|
คิดดีแต่ทำไม่ดี
กลายเป็นข่าวฮือฮาช็อกวงการบันเทิงในทันที เมื่อดารา-ไฮโซชื่อดัง ทั้งชาย-หญิง ของเมืองไทยกว่า 32 ชีวิต เปลื้องผ้าถ่ายนู้ดลงนิตยสาร “เฟม” พร้อมทั้งคัดเลือกภาพของเหล่านางแบบนายแบบบางส่วนมาขยายใหญ่แล้วจัดทำนิทรรศการภาพ “เฟม อิโรติก้า” โดยให้ผู้ชมทั่วไปได้ร่วมประมูลในราคาภาพละ 1 หมื่นบาท จำนวน 26 ภาพ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และสถาบันบำราศนราดูร ในกระทรวงสาธารณสุข
กรณีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม และผิดจริยธรรมอันดีงาม จนกระทั่งพระอุดมประชาทร หรือ พระครูอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ถึงกับยืนยันว่าไม่ขอรับเงินบริจาคดังกล่าวโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่าผู้ที่ต้องการบริจาคมีเจตนาที่ดี แต่วิธีการไม่เหมาะสม มันผิดจริยธรรม ถ้าทางวัดรับเงินบริจาคครั้งนี้ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทำกันแบบนี้ต่อไป
หลวงพ่ออลงกต
แม้บรรดาดารา-ไฮโซ ที่ร่วมใจกันเปลื้องผ้าครั้งนี้จะกล่าวถึงเจตนารมณ์ของตัวเองว่าทำไปด้วยความเต็มใจ และดีใจที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ การกุศลในครั้งนี้ โดยไม่รับค่าตัวสักบาทเดียว
รวมทั้ง อมาตย์ นิมิตภาคย์ ช่างภาพชื่อดังและ บก.รับเชิญนิตยสารเล่มดังกล่าว ที่พยายามออกมาบอกว่าไม่ได้ทำอะไรที่หมิ่นเหม่หรือล่อแหลมอนาจาร และคิดว่าภาพนู้ดเหล่านี้ก็คือศิลปะที่ทั่วโลกก็ดูกันเป็นเรื่องปกติ
ทว่า อยากจะบอกว่าบางครั้งศิลปะกับจริยธรรมอันดีก็จำเป็นต้องแยกกันออกให้ชัดเจน ไม่ใช่เอะอะก็เอาศิลปะมาอ้างอยู่ร่ำไป ยิ่งเราเป็นเมืองพุทธยิ่งต้องระวัง
จริงอยู่แม้บางภาพที่ออกมาจะรู้สึกยอมรับได้ว่าเป็นศิลปะ แต่ก็มีบางภาพที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภาพของนางแบบชื่อดังที่ถ่ายเปลือยกายในท่าทางโก้งโค้ง นั้นยอมรับไม่ได้จริงๆ ว่านั่นหรือคือศิลปะหรือว่าสื่อยั่วยุ อนาจารกันแน่
อย่างนี้อาจจะทำให้หลายคนก็คงอดคิดไม่ได้ว่า งานนี้อยากโด่งดังโดย ใช้การทำบุญทำกุศลมาบังหน้ามากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็มีอัลบั้มนู้ดของบรรดานักแสดงชื่อดังของฮ่องกงออกมาเปลื้องผ้าถ่ายรูปกันหน้าสลอน ยอดสั่งจองนั้นถล่มทลาย แถมช่างภาพยังเนื้อหอมขึ้นอีก
แม้ลึกๆ จะรู้สึกชื่นชมที่คนไทยยังมีน้ำใจช่วยเหลือกันในยามที่เดือดร้อน หรือมีจิตเป็นสาธารณะ มีความคิดที่จะทำเพื่อการกุศล แต่อย่างที่คุณหญิง ไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรมแห่งชาติอยากจะวิงวอนให้ผู้ที่ผลิตภาพทำนองนี้ออกมาจำหน่าย รวมถึงสื่อต่างๆ ที่นำเสนอภาพทำนองนี้ต้องมีความระมัดระวังกันสักนิด ว่ามันเป็นภาพยั่วยุหรือว่าศิลปะกันแน่
แล้วอย่างนี้มันผิดตรงไหน...ก็ผิดตรงวิธีการที่ไม่เหมาะสมนี่แหละ เข้าข่ายที่ว่าเรียกว่าเจตนารมณ์ดีแต่วิธีการไม่เหมาะสมที่สุดจริงๆ แล้วถ้าใครๆ ต่างพากันนำบรรทัดฐานนี้มาใช้แล้วอ้างเพื่อการกุศลเป็นทิวแถวบ้างล่ะ ไม่อยากนึกภาพเลยว่าสังคมไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
อย่างไรเสียก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานตามถนัด แต่จะคิดทำการงานใดชิ้นต่อไปก็จงคิดให้หนัก และควรคำนึงถึงวิธีการนำเสนอที่ถูกต้องและจริยธรรมอันดีงามด้วยก็แล้วกัน
| 
