเล็กๆ ข้างทางมีตุ๊กตาปูนปั้นน่ารักๆ อยู่มากมาย เมื่อฉันเดินไปใกล้ๆ ก็ได้ยินคุณยายเล่าให้หลานสาวตัวเล็กๆ ที่พามาเดินเล่นในวัด ว่า “..ตัวสีดำนี้คือเจ้าเงาะ และนางรจนา..” พร้อมทั้งเล่านิทานตอนนางรจนาเสี่ยงพวงมาลัยเลือกคู่


อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้และบ่อเลี้ยงปลา

ฉันอมยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจ เพราะสวนเล็กๆ ที่เห็นนั้นเป็นเหมือน “สวนเล่าเรื่อง” ที่มีทั้งเจ้าเงาะป่าตัวดำ กับนางรจนา ชูชก กับกัณหา-ชาลี ตอนที่ กัณหา-ชาลี หลบชูชกอยู่ใต้ใบบัวในสระ หรือจะเป็นสังข์ทอง พระอภัยมณี และยังมีรูปปั้นการละเล่นไทยๆ เช่น งูกินหาง เป่าหนังยาง อีกด้วย

จากสวนเล่าเรื่อง ฉันไปหยุดยังหน้าโบสถ์ เพราะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เนื่องจากทางวัดไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้า จะเปิดก็แต่เมื่อเวลาพระท่านทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น เท่านั้น ฉันก็ได้แต่ยืนพนมมือสาธุอยู่ข้างนอกประตูโบสถ์ เพราะฉันถือว่า ไหว้พระอยู่ที่ใจ อยู่ที่ไหนๆ ก็ไหว้ได้ แต่ถ้าให้ดีเข้าไปนั่งสงบจิตสงบใจอยู่ในวัดก็จะทำให้จิตเราสงบและมีสมาธิมากขึ้น

ถัดจากโบสถ์ ฉันเดินตามป้ายบอกทางเข้าไปยังริมน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งมี “ศาลย่านาค” ตั้งอยู่ เมื่อฉันเข้ามาถึงเห็นผู้คนมากมายมาจุดธูปจุดเทียนขอพรจากย่านาค ส่วนมากจะเป็นเด็กหญิงรุ่นๆ ที่มาเป็นคู่ชายหญิงก็มีให้เห็นเหมือนกัน อาจจะเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลแห่งความรัก ก็ได้กระมัง จึงได้เห็นวัยรุ่นหนุ่มสาวมากราบไหว้ขอพรกันอย่างหนาตา

ผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกที่พันอยู่รอบต้นไม้อย่างหนาแน่น ชุดไทย ชุดเด็ก ของเล่นเด็ก รวมถึงรูปวาดแม่นาค มีให้เห็นมากมายภายในศาลย่านาคแห่งนี้ เท่าที่ฉันได้พูดคุยกับเด็กๆ วัยรุ่นที่มาขอพรจากย่านาค เด็กๆ บอกว่า นอกจากศาลย่านาคแห่งนี้แล้วข้างๆ ยังมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองอยู่ด้วย คนที่มาจะนิยมมาขอพรในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องการงาน การเรียน โชคลาภ แต่ที่โดดเด่นก็คงจะเป็นเรื่องของความรัก เพราะตามตำนานเรื่องแม่นาคพระโขนงเขาเล่ากันมาว่า...

ที่ริมคลองวัดมหาบุศย์ มีเรือนหลังเล็กๆ ไกลผู้คน ชาวบ้านต่างรู้จักกันดีว่า นี่คือ เรือนของแม่นาคกับทิด มาก แม้ว่าจะยากจน แต่ว่าก็เป็นคู่ผัวเมียที่รักกันมาก ในช่วงที่แม่นาคตั้งท้อง บ้านเมืองเกิดศึกสงคราม ทิดมากถูกเรียกไปเป็นทหารเกณฑ์ ยังไม่ทันพ้นทหารกลับมานางนาคต้องมาสิ้นใจตายทั้งกลม!! เพราะทนความเจ็บปวดจากการคลอดลูกไม่ไหว เมื่อตายแล้วพวกชาวบ้านช่วยกันเอาศพของนางไปฝังไว้ที่ใต้ต้นตะเคียนคู่ แต่ด้วยความรักผัว จึงไม่ยอมไปผุดไปเกิด เฝ้ารอวันที่ผัวจะกลับมา


สวนเล่าเรื่องอยู่ระหว่างทางเดินภายในวัดมหาบุศย์อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ

จากนั้นก็มักจะมีคนเห็นว่า นางนาคออกมาสำแดงตนให้เห็นอยู่บ่อยๆ บางทีก็เห็นมาผูกเปลกับต้นตะเคียนคู่ แล้วจะเห่กล่อมลูกด้วยเสียงที่โหยหวน ชาวบ้านพากันหวาดกลัวผีแม่นาคเป็นอันมาก จนเมื่อถึงวันที่ทิดมากได้กลับมาบ้านเห็นแม่นาคนั่งกล่อมลูกอยู่ที่ชานหน้าบ้าน ด้วยความดีใจรีบวิ่งไปหาลูกเมีย แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อตัวของนางนาคเย็นผิดปกติ แม่นาคเหมือนจะอ่านใจผัวออก รีบยกสำรับข้าวปลาอาหารออกมารับขวัญ

และตั้งแต่นั้นมาทิดมากกับนางนาค ก็อยู่กินกันตามปกติเหมือนเดิม แม้จะมีชาวบ้านแอบมาบอกว่า นางนาคตายแล้วทิดมากก็ไม่ยอมเชื่อ และยังตามหลอกหลอนผู้ที่มาบอกความจริงกับผัวของตน จนกระทั่งวันหนึ่งทิดมากนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ส่วนนางนาคก็กำลังทำกับข้าวตำน้ำพริกอยู่ในครัวบนเรือน เผอิญทำมะนาวหลุดมือหล่นไปใต้ถุนบ้าน นางนาครีบหย่อนมือที่ยาวเฟื้อยผิดจากปกติลงไปเก็บด้วยความรวดเร็ว ทิดมากเห็นดังนั้นก็ตกใจมากจนหนีไปพึ่งวัด


ข้างศาลย่านาคมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ท่านรู้ข่าวการอาละวาดของผีแม่นาค ซึ่งก่อความหวาดกลัวและเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก แม้แต่หมอผีเก่งๆ ก็ยังพ่ายแพ้ ท่านจึงลงไปค้างที่วัดมหาบุศย์ และเรียกนางนาคขึ้นมาคุยกัน ผลสุดท้ายท่านเจาะเอากระดูกหน้าผากของนางมาลงยันต์ และทำเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ผีนางนาคก็ไม่ออกมาอาละวาดอีกเลย

จากนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้ประทานกระดูกหน้าผากนางนาคให้กับหม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัต) เก็บรักษาไว้ และต่อมาก็ได้ประทานต่อให้ หลวงพ่อพริ้ง (พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์) อีกต่อ จนมาถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไม่นานนักแม่นาคก็มากราบลา จากนั้นก็ไม่มีใครพบกระดูกหน้าผากของแม่นาคอีกเลย

นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ตำนานแม่นาคพระโขนงที่เล่าต่อๆ กันมา ส่วนจะมีจริงหรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ และใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ที่ตำนานแม่นาคพระโขนงคงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ได้ นอกจากเรื่องชวนขนหัวลุกแล้ว ตำนานแห่งความรักที่มั่นคงของแม่นาคต่อทิดมากนั้นถือเป็นหนึ่งในตำนานรักอมตะของเมืองไทยที่น่าเทิดทูนยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

...ความตายแม้พรากจาก แต่ความรักของแม่นาคยังคงอยู่เป็นนิรันดร์...

* * * * * * * * * * * * * * * *

วัดมหาบุศย์ 749 หมู่ที่ 11 ซ.อ่อนนุช 7 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 การเดินทางสามารถลงรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช แล้วเดินย้อนขึ้นไปปากซอยอ่อนนุชประมาณ 400 เมตร จากปากซอยอ่อนนุช เข้าไปประมาณ 500 เมตร ถึงซอยอ่อนนุช 7 ปากซอยจะมีป้ายวัดมหาบุศย์ เดินเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ถึงวัดมหาบุศย์ โทร.0-2311-3636, 0-2311-2183


ไปข้างบน