|
จวกเละนู้ดดารา หลวงพ่อ ไม่รับเงินบริจาค
จากกรณีเหล่าศิลปินดาราและคนดังกว่า 30 ราย พร้อมใจเปลื้องผ้าถ่ายภาพเปลือยลงนิตยสารเฟม ที่อ้างว่าเพื่อนำออกประมูลหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ในวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี แต่ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมตามหลังมาอย่างมากมาย โดยเมื่อ วันที่ 30 มี.ค. คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีนิตยสารเฟมนำเหล่าบรรดานางแบบนู้ดระดับแนวหน้าของเมืองไทย รวมทั้งไฮโซชื่อดัง ร่วมถ่ายภาพนู้ดออกประมูลหารายได้การกุศล ช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ ว่า ได้ดูภาพนักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงถ่ายภาพนู้ดแล้ว เห็นว่า บางภาพก็รู้สึก รับได้ว่าเป็นงานศิลปะ แต่มีบางภาพที่ไม่เหมาะสม ส่อไปในทางยั่วยุทางเพศ โดยเฉพาะภาพของนางแบบชื่อดังที่ถ่ายเปลือยกายในท่าทางโก้งโค้งนั้น ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่ผลิตภาพนู้ดออกมาจำหน่าย และสื่อต่างๆที่นำเสนอภาพเหล่านี้ ต้องมีความระมัดระวัง และไม่ควรนำเสนอภาพที่มีลักษณะยั่วยุทางเพศ ไม่เหมาะสม
“เข้าใจว่าดารามีเจตนาดีที่จะหารายได้เข้าการกุศล แต่ด้วยวิธีการถ่ายภาพนู้ดนั้นไม่เหมาะสม เพราะต้องแยกให้ออกว่าภาพนั้นเป็นศิลปะหรือยั่วยุทางเพศ เพราะที่ผ่านมามีการถ่ายภาพเปลือยมาเป็นปฏิทินปีใหม่ และได้รับความสนใจมาก ดิฉันเข้าใจว่าดารากลุ่มนี้จึงเอาอย่างการถ่ายปฏิทินโป๊เปลือย โดยผลิตเป็นภาพชุดออกมาจำหน่าย หวังจะนำรายได้จำนวนมากมาช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ อย่างไรก็ตาม การที่ดาราทำอะไร คนย่อมให้ ความสนใจอยู่แล้ว ควรจะหาวิธีการอื่นเพื่อหารายได้ มากกว่าการถ่ายภาพนู้ด” รมว.วัฒนธรรมกล่าว
ด้านนางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า การที่ผู้ มีจิตสาธารณะ มีความคิดที่จะทำเพื่อการกุศล ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรที่จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มาก เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมมีการรณรงค์เรื่องการแต่งกายสุภาพ แต่งชุดผ้าไทย ขณะเดียวกัน ยังเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยิ่งมีความต้องการที่จะให้ประชาชนคนไทยร่วมกันอนุรักษ์ ส่งเสริม และรักษาความเป็นไทย ประเพณีไทยที่ดีเอาไว้ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกาย การแสดงออกแบบไทยๆของบุคคลสาธารณะที่อยู่ในสายตาของคนในสังคมไทย จึงอยากให้บุคคลเหล่านี้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ
“การทำกุศลสามารถทำได้หลายแบบ ผู้ป่วยเอดส์ ที่จะได้รับบริจาคเงินคงจะดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่ ไม่ควรที่จะแสดงออกเพื่อหารายได้ด้วยวิธีการถ่ายภาพนู้ด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และเป็นคนละเรื่องกันในการเปลื้องผ้าถ่ายรูป และนำเงินไปช่วยเหลือการกุศล คิดว่าสามารถทำอย่างอื่นก็ได้ แม้จะได้เงินน้อยกว่า แต่ก็เป็นการทำการกุศลเหมือนกัน อยากถามว่า ทำไมถึงไม่สวมเสื้อผ้าถ่ายแบบ โดยอาจเป็นการแต่งผ้าไทยถ่ายแบบก็ได้ เพราะใส่เสื้อผ้าไทยเข้ากับอากาศในช่วงนี้” เลขาฯ กวช.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแสดงออกดังกล่าวจะทำให้เด็กและเยาวชนเลียนแบบและคิดว่าเป็นตัวอย่าง เพราะเงินรายได้จะนำไปทำการกุศลหรือไม่ นางปริศนากล่าวว่า ประชาชนควรจะแยกแยะ และคิดว่าคงไม่มีใครอยากถอดเสื้อผ้าตามเหล่าบรรดานางแบบและไฮโซ เพราะการ แสดงออกดังกล่าวเป็นการเฉพาะตัว คงไม่มีเด็กคนไหนอยากไปถอดเสื้อผ้าโชว์เรือนร่างตนเอง นอกจากว่าจะทำในเรื่องการประกอบธุรกิจ หรือทำเรื่องการโปรโมต เพื่อให้ตนเองสามารถขึ้นหน้า 1 และดังได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งข่าวที่ออกมาขณะนี้ หากคิดเป็นค่าสื่อต่างๆ ที่ออกเป็นข่าวให้เกือบทุกฉบับ จะต้องใช้เป็นเงินเยอะมาก
เบื้องหลังการถ่ายภาพของดาราดังในเอเชียกว่า 300 ชีวิตที่มีชื่อของ "จา พนม" อยู่ด้วย
ขณะที่ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า การที่ดาราประมาณ 30 คน ถือว่าเป็นขวัญใจของวัยรุ่น เมื่อลุกขึ้นมาไม่ใส่เสื้อผ้า ถ่ายรูป แล้วนำเงินที่ขายภาพได้ไปทำบุญ จะทำให้เด็กเกิดความสับสนว่า ขณะที่ผู้ใหญ่สอนให้เด็กรักนวลสงวนตัว เมื่อเห็นเด็กใส่เสื้อรัดติ้ว กระโปรงสั้น ก็จะถูกดุ แต่ดาราที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้าและออกมาถ่ายรูปอย่างนี้ กลับทำได้ และไม่ถูกดุ จะทำให้เด็กและสังคมคิดอย่างไร คิดว่าน่าจะมีการคิดหากิจกรรมที่ดีกว่านี้ เพื่อนำมาหารายได้การกุศล ทั้งนี้ ได้นำเสนอในการประชุมคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน โดยที่ประชุม ถึงกับส่ายหน้า และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
เช่นเดียวกับ พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก เลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ กทม. ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีเดียวกันนี้ ว่า ขอคัดค้านการกระทำดังกล่าว เพราะการหารายได้ที่หมิ่นเหม่ต่อประเพณีและวัฒนธรรมไทยเช่นนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง และไม่ควรกระทำเพราะเป็นภาพลบของวัดพระบาทน้ำพุ เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำที่ผิดประเพณีและวัฒนธรรมของไทย การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์เช่นนี้ไม่สง่างามและเป็นตัวอย่างที่เสื่อมเสียเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ขอให้คนที่กำลังคิดจะพูดและจะทำในขณะนี้ ขอให้คิดถึงความเหมาะสมของวัฒนธรรมไทยเถิด อย่าได้คิดว่าเป็นการหาเงินช่วยการกุศลเลย ด้วยความจริงใจที่ห่วงใยสังคมไทย อย่าได้ทำลายภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ที่ดีงามที่ทุ่มเทความรู้ความสามารถที่มีอยู่ให้กับผู้ป่วยโรคเอดส์เลย และที่สำคัญที่สุด มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็ก เยาวชนและคนหนุ่มสาว ดังนั้น
ขอร้อง ขอความร่วมมือให้งดการทำกิจกรรมดังกล่าว อย่าได้สนองตัณหาราคะจนหน้ามืดเลย และหากร้องขอกันไม่ได้ในครั้งนี้แล้ว วันต่อไปก็ขอให้เหล่าดาราหรือผู้มีโอกาสทางสังคมบางคนมาถ่ายวีซีดีโป๊ของตนเองขายเพื่อการกุศลกันเสียเลย จะได้นำเงินมาช่วยการกุศล แล้ววันข้างหน้าปัญหาเด็ก เยาวชน คนหนุ่มสาวที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นเช่นไรก็เป็นเรื่องตัวใครตัวมัน เพราะศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของคนไทยถูกทำลายลงไปหมดแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวฯ แถลงถึงกรณีเดียวกันนี้ ว่าตนพยายามทำงานรณรงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนเดินทางที่ถูกต้อง แต่ผู้ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสังคม เช่น ดาราและคนในสังคมชั้นสูงทั้งหลายกลับทำตัวแบบนี้ จะพูดคำว่า ทำดีให้เด็กดูนั้น พูดไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีค่ายเพลงค่ายหนึ่งสนับสนุนอยู่ มีความรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจกับกลุ่มซึ่งเอาการกุศลมาอ้าง โดยบอกว่าทำดี แต่คิดว่าสังคมสับสน ทำให้เยาวชนสับสนว่าทำดีต้องแก้ผ้าต้องเปลื้องผ้าอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่ทำอะไรมีสมองกว่านั้น คิดว่าการที่หลวงพ่อวัดพระบาทน้ำพุคงจะกระอักกระอ่วนในการรับเงินก้อนนี้ แต่พระท่านบิณฑบาต ใครทำบุญท่านก็คงต้องรับหมด
นางระเบียบรัตน์ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง เพราะถ้ามีอีกหลายๆสมาคมบอกว่าจะเปลื้องผ้าถ่ายนู้ดหรือเพนต์ตัวช่วยการกุศล จะเป็นแบบอย่างในการแข่งกันทำความเลว คิดว่าสังคมไทยแยกแยะถูกผิดไม่ออกแล้ว เพราะเสพติดทางเพศ ทำให้ภูมิคุ้มกันทางสังคมบกพร่อง ไม่มีสมองจะคิดแล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร ทำผิดหรือถูก จนทำให้ตนรู้สึกสับสนแล้วว่า ทำไมคิดกันแบบนี้ไปหมด
นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวฯกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีนิตยสารหลายเล่มที่มีภาพโป๊ ท่าทางยั่วยวนอยู่ภายใน ส่วนภาพหน้าปกเป็นภาพที่ล่อแหลมมาก นุ่งน้อยห่มนิด แล้วอ้างว่าเป็นแฟชั่น ผู้หญิงซึ่งเป็นทั้งพิธีกรและเป็นคนมีชื่อเสียงในสังคม ก็ไม่รู้สึกละอายว่าสิ่งที่ทำเหมาะสมหรือไม่ ชาติตระกูลไม่ใช่สิ่งที่แบ่งแยกการกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมแล้ว อีกทั้งทราบว่านิตยสารฉบับหนึ่งจะนำภาพในลักษณะเดียวกันนี้ ของอดีตนางงามจักรวาล ซึ่งกำลังจะมาเป็นสะใภ้คนขอนแก่นเร็วๆนี้ มาลงอีกด้วย สำหรับภาพข่าวในสถานีโทรทัศน์บางช่อง นำแฟชั่นจากต่างประเทศมาฉาย โดยใส่จีสตริง นุ่งน้อยห่มนิด ปิดแค่อวัยวะเพศกับหัวนมเท่านั้น ดังนั้น ในฐานะนายกสมาคมฯ ขอเรียกร้องกระทรวงวัฒนธรรมในยุคปฏิรูปออกมาทำอะไรสักอย่าง เช่น ร้องขอความร่วมมือ เชื่อว่าคนไทยพูดกันรู้เรื่อง แต่ถ้าไม่พูด เหมือนเราส่งเสริมสนับสนุนให้ทำแบบนี้ และตอนนี้ตนทำได้เพียงทำหนังสือประท้วงไปยังนิตยสาร 2 ฉบับ และทำหนังสือถึงสถานีโทรทัศน์ให้ระวังการนำเสนอข่าวที่รุนแรงหรือข่าวยั่วยุทางเพศ การแสดงตลกที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย แม้กระทั่งสถานีโทรทัศน์บางช่องส่งเสริมให้พิธีกร ดาราในสังกัดครั้งแล้วครั้งเล่าให้ถ่ายภาพหวือหวา ให้มีความระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย
“ตอนนี้สังคมเราศีลธรรมตกต่ำ ย้อนหลังไปเหมือนมนุษย์โบราณเข้าไปทุกที คือใช้กำลัง ไม่มีเหตุผล ไม่รู้จักอาย หน้าด้านขึ้น เปลื้องผ้ามากขึ้น มนุษย์หิน มนุษย์ถ้ำยังใช้ใบไม้ปกปิด แต่เดี๋ยวนี้มันเปลื้องกันหมดแล้ว ซักวันอยากดังอยากมีชื่อเสียง ก็ลุกขึ้นสลัดผ้าออกก็มีชื่อเสียง อย่างนี้มันก็แย่แล้ว มันเหลืออดจริงๆ” นางระเบียบรัตน์กล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากมีคำตำหนิเรื่องภาพชุดดังกล่าวออกมาตลอดวัน และมีคำแนะนำให้ใช้วิธีอื่นในการรับบริจาค ในที่สุด นายอมาตย์ นิมิตภาคย์ บรรณาธิการ รับเชิญการถ่ายนู้ดการกุศล ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า งานนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสายงานที่ทำโดยตรง เพราะถ่ายรูปได้ จึงเป็นการนำเอาสิ่งที่ถนัดมาใช้ในการประมูลในการหาเงินเข้าการกุศล และรูปที่ทำออกมา ทุกคนพอใจและยินดีที่จะทำ ไม่ใช่ต้องการความดัง เพราะทุกคนมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ส่วนรายได้คิดว่าจะได้มากพอสมควรสำหรับการประมูลครั้งนี้ เพราะรูปประเภทนี้ไม่ใช่รูปที่ น่าเกลียด และต้องการให้รูปไม่มีกาลเวลา ไม่มียุคสมัย ฉะนั้น รูปนู้ดคือรูปที่ไม่มีเสื้อผ้า และคิดว่าไม่ได้ทำอะไรที่หมิ่นเหม่หรือเป็นการล่อแหลมอนาจาร คือคิดถึงแง่ ศิลปะที่ทั่วโลกก็ดูกันเป็นเรื่องปกติ
พร้อมกันนี้ นายอมาตย์ยังยืนยันด้วยว่า ภาพถ่ายที่ทำออกมานั้นทำในขอบเขตที่พอดี ตรงที่ห้ามก็ไม่ได้ทำ ซึ่งหากจะติติงให้เปลี่ยน คิดว่าคงเปลี่ยนไม่ทันเพราะมี การเตรียมงานมานานแล้ว และรูปเสร็จเรียบร้อยเตรียม พร้อมจะโชว์แล้ว และไม่คิดจะเปลี่ยนด้วย โดยตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะทำ ไม่มองว่าทำตามกระแส และโดยส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะงานที่จัดขึ้นนั้นไม่ได้เปิดให้ทุกคนเข้าชม มีสตูดิโอที่คอยดูแล มีทางเข้า-ออกทางเดียว เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเข้าไปดู ซึ่งได้มีการเตรียมงานและดูแล้วว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะสาธารณะมากมายขนาดคนเข้าไปดูได้ทุกคน
ส่วนที่มีเสียงติติงว่า การนำดารา-ไฮโซ มาถ่ายจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนนั้น นายอมาตย์ก็ตอบข้อสงสัยนี้ว่า คิดว่าเยาวชนทุกคนจะมีพ่อแม่พี่น้องหรือผู้ใหญ่ที่คอยดูแล เรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะคิดกัน เพราะมีเรื่องอย่างอื่นที่ล่อแหลมมากกว่านี้ ให้เด็กไปสัมผัสได้ง่ายกว่างานนี้อีก
จากนั้นในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม พระอุดมประชาทร หรือพระครูอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระ-บาทน้ำพุ ถึงกรณีที่มีกลุ่มไฮโซจะประมูลภาพนู้ดที่ถ่าย และนำรายได้มอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งทางหลวงพ่อได้ยืนยันว่า ทางวัดจะไม่ขอรับเงินดังกล่าวโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า ผู้ที่ต้องการบริจาคมีเจตนาที่ดี แต่วิธีการไม่เหมาะสม มันผิดจริยธรรม ถ้าทางวัดรับก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทำแบบนี้กันต่อไปอีก และจะกล่าวหาว่าวัดรับเงินจากการถ่ายนู้ด ในเรื่องดังกล่าวทางวัดได้รับการติดต่อมาให้ไปรับเงินบริจาคในวันที่ 5 เม.ย.นี้ แต่ทางวัดไม่ทราบว่าเงินที่จะนำมาบริจาค ได้มาจากไหน และทางวัดก็ยังไม่ตอบไป แต่ถ้าเป็นเงินดังกล่าวทางวัดไม่รับเด็ดขาด
“ทางวัดขอขอบใจในเจตนาที่ดีของผู้ที่จะบริจาค แต่น่าจะทำกิจกรรมหาเงินมาบริจาคที่ดีกว่านี้ อย่างเช่น ที่ จ.ลพบุรี ได้จัดโครงการรวมพลังใจให้วัดพระบาทน้ำพุ ในวันที่ 3 เมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต ถึง 7 วง นำโดย หงา คาราวาน ปู พงษ์สิทธิ์ มาลี-ฮวนน่า และมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องเอดส์ และอาตมาก็จะไปเป็นผู้บรรยายอีกด้วย ซึ่งเป็นโครงการที่ดี น่าจะทำแบบนี้ดีกว่า อาตมาก็ขอฝากประชาสัมพันธ์ด้วย กับโครงการดีๆแบบนี้ แทนที่จะเอาความงามของเรือนร่างมาถ่ายเป็นภาพ นำเงินมาบริจาค ทั้งนี้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย อาตมาขอเลือกตรงที่ไม่ขอรับเงินบริจาค เพื่อจะได้ไม่ผิดจริยธรรม และไม่เป็นปัญหาของสังคม” พระอุดมประชาทรกล่าวในที่สุด
ต่อมานายอมาตย์ นิมิตภาคย์ บก.รับเชิญนิตยสารเฟม ผู้ลงมือถ่ายภาพนู้ดด้วยตัวเอง ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังทราบว่าทางวัดพระบาทน้ำพุไม่ยอมรับเงินบริจาคครั้งนี้ว่าไม่รับก็ไม่เป็นไร เราก็มอบให้มูลนิธิอื่นก็ได้ ในเมื่อมีกระแสด้านลบออกมาอย่างนี้ ทำให้เจตนาของเรากลายเป็นเรื่องไม่ดีก็ตามใจ ไม่ว่ากัน เราแค่อยากจะให้ ถ้าถามความรู้สึกบอกตรงๆว่าเสียใจ เพราะทุกคนตั้งใจจะช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก โดยใช้อาชีพของเราในการทำ แต่ในเมื่อไม่เป็นการสมควร เราจะไปทำอะไรได้ งานก็ต้องดำเนินต่อไป ไม่มีการยกเลิกแน่นอน ภาพที่ถ่ายไม่ได้ออกมาน่าเกลียด ไม่ได้อนาจาร ปิดหมดทั้งหัวนมและอวัยวะเพศ ไม่เห็นอะไรเลย ภาพออกแนวอาร์ต ไม่ได้ ปลุกใจเสือป่า ทีหนังสืออื่นแนวซี้ด...อา วางแผงหราทุกเดือน ทำไมกระทรวงไม่ไปว่าเขาบ้าง มีตั้งหลายเรื่องที่ควรจะไปช่วยเหลือให้สังคมดีขึ้น ไม่น่าจะมาจำกัดแบบนี้ เสียดายเหมือนกันที่เรื่องต้องเป็นแบบนี้ แต่ไม่ว่ากัน เราก็เปลี่ยนไปให้คนที่เขาอยากได้เงินของเรา แล้วให้ ทางวัดไปให้ทางกระทรวงวัฒนธรรมช่วยแล้วกัน เราไม่ เสียหาย ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แค่เสียความรู้สึกเท่านั้นเอง
| 
