ตร.ล้างขบวนการ ต้มจตุคาม ปั้นอภินิหารเว่อร์
จตุคามรามเทพ
เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป 1) กล่าวถึงการโฆษณา และจัดสร้างพระผง และเหรียญ “จตุคามรามเทพ” ที่แพร่หลายในขณะนี้ สร้างกระแสนิยม มียอดเงินหมุนเวียนนับพันล้านบาท ถึงขนาดผู้สร้างมีการอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อภินิหารต่างๆนานา เช่น อ้างว่าถ้านำไปบูชาแล้วจะเกิดโชคลาภบ้าง จะประสบความสำเร็จบ้าง ร่ำรวยเงินทอง กินดีอยู่ดี ยิงฟันไม่เข้า หรือแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ อันตรายใดๆว่า เรื่องเหล่านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. มีความห่วงใยต่อประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะหลงเชื่อในการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินความเป็นจริงจากผู้จัดสร้างบางรายที่อาจมีเจตนาแอบแฝง มุ่งจะแสวงหาผลประโยชน์กำไรจากการจัดสร้างดังที่ปรากฏเป็นข่าว จึงมอบหมายให้ตนพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้ที่มีเจตนาไม่ดีกับบุคคลเหล่านี้
ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป 1) กล่าวต่อว่า ตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการสร้างจตุคาม-รามเทพ ตลอดจนการที่ประชาชนไปแสวงหามาเช่าบูชานั้น หากเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ หรือเป็นไปโดยความเชื่อส่วนตัว โดยไม่มี ใครมาชักจูงโน้มน้าวให้เชื่อ ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลคงจะห้ามไม่ได้ แต่ถ้าการหลงเชื่อนั้น เป็นเพราะถูกผู้จัดสร้างโฆษณาชวนเชื่อจนเกินความเป็นจริง โดยมีเบื้องหลังที่จะแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้จากการจำหน่ายไปเข้ากระเป๋าตัวเอง หรือแบ่งปันกันเองในหมู่ผู้จัดสร้าง หรือเรียกได้ว่าเป็นการกระทำในเชิงพาณิชย์ ก็อาจมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนได้ ซึ่งในเรื่องนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ถือว่าเป็นความผิด และถ้าการกระทำนั้น เป็นการกระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนก็จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นอกจากนี้ยังจะมีมูลความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค โดยการโฆษณาเกินความเป็นจริงอีกด้วย
จตุคามรามเทพ
มือกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวอีกว่า ขอเตือนมายังผู้จัดสร้างที่มีเจตนาจะแสวงหากำไร โปรดพึงระวัง อย่าเห็นแก่เงินมากเกินไป หากมีผู้มาร้องทุกข์ก็อาจติดคุกได้ และจตุคาม-รามเทพก็คงจะช่วยท่านไม่ได้ เพราะท่านจะช่วยก็เฉพาะผู้ที่บริสุทธิ์ มีจิตศรัทธาเลื่อมใสจริงๆเท่านั้น ความเลื่อมใสศรัทธาจะเกิดได้จากตัวของผู้นั้นเอง ไม่ใช่เกิดจากการโฆษณาโน้มน้าวเพื่อให้ เกิดความเลื่อมใส ผู้ที่เลื่อมใสจริงๆก็อาจมาจากคำเล่าลือปากต่อปาก หรือจากประสบการณ์ที่พบเห็นมาในความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่การนำมาโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนหลงเชื่อ และมีการกำหนดราคาตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึงเป็นแสนเป็นล้านบาทนั้น อาจเข้าข่ายการหลอกลวงได้ ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. มีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงได้สั่งการให้ตนดำเนินคดีกับผู้ที่แสวงหากำไรจากเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด จึงเตือนมายังผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่คิดจะหาผลประโยชน์ในเรื่องนี้ว่าอย่ากระทำเป็น อันขาด ขอให้เป็นเรื่องของความศรัทธาจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ การแสวงหากำไรหรือผลประโยชน์ส่วนตัว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช อายุ 55 ปี บุตรชายคนโตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชให้ความเห็นถึงกรณีตำรวจออกมาเตือนการโฆษณาสร้างพระและวัตถุมงคลจตุคามรามเทพที่เกินจริงว่า สามารถทำได้ จะได้เป็นการสร้างความสะอาดโปร่งใสให้กับวงการ โดยเฉพาะการให้ตำรวจทั่วประเทศช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบการสร้างพระเครื่อง การสร้างวัตถุมงคล เพราะขณะนี้มีการแอบอ้างกันมาก เช่นอ้างว่า สร้างวัตถุมงคลเพื่อสร้างโบสถ์ สร้างวัด เพื่อการกุศล ต้องมีการตรวจสอบดำเนินการเป็นไปตามโฆษณาที่กล่าวอ้างหรือไม่ ประชาชนต้องช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย เพราะเท่าที่รู้มาไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณา ส่วนใหญ่ทำเป็นพุทธพาณิชย์กัน มีคนรวยอยู่เพียงกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มคนที่เป็นคนลงทุนสร้างพระ แบ่งรายได้ให้วัดที่นำมาอ้าง หรือองค์กรการกุศลที่นำมาอ้างนิดหน่อย นอกนั้นเข้ากระเป๋านายทุน หัวใจของเรื่องนี้จึงอยู่ที่การตรวจสอบว่า การสร้างพระเครื่อง การสร้างวัตถุมงคล ทำไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงหรือไม่
ส่วนการโฆษณาอวดอ้างอิทธิฤทธิ์นั้น ก็ต้องตรวจสอบเช่นกัน ถ้าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย การสร้างวัตถุมงคลโดยเฉพาะจตุคามรามเทพ ถ้าเป็นการสร้างจากนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่จะผ่านพิธีกรรมบวงสรวงต่างๆ ตามหลักการของความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ แต่ขณะนี้ปรากฏว่าสร้างกันทั่วประเทศ แล้วมีการมุบมิบแอบอ้างว่า ทำพิธีที่นครศรีธรรมราชแล้ว เพราะรู้ว่าต้นกำเนิด เพื่อให้คนหลง เชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง “ประการสำคัญที่จะขอบอกท่านรักษาการ ผบ.ตร.ก็คือ วัตถุมงคลที่สร้างแล้วมีคนเช่าบูชามาก เรียกว่ารุ่นไหนดังจะถูกปลอมทันที แหล่งปลอมวัตถุมงคลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ บอกท่านได้เลยว่าอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทุกรุ่นที่ดังทุกรุ่นที่คนนิยม ถูกทำปลอมเกือบหมด ปลอมกันในกรุงเทพฯนั่นแหละ”
ส่วนนายประยงค์ เชาวลิตถวิล อายุ 70 ปี กรรมการสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2530 ศิษย์ ผู้ใกล้ชิด พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชกล่าวว่า ขอสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว เพราะขณะนี้มีพระเครื่องปลอม จตุคาม ปลอมจำนวนมาก ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของเมืองนคร เมืองต้นแบบแห่งจตุคามรามเทพ ถ้ารักษาการ ผบ.ตร. เอาจริงคิดว่าดีแน่ และอย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้ไปกระทบกับการสร้างพระที่เป็นการกุศล
นายไพโรจน์ กวีวงศ์ประวัติ หรือโกยี่ ที่ปรึกษาชมรมผู้ประกอบการให้เช่าวัตถุมงคลนครศรีธรรมราชกล่าวว่า การโฆษณาวัตถุมงคลต้องดูให้ชัดเจน ถ้าไปโฆษณาว่ายิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า ถือว่าเกินเลย เกินขอบเขต เพราะการเช่าวัตถุมงคลเป็นเรื่องของความเชื่อ ถ้าเขาเชื่อ คนเชื่อ เขาก็มาเช่ามาทอนไปบูชา ต้องมีความรอบคอบในการดำเนินการเรื่องนี้
ด้านนายไพฑูรย์ ไวยกิจจา อายุ 54 ปี เจ้าของแผงพระเครื่อง “อยุธยาพระเครื่อง” ตั้งอยู่หน้าพระราชวังจันทร์เกษม ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แผงให้เช่าบูชาองค์จตุคามรามเทพรายใหญ่ ทั้งสายใต้และสายพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เรื่องของพุทธคุณองค์จตุคามเป็นความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า คนที่บูชาจะดูที่พิธีกรรม ดูมวลสาร ดูว่าใครเป็นเจ้าพิธี อย่างที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีวัดพุทไธศวรรย์ที่คน นิยม บางคนก็ดูที่ชื่อรุ่น อย่างรุ่นโคตรเศรษฐีคนจะนิยมบูชามากเพราะชื่อดี จนทำให้ราคาพระสูงขึ้น แต่คนที่บูชาไปแล้ว ไม่ทำมาหากิน พระก็ไม่สามารถทำให้ร่ำรวยได้ และเห็นด้วยกับการที่ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ออกมาปราม เพราะคนที่ให้เช่าพระจะได้ไม่โฆษณา เกินเลย ถ้าคนขายเจตนาพูดว่าถ้านำไปบูชาแล้ว จะทำให้รวยขึ้นก็เข้าข่ายเจตนาหลอกลวงจริง ส่วนที่ร้านของตน หากใครบูชาก็จะอวยพรขอให้ร่ำรวยขึ้น ไม่ได้โฆษณา
นายพิศาล เตชะวิภาค หรือต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาแห่งประเทศไทย เซียนพระชื่อดังกล่าวถึงข่าวนี้ว่า เป็นเรื่องดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะประชาชนที่อยากได้เหรียญจตุคามรามเทพจะได้ของจริงไป ไม่ใช่ได้ของปลอม การปลอมตอนนี้ระบาดมาก และทำรายได้เป็นเงินมหาศาล จึงอยากให้ตำรวจเข้ามาสอดส่องในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงนั้น ส่วนตัวแล้วท้าวจตุคามเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว คนที่บริสุทธิ์ใจนับถือเป็นสิ่งที่ดี แต่เรื่องการโฆษณาชวนเชื่อเหมือนเป็นการค้า สืบเนื่องจากองค์จตุคามปี 30 มีราคาสูงมาก คนจึงอยากเก็บไว้เก็งกำไรเหมือนเก็งหุ้น แต่คิดว่าไม่ดี เพราะคนเราอย่าไปเชื่อว่ามีจตุคามแล้ว ขออะไรก็จะได้ ตนไม่ได้ลบหลู่ท่าน แต่อยากเตือนอย่าไปหลงเชื่อโฆษณาที่เกินจริง
|