|
วัดเรทิงอนาคตศาสนา-การเมืองแดนหลังคาโลก
จินปาเจ้าอาวาสวัดเรทิง
วัดเรทิง (Reting) ซึ่งเป็นวัดนิกายพุทธแบบทิเบตหรือวัชรยานตั้งโดดเดี่ยวในหุบเขาอันสง่างาม และแทบจะไม่เป็นที่รู้จักของโลกภายนอก แต่กลับมีบทบาทอย่างยิ่งในการเป็นเสาหลักของอนาคตทางศาสนาและการเมืองของทิเบต
วัดเรทิงตั้งห่างจากลาซา เมืองหลวงของทิเบตไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 4,100 เมตร ด้านล่างหุบเขามีฝูงจามรีและสุกร อาศัยอยู่ท่ามกลางสถูปจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่อธิษฐานของผู้มีศรัทธาอันเป็นเครื่องยืนยันถึงลัทธิจิตวิญญาณที่มีลักษณะโดดเด่นของบริเวณนี้
รถประจำทางกำลังวิ่งไปตามถนนที่คดเคี้ยวของภูเขาเพื่อมายังวัดเรทิง (Reting)
วัดเรทิง ก่อสร้างในปีค.ศ.1056 บางส่วนถูกกองทัพยามแดง(เรดการ์ด)ทำลายพินาศในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตัววัดตั้งหันหน้าเข้าหาภูเขา ซึ่งกำแพงสีขาวของวัดดูตัดกับดงสนหิมาลัยที่ล้อมรอบอยู่นั้น
ด้วยความงามอันน่าอัศจรรย์ของวัด เป็นเหตุผลหนึ่งที่องค์ทะไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณและผู้นำรัฐบาลในระบบศักดินาเทวาธิปไตยของทิเบต ก่อนที่กองทัพจีนปลดแอกจะเข้ามาจัดระบบใหญ่ในดินแดนบอกว่า พระองค์อยากจะประทับที่วัดเรทิงแห่งนี้มากกว่าอยู่ในลาซาหากพระองค์ได้นิวัติกลับทิเบต ซึ่งขณะนี้พระองค์ได้ลี้ภัยการเมืองประทับอยู่ที่ธรรมศาลาในอินเดีย
วัดเรทิงแห่งนี้ยังมีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นที่ประทับของลามะชั้นสูง "ริมโปเช" ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนองค์ทะไลลามะในช่วงที่องค์ทะไลลามะสิ้นพระชนม์ และเป็นผู้นำการเสาะหาตัวผู้สืบตำแหน่งองค์ทะไลลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่*
เจ้าอาวาสจินปากำลังเตรียมอาหารรับรองผู้สื่อข่าว
ช่วงสัปดาห์นี้ จินปาเจ้าอาวาสวัดเรทิงวัย 40 ปี อาศัยอยู่ที่วัดนี้มา 25 ปีแล้ว ให้ต้อนรับการมาเยือนที่เป็นไปได้ยากของผู้สื่อข่าวต่างแดนอย่างอบอุ่น จินปารับรองแขกด้วยเนื้อจามรีตากแห้ง และชาทิเบต(ชานมจามรีใส่เนยแล้วปั่น)อันมีชื่อของแดนหลังคาโลก
แต่ในระหว่างการพบปะนั้น มีตัวแทนรัฐบาลกลาง 3 นายคอยสังเกตการณ์การสัมภาษณ์ ดังนั้นการพูดคุยเรื่องทางการเมืองและศาสนาที่อ่อนไหวจึงไม่อาจทำได้ โดยมีสภาพแวดล้อมคอยเตือนอยู่ นั่นคือบนผนังของวัดมีภาพโปสเตอร์ของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ 3 คนแรกคือ เหมาเจ๋อตง,เติ้งเสี่ยวผิง และเจียงเจ๋อหมิน ถัดไปเป็นภาพโปสเตอร์ของปันเชน ลามะองค์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้เชิดชูปันเชน ลามะขึ้นมามีบทบาทสูงสุดแทนองค์ทะไลลามะ ซึ่งปันเชน ลามะเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณที่มีอำนาจสูสีกับองค์ทะไลลามะ และปันเชน ลามะองค์ปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่เด็กชายที่องค์ทะไลลามะระบุว่าเป็นปันเชน ลามะกลับชาติมาเกิดนั้นหายไประหว่างถูกควบคุมตัวโดยทางการจีนและไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลย
ภาพถ่ายของ Sonam Phuntsog ริมโปเชที่7 (บนขวา)
ในปี 2000 จีนประกาศแต่งตั้งริมโปเชที่ 7อย่างเป็นทางการที่วัดเรทิงแห่งนี้ ริมโปเชที่ 7 ปัจจุบันมีอายุ 12 ปี ซึ่งถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลจีนในการอ้างความชอบธรรมในการแต่งตั้งทายาทองค์ทะไลลามะองค์ปัจจุบัน ซึ่งในครั้งนั้นมีพระหลายรูปในวัดประท้วงการแต่งตั้งดังกล่าว
ณ ที่นั้น ไม่มีรูปขององค์ทะไลลามะ เพราะรัฐบาลจีนได้ประกาศให้พระองค์เป็นบุคคลนอกกฎหมาย เนื่องจากท่านมีเป้าหมายแบ่งแยกดินแดนทิเบตจากจีน ทั้งนี้ เมื่อปี 1989 องค์ทะไลลามะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากจีน พระองค์ถูกรัฐบาลจีนเนรเทศออกนอกประเทศในปี 1959 9 ปี หลังจากที่กองทัพเหมาเจ๋อตงเคลื่อนทัพมาเพื่อ “ปลดปล่อย” ทิเบต
ผู้จาริกแสวงบุญกำลังเดินรอบชอร์เตน( สถูปหรือเจดีย์) ในวัดเรทิง
ระหว่างการเยือนของผู้สื่อข่าว ซึ่งมีสายตาของเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนจับจ้องตลอดเวลานั้น จินปาไม่ได้พูดถึงองค์ทะไลลามะ และพูดถึงริมโปเชองค์ปัจจุบันเพียงเล็กน้อย
ท่านเจ้าอาวาสยังพานักข่าวไปหอเรียนเพื่อดูภาพริมโปเชองค์ก่อนหน้า ซึ่งรวมถึงองค์ปัจจุบันที่รัฐบาลจีนแต่งตั้งด้วย
“ริมโปเชที่ 7อาศัยอยู่ที่อารามนี้หรือเปล่าครับ” นักข่าวถาม
“เปล่าครับ ท่านอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านข้างล่าง” เจ้าอาวาสกล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
พระทิเบตกำลังแบกน้ำผ่านวัดเรทิง ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,100 เมตร และห่างจากลาซาเมืองหลวงของทิเบตมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 160 กิโลเมตร
ในระหว่างที่ไปเยี่ยมวัดแห่งอื่นที่เหลือ เจ้าอาวาสจินปาได้เล่าถึงประวัติศาสตร์,ตำนานและเรื่องอัศจรรย์ของวัดเหล่านั้น โดยมีผู้สังเกตการณ์ตามติดทุกฝีก้าว
“ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ทหารยามแดงไม่ได้ทำลายทุกอย่างสิ้นซาก ต่อมาในปี 1982 รัฐบาลได้ให้งบประมาณถึง 500,000 หยวนสำหรับการบูรณะวัด” จินปากล่าว
เช้าตรู่วันถัดไป เริ่มมีผู้จาริกแสวงบุญทยอยกันมาหมุนล้อธรรมจักรในวัด ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างบุญกุศล ดังนั้นแม้ผู้สื่อข่าวจะจากไปแล้วแต่วัดแห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงา.
*หมายเหตุ ในวัฒนธรรมความเชื่อทิเบต ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำสำคัญจะมาจากกระบวนการเสาะหาลามะผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ โดยริมโปเชผู้สำเร็จราชการจะพาคณะออกค้นหาทั่วดินแดน และมีการพิสูจน์จากนิมิตทางจักรวาล และการให้เด็กทำนายสิ่งของเครื่องใช้ของลามะที่มรณภาพหรือสิ้นพระชนม์
| 
