‘เครื่องรางของขลัง’ ‘ที่พึ่งทางใจ’ ฟีเว่อร์!
จตุคามรามเทพ
วาระสำคัญอีกวาระหนึ่งของชาวพุทธ “วันมาฆบูชา” กำลังจะเวียนมาบรรจบอีกครั้งในวันที่ 3 มี.ค. นี้ ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ยัง “อึมครึมด้วยภัยบึ้ม” ที่รัฐบาลปัจจุบันบอกว่าเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ของคนไทย และท่ามกลางสถานการณ์ “เศรษฐกิจชะงักงัน-ซวนเซ” ที่หลายคนเป็นห่วงว่าอาจจะทรุดฮวบเอาง่าย ๆ
มาฆบูชาปีนี้ชาวพุทธไทยก็ยังคงให้ความสำคัญกันเช่นเคย...
เพียงแต่ยุคนี้ “เครื่องราง-ของขลัง” มาแรงเป็นพิเศษ ?!?
ทั้งนี้ ทีม “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ออกสุ่มสำรวจตรวจตลาด ก็ยิ่งพบข้อเท็จจริงที่ว่ายุคนี้เครื่องราง-ของขลังมาแรงมากจริง ๆ โดยมีกระแส “จตุคาม-รามเทพ” ชูโรงเป็นเบอร์หนึ่ง อย่างที่ตลาดท่าพระจันทร์ย่านวัตถุมงคลแหล่งใหญ่แห่งหนึ่ง จตุคาม-รามเทพรูปแบบต่าง ๆ วางขายชนิดที่เรียกว่าละลานตา มีผู้ซื้อผู้ขายหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ขณะที่สนนราคาซื้อขายถ้าไม่ใช่รุ่นดัง ๆ ก็มีตั้งแต่หลัก 40-50 ไปจนถึงหลัก 300-400 บาทขึ้นไป
จตุคามรามเทพ
ต้องถือว่าเบียดเครื่องราง-ของขลังแบบโบราณ อาทิ ปลัดขิก ลูกประคำ เขี้ยวหมูป่า มีดหมอ หม้อน้ำมนต์ ลูกกรอก ที่มีราคาตั้งแต่ 15-1,000 บาท แทบตกแผง และนอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสจตุคาม-รามเทพ ฟีเว่อร์ ไม่ว่าจะเป็น โปสเตอร์สีรูปจตุคาม-รามเทพ แบบต่าง ๆ ที่มีการตั้งชื่อให้เป็นมงคล อาทิ มั่งมีศรีสุข โภคทรัพย์ ขายปลีกกันใบละ 40 บาท รวมไปถึง ภาพถ่าย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช สมัยมีชีวิตอยู่ หรือภาพในงานศพ ใบละ 50 บาท, ผ้ายันต์จตุคาม-รามเทพ ผืนเล็ก 40-50 บาท ผืนใหญ่ประมาณ 900 บาท
ผู้ขายก็วางสินค้าขายกันกลาดเกลื่อน ผู้ซื้อก็ยืนเบียดเสียดกันเพื่อเลือกซื้อสินค้าที่มีความเชื่อดังกล่าวนี้ บางคนก็ซื้อกันที 100-200 ชิ้น ราวกับเป็นสินค้าขายส่ง !!
คนขายรายหนึ่งบอกว่า...“เอาโปสเตอร์จตุคาม-รามเทพมาขายคู่กับลอตเตอรี่ ก็ทำให้ขายดีทั้งสองอย่าง” ขณะที่คนซื้อรายหนึ่งที่ซื้อจำนวนมาก ก็บอกว่า... “ซื้อเยอะก็เพื่อนำไปขายต่อที่อื่น” และบางคนก็บอกว่า... “ซื้อไปให้คนรู้จัก ให้ญาติ ให้เพื่อน เพราะตอนนี้ให้ของแบบนี้คนรับจะชอบ จะถูกใจ”
นอกจากจตุคาม-รามเทพแล้ว อย่างอื่นก็ยังมีวางขายให้เห็นอยู่บ้าง แม้ช่วงนี้จะตกอันดับไปหน่อย อย่าง “เหรียญพระพิฆเนศวร” ที่บางรุ่นสั่งทำพิเศษมาขายกันเหรียญละ 500 บาท หรือ “หินทิเบต” ที่ราคาประมาณ 30-800 บาท แล้วแต่ขนาด และลักษณะความสวยงาม ซึ่งจะแท้-ไม่แท้ ของจริง-ของปลอม อันนั้นก็อีกเรื่อง
ปี่เซี๊ยะ
ที่ย่านท่าพระจันทร์ จตุคาม-รามเทพเด่นสุด แต่ที่ย่านเยาวราช “เครื่องรางสไตล์จีน” บูมหลายอย่าง !?! ซึ่งทีม “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ย้ายแหล่งไปสำรวจตลาดของมงคลแบบจีน เจ้าของร้านเยาวราชฮ้งเฮงหลี ให้ข้อมูลว่า... วัตถุมงคลแบบจีนในปีที่ผ่านมา และปีนี้ ที่เป็นที่นิยมและขายดี ได้แก่... ปี่เซี๊ยะ, หมูกระปุกสีทอง, แมวนางกวัก, ม้า, กบคาบเหรียญ, มังกร, โมบายยันต์แบบจีนม้วนกลม, ยันต์กระจกแปดเหลี่ยม เป็นต้น
อย่างแมวนางกวักที่เคลื่อนไหวได้ด้วยการใส่ถ่าน ที่เชื่อว่าตั้งในร้านค้าจะช่วยกวักลูกค้าเข้าร้าน ก็มีราคาตั้งแต่ 80-250 บาท แล้วแต่ขนาด, หมูกระปุกสีทอง ราคา 40-200 บาท หมูเรซิ่นคล้ายหยก ตัวย่อม ๆ ราคา 250 บาท ซึ่งปีนี้เป็นปีหมู และหมูเป็นสัญลักษณ์ของความอ้วนท้วนอุดมสมบูรณ์ เชื่อกันว่าจะช่วยให้ร่ำรวยได้ ปีนี้จึงขายดี
ปี่เซี๊ยะ หรือกวางสวรรค์ เป็นสินค้าขายดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งมีความเชื่อว่านำไปตั้งไว้ในบ้านเงินทองจะไม่รั่วไหล ก็มีการทำออกมาขายหลายรูปแบบ เช่น แบบที่ห้อยคล้ายพวงกุญแจ ราคา 20 บาท รูปปั้นเป็นคู่ก็ประมาณ 80 บาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาดและวัสดุ ยันต์แบบจีน สีเงิน-สีทอง เชื่อกันว่าแขวนไว้หน้าบ้านจะมีเงิน-มีทองไหลเข้าบ้าน สนนราคาก็แตกต่างกันไปตามแต่ขนาด ยันต์กระจกแปดเหลี่ยม ที่เชื่อว่าแขวนหน้าบ้านแล้วจะกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าบ้านได้ ราคาประมาณ 65-150 บาท แล้วแต่ขนาด และรายละเอียดความสวยงาม
กบคาบเหรียญ หมายถึงคาบเงิน-คาบทอง ราคาอยู่ที่ 80-200 บาท เต่าหัวมังกร สัตว์มงคลในเทพนิยายจีนที่เชื่อว่าตั้งไว้ในบ้านแล้วจะมีแต่ความโชคดี นี่ก็ขายดี รวมถึงมังกร และม้าสวรรค์ที่ขายตัวละ 100-250 บาทขึ้นไป
เจ้าแม่กวนอิม
นอกจากนี้ก็ยังมีรูปเทพเจ้าของจีน อาทิ กวนอิม นาจา เห้งเจีย ฯลฯ ตลอดจนถึง พระพรหม เจ้าที่ ราคาชิ้นละ 180 บาทขึ้นไป ถ้าเป็นทอง 9 ชั้น ราคาประมาณ 800 บาท ส่วนที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ มีการขายยกโหล ๆ ละ 70 บาท โมบายรูป ถังทอง-ถังเงิน ชิ้นละ 50 บาท ลูกแก้ว 50-300 บาท แล้วแต่ขนาด ส่วน โคมไฟมงคลสีแดง เขียนคำมงคลภาษาจีน ราคาคู่ละประมาณ 1,200 บาท และ 1,800 บาท
เจ้าของร้านค้ารายเดิมบอกอีกว่า... ของมงคลต่าง ๆ ปัจจุบันมีการผลิตให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น เน้นรูปแบบที่มีสีสันสวยงาม สดใส โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ก็ได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไป
“แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมปีนี้จะชะลอตัว แต่ของมงคลกลับโต มีมากชิ้น มากรูปแบบ และขนาด ทำให้ตลาดตรงนี้โตสวนทางเศรษฐกิจขาลง เพราะว่าคนต้องการความเชื่อมั่น ใช้พึ่งพิงทางจิตใจ เพราะมีความเชื่อกันว่าของมงคลเหล่านี้มีไว้แล้วจะดี ปลอดภัย เจริญรุ่งเรือง” ...เจ้าของร้านย่านเยาวราชกล่าว
ทั้ง “ความปลอดภัยในชีวิต” และด้าน “เศรษฐกิจ”
ชั่วโมงนี้ “คนไทยขาดความมั่นใจ” กันมากทีเดียว
ที่พึ่งทางใจ “เครื่องราง-ของขลัง” จึงมาแรง !!!!!.
จาก "สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์"
|