|
นวดหินทิเบต เพิ่มพลังชีวิต
ปัจจุบันนี้ธุรกิจนวดสปากำลังพยายามหารูปแบบการนวดแปลกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการสำรวจเกี่ยวกับกระแสของการนวดแบบสปาที่กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลกนั้น เป็นการนวดด้วยหินร้อน โดยเฉพาะ “หิมาลัย สโตน” หรือหินทิเบต ซึ่งเป็นหินที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมจากประเทศทิเบต
หินประเภทนี้เป็นหินลาวาที่ผ่านการแกะสลักโดยพระภิกษุให้เป็นสัญลักษณ์ต่างๆ 8 รูปแบบ พร้อมกับเข้าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในแบบทิเบต อาทิ รูปเมฆหมายถึงพลังด้านดีที่ช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้าย, ปลาทอง 2 ตัว แทนความศักดิ์สิทธิ์ของแม่น้ำคงคา-ยะมุนา เป็นสายน้ำแห่งโชคลาภ, รูปดอกบัว หมายถึงจิตใจที่บริสุทธิ์, รูปรัศมี แทนความรุ่งเรือง เป็นต้น
ดังนั้น การนวดด้วยหินทิเบตนี้ เป็นศาสตร์แห่งการบำบัดเยียวยาความเจ็บป่วยในด้านจิตใจและประสาทสัมผัสแห่งการรับรู้ เชื่อกันว่านอกจากจะช่วยให้เส้นคลาย สบายตัวแล้ว การวางหินร้อนตามจุดสำคัญต่างๆ ตามร่างกายจะช่วยปรับ พลังธาตุหยินและหยางให้สมดุล พร้อมกับดูดซับพิษออกจากร่างกายได้ด้วย
ก่อนที่จะเริ่มนวด ต้องทำแบบทดสอบเพื่อตรวจอารมณ์ของหยินและหยางก่อน ถ้าแบบทดสอบออกมามีความเป็นหยิน คือความเหนื่อยล้า ก็จะต้องปรับกระตุ้นด้วยน้ำมันเปปเปอร์มิ้นต์ ส่วนถ้าอารมณ์หยาง คือร้อน ก็จะต้องใช้น้ำมันดอกบัวเพื่อช่วยผ่อนคลายสบายขึ้น
คอร์สนวดด้วยหินทิเบตนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เริ่มด้วยการนวดเพื่อให้คลายกล้ามเนื้อ จากนั้นเทอราปิสต์จะใช้น้ำมันอะโรมานวดกดเน้นไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายจากปลายเท้าจดหัวไหล่ เป็นการสร้างความอบอุ่นและให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก
จากนั้นก็ถึงขั้นตอนสำคัญคือ การวางหินทิเบตที่นึ่งด้วยไอน้ำในอุณหภูมิร้อนพอสมควรไปวางตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พักไว้ประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้ความร้อนจากหินไหลแทรกซึมไปตามจุดน้ำเหลือง เป็นการกระตุ้นพลังภายในร่างกาย และปิดท้ายด้วยการนวดด้วยมือพร้อมลงน้ำมันอีกครั้ง เพื่อให้เส้นเอ็นที่ถูกความร้อนแทรกซึมอยู่นั้นอ่อนนุ่มหายตึง
หินที่จะวางตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมีทั้งสิ้น 48 ก้อน มีทั้งทรงกลมและทรงรี มีขนาดทั้งเล็กและใหญ่ เทอราปิสต์จะถูกฝึกมาว่า หินก้อนใดควรจะวางหินในตำแหน่งใดบ้าง หลังจากวางหินร้อนลงบริเวณส่วนผิวหนังของร่างกายแล้ว จะทิ้งสัญลักษณ์ต่างๆ ของหินแต่ละก้อนเป็นรอยแดงจางๆ ติดบนผิวกายไปด้วยเหมือนเป็นการลงเวทมนตร์
เทอราปิสต์ที่ผ่านการอบรมการนวดด้วยหินร้อนนั้น จะมีความชำนาญในการใช้มือบีบนวดเส้นไปพร้อมๆ กับปรับสภาพของหยินหยาง ด้วยการไล่พลังความร้อนไปตามเส้นต่างๆ จะช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวดเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ส่งผลให้จิตใจผ่อนคลายนอนหลับสนิท
สัญลักษณ์แห่งความโชคดีทั้ง 8 บนหินทิเบต
“ พลังแห่งเมฆ ” เป็นสัญลักษณ์ของพลังวิญญาณด้านดีที่ช่วยปกป้องความชั่วร้าย
“ปลาทอง” ที่ประเทศอินเดียมีความเชื่อว่าปลาทองคู่เป็นตัวแทนของแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 2 แห่งคือ แม่น้ำคงคาและยะมุนา อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
"ดอกบัว" เป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องหมายของความบริสุทธิ์ทางด้านจิตใจ
"ปมเชือก" เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวพันกับสิ่งสำคัญต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบเสมือนความรู้ที่ไม่สิ้นสุดของพระพุทธเจ้า
"ถ้วยรางวัล" เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะแห่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งนำมาซึ่งความสุขและสันติ
"ธรรมจักร" คือวงล้อแห่งธรรม หมายถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
"แจกันขุมทรัพย์" เป็นเครื่องหมายแสดงถึงจิตวิญญาณที่ได้รับการเติมเต็มสมหวังในทรัพย์สมบัติและอายุยืนยาว
"รูปหอยวนขวา" เปรียบเสมือนคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เผยแผ่ไปทั่วสารทิศเหมือนการเป่าแตรสังข์ที่ก้องกังวาล
| 
