แฟชั่นฮิต ‘จตุคามรามเทพ’
ยามนี้หากใครไม่รู้จักวัตถุมงคล “จตุคามรามเทพ” ถือว่า “เอาต์” สุดๆ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ได้ขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ จนเป็นกระแสความนิยมที่พัฒนาไปถึงระดับเป็นเทรนด์แฟชั่นไปแล้ว กระแสนิยมจตุคามรามเทพทำให้เกิดสินค้าแฟชั่นตามมาหลายรูปแบบ ตั้งแต่สร้อยคอ กรอบพระที่ผลิตขึ้นมามากมาย รวมทั้งเสื้อยืดสกรีนลายจตุคาม เป็นต้น
เจ๊เล็ก (นามสมมติ) วัย 40 ปี เจ้าของร้านส่งปลีกเสื้อยืด “มิก อัพ” ตึกโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ เฟส 2 เป็นอีกคนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสนี้ จึงผลิตเสื้อสกรีนลายจตุคามรามเทพวางขายอย่างเอิกเกริกมานานร่วม 4 เดือนแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บางสัปดาห์สินค้าถึงกับขาดตลาด
เธอเล่าว่า ตอนนี้กำลังคิดคอลเลกชันใหม่ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยพัฒนาเป็นเสื้อแขนยาวคอกลม และแบบอื่นๆ เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น “กระแสเสื้อยืดจตุคามดีมาโดยตลอด เพราะของเราเป็นสินค้าแฟชั่น และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนเสื้อพิมพ์ลายโคตรเศรษฐีขาดตลาด เพราะคนอุดหนุนเยอะเหลือเกิน” เจ๊เล็ก เล่า
กระแสความนิยมดังกล่าว สอดคล้องกับธุรกิจกรอบพระและสายสร้อยของ สุนันท์ จงทวีทรัพย์ ที่มีร้านอยู่ในตึกพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า (บางลำพู) ซึ่งก็ได้รับอานิสงส์จากกระแสความนิยมด้วยเช่นกัน ทำให้เธอมีรายได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
ตอนนี้เรียกได้ว่าทำงานตลอดทั้งวัน แทบไม่ได้หายใจหายคอ บางสัปดาห์กรอบพระขนาด 5 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมที่สุดถึงกับขาดตลาด ไม่พอต่อความต้องการ ลูกค้าจึงต้องต่อคิวซื้อกรอบพระกันยาวเหยียดถึง 30 คิว บางวันลูกค้าเยอะเสียจนเกิดอาการเครียด
“เริ่มจากกลางปีที่แล้ว กระแสจตุคามดังมาก ลูกน้องในร้าน 8 คน รวมทั้งตัวเอง ไม่มีเวลากินอาหารกลางวันเลย ไปกินกันโน่น 2 ทุ่ม ตอนร้านปิด และเป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน แม้จะมีรายได้มากขึ้นก็จริง แต่ก็มาพร้อมกับความเครียด เนื่องจากโรงงานที่ผลิตตลับพลาสติกย่านใหญ่ๆ เช่น ท่าพระจันทร์ ฝั่งธนบุรี และจรัญสนิทวงศ์ ผลิตสินค้าไม่ทัน ต้องจัดสรรกระจายให้พ่อค้าแม่ค้าเจ้าต่างๆ เพื่อให้หมุนเวียนใช้ไปก่อน เรียกว่าตลาดกรอบพระโตถึง 100% ทีเดียว”
สุนันท์ยังคาดการณ์ด้วยว่า ความนิยมและศรัทธาจตุคามรามเทพยังคงอยู่อีกนาน ไม่ตกไปง่ายๆ เนื่องจากคนไทยกับความเชื่อด้านเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลเป็นของคู่กัน แม้กระแสของจตุคามรามเทพจะดูเป็นปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
มุมมองของจิตแพทย์ พญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล จิตแพทย์กรมสุขภาพจิต มีแง่คิดในเรื่องนี้ว่า จริงๆ แล้ววัฒนธรรมไทยมีความเชื่อเรื่องเหล่านี้เป็นพื้นฐานเดิมอยู่แล้ว เป็นความเชื่อที่อยู่ในตัวของสังคมมาโดยตลอด อย่างตอนนี้สภาพการใช้ชีวิตของคนค่อนข้างกดดัน และเกิดความตึงเครียด หรือหวั่นไหวกับสถานการณ์รอบตัวได้ง่าย ด้วยเหตุนี้คนจึงต้องการหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพื่อช่วยในสภาวะที่เราเกิดความตึงเครียด หรือไม่ค่อยมั่นใจในอนาคตของเราเอง
“เราไม่รู้ว่าเศรษฐกิจของบ้านเมืองจะดีหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้ไหว้พระ เรารู้สึกสบายใจ ทำให้เราได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกระบวนการความเชื่อ แต่ละช่วงความเชื่อมักมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในแต่ละช่วงเวลา ความนิยม ความชื่นชอบ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไป ก้ำกึ่งกับความเป็นแฟชั่นนิดหนึ่ง เราเรียกว่าเป็นการระบาดทางอารมณ์ร่วมกัน เป็นภาวการณ์ทางอารมณ์ของคนในสังคมที่เกิดขึ้นร่วมกัน และเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก”
พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องมีการลงมือปฏิบัติจริงอย่างเต็มที่ในชีวิตประจำวันด้วย ไม่ใช่คิดว่าไหว้แล้วจะได้สิ่งนั้นตอบสนองมาอย่างเดียว
เราไม่รู้ว่าการระบาดของแฟชั่นอย่างใดอย่างหนึ่งจะเข้ามาเมื่อไหร่ โดยทั่วไปเราก็ต้องเฝ้าระวังให้ดี เพราะอาจมีการตกเป็นเหยื่อเกิดขึ้น ในกรณีที่มีกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
|