ตำนานเรื่อง กวนเกษียรสมุทร
ภาพจำลองการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทพและอสูร
ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยโบราณกาล เทพกับอสูรมักจะสู้รบกันเสมอๆ ต่างก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนเหล่าเทพตายลงเป็นจำนวนมาก พวกเทพจึงมาขอให้พระนารายณ์ช่วย ท่านจึงให้ทำการกวนเกษียรสมุทรเพื่อจะได้มีน้ำอมฤตมาให้พวกเทพได้ดื่มและจะได้มีชีวิตเป็นอมตะ แต่การกวนเกษียรสมุทรซึ่งเป็นงานใหญ่ ต้องให้พวกอสูรร่วมมือด้วย จึงมีการเจรจาพักรบกันชั่วคราว โดยฝ่ายเทพหลอกว่าจะให้พวกอสูรได้ดื่มน้ำอมฤตด้วย
การกวนเกษียรสมุทรนี้ต้องใช้พระยาอนันตนาคราช ซึ่งเป็นพญานาค มาพันรอบยอดเขาพระสุเมรุ แล้วก็ให้เหล่าเทพดึงทางหนึ่ง อสูรดึงอีกทางหนึ่ง ฝ่ายเทพก็ให้พวกยักษ์ไปดึงพญานาคทางด้านหัว เพราะรู้ว่าพญานาคจะคายพิษออกมา พวกอสูรก็จะโดนพิษจากปากของพระยาอนันตนาคราช ฝ่ายอสูรก็ต้องทนไป การกวนเกษียรสมุทรนี้ ความสั่นสะเทือนอาจจะทำให้โลกมนุษย์พังทลายได้ พระนารายณ์จึงต้องแบ่งภาคอวตารไปเป็นเต่ายักษ์ เพื่อเอากระดองไปรองรับยอดเขาพระสุเมรุไว้ เพื่อไม่ให้โลกมนุษย์พัง
ฝ่ายเทพและอสูรกวนเกษียรสมุทรกันเป็นพันๆ ปีจึงเกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น คือมีของวิเศษต่างๆ เกิดจาก เกษียรสมุทรขึ้นมา เช่น โคอุสุภทราช ซึ่งเป็นพาหนะของพระอิศวร รวมไปถึงนางอัปสรสวรรค์ต่างๆ ก็ออกมาด้วย เหล่าเทพจึงถือโอกาสที่อสูรกำลังสนใจนางงามเหล่านั้น แอบดื่มน้ำอมฤตก่อน
ฝ่ายอสูรนั้นมีเพียงราหูตนเดียวที่ไม่สนใจนางอัปสร และได้แปลงร่างเป็นเทพเข้ามาดื่มน้ำอมฤต แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ซึ่งเห็นว่าราหูปลอมตัวมาเป็นเทพ ได้ไปฟ้องพระนารายณ์ ราหูจึงถูกพระนารายณ์ตัดร่างกายออกเป็นสองท่อนด้วยจักร แต่เพราะได้ดื่มน้ำอมฤตเข้าไปแล้วจึงไม่ตาย หากเหลือร่างกายเพียงครึ่งท่อนเท่านั้น ดังนั้นราหูจึงโกรธแค้นพระอาทิตย์และพระจันทร์มาก และจะจับกินทุกครั้งที่เจอกัน
|