หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

รถขน"จตุคาม"คว่ำ ไทยมุงฮือรุมฉกกันอลหม่าน

เสี่ยใหญ่เจ้าของรีสอร์ตดังระนองซิ่งรถไปรับจตุคามรามเทพที่เมืองคอน ระหว่างทางเกิดยางระเบิดพลิกคว่ำชนต้นไม้ข้างทาง หลุดออกมานอกรถตายสุดสยอง ขณะที่จ.ส.ต.รอดปาฏิหาริย์แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ได้แผลเย็บแค่ 3 เข็มก็ให้กลับบ้านได้ เจ้าตัวเปิดใจอ้างระหว่างเกิดเหตุมือกุมจตุคามไว้ตลอดจึงรอดปลอดภัยมาได้ ส่วนเสี่ยคนขับลืมไว้ที่บ้านไม่ได้ห้อยมาด้วย เผยระหว่างเกิดเหตุชาวบ้านฮือฉกหายเกลี้ยงในพริบตา

อีกคดี "จ่า ขุนพันธ์" ลูกบุญธรรมของพล.ต.ต.ขุนพันธ์ที่เพิ่งยิงโจรปล้นจตุคามตายหมาดๆ โดนแจ้งจับข้อหาตุ๋นขายจตุคาม รุ่นเงินไหลมา 1 เก๊ ระหว่างตำรวจพาไปค้นบ้านเกิดอาการตัวสั่นเทิ้ม พูดจาเสียงคล้ายคนแก่ อ้างวิญญาณขุนพันธ์เข้าสิง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ร.ต.ต.ชูศักดิ์ เมืองระรื่น ร้อยเวรสภ.อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งอุบัติเหตุที่ริมถนนสายเอเชีย 41 หลัก 562-563 หมู่ที่ 4 ต.นาขา ช่องทางขาล่องใต้ ที่เกิดเหตุก่อนขึ้นสะพานคลองมอง พบว่าริมถนนดังกล่าวลึกจากพื้นถนนประมาณ 3 เมตร พบรถกระบะแวน ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีดำ จีวากอน ทะเบียน กข 4885 ชุมพร พุ่งตกลงไป สภาพพังยับเยิน กระจกด้านหน้าแตกละเอียด ล้อหลัง 2 ล้อ และล้อหน้าซ้ายระเบิดยางฉีกขาด หงายท้องในป่าข้างถนน นอกรถ พบศพนายไพรัตน์ รัตนเสวี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/11 หมู่ที่ 2 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง นักธุรกิจใหญ่เป็นเจ้าของตะวันฉายรีสอร์ต รีสอร์ตหรูในจ.ชุมพร ซึ่งเป็นคนขับ สภาพคอหักหมุนได้รอบ


รถจตุคามฯ- นายไพรัตน์ รัตนเสวี เสี่ยรีสอร์ตชุมพร ขับมิตซูบิชิ จีแวกอน ขนเหรียญจตุคามฯ หลายสิบกล่องไปจ.นครศรีธรรมราช แต่ยางล้อระเบิดรถตกถนนสายเอเชีย หลักก.ม. 562-563 อ.หลังสวน เสียชีวิตคาซากรถ จตุคามฯหลายพันเหรียญถูกไทยมุงฮือแย่งเก็บจนเกือบหมด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.

ภายในซากรถ พบร่างจ.ส.อ.ธนวัฒน์ ชติวงศ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/1 แขวงและเขตดุสิต กทม. ติดอยู่ในซากรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีแผลที่มือซ้าย จึงนำส่งร.พ.หลังสวน แพทย์เย็บบาดแผลเพียง 3 เข็ม อนุญาตให้กลับบ้านได้

นอกจากนี้ ที่เกิดเหตุยังพบกล่องใส่จตุคามรามเทพ รุ่น "เก้าหน้า มหาโชคมหาเศรษฐี" วัดคงคาวง หรือวัดอ้ายเขียว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช รุ่นสร้างปี 2550 หล่นเกลื่อน ประมาณ 2 พันกล่อง เพราะประชาชนที่ไปมุงดูในที่เกิดเหตุต่างเก็บเหรียญจตุคามไปจนหมด

สอบสวนได้ความว่า จ.ส.อ.ธนวัฒน์ และนายไพรัตน์ขับรถจากจ.ชุมพร มุ่งหน้าจ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดต่อเรื่องเหรียญจตุคามรามเทพเพิ่มเติม ภายในรถมีลังกระดาษใส่กล่องเหรียญจตุคามรามเทพ หลายสิบกล่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดยางระเบิด แล้วพลิกคว่ำลงข้างทางชนกับต้นไม้ ทำให้ยางอีก 2 เส้นระเบิดเพิ่ม นายไพรัตน์คนขับกระเด็นออกนอกรถคอหักเสียชีวิต ส่วนจ.ส.อ.ธนวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จ.ส.อ.ธนวัฒน์กล่าวว่า ตนพกเหรียญของจตุคามรามเทพติดตัวไว้ตลอดเวลา ขณะที่เกิดเหตุก็นึกถึงพระคุณของเทพเจ้าโพธิสัตว์จตุคามรามเทพ ขอให้คุ้มครอง แล้วรู้สึกเหมือนมีหัตถ์ของจตุคามฯสีดำ มาโอบไว้ตลอดเวลาที่รถพลิกคว่ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงมีแผลที่มือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมทั้งควักเอาเหรียญจตุคามรามเทพ รุ่นดังกล่าวออกมาโชว์ให้ดู ส่วนนายไพรัตน์ เศรษฐีเจ้าของธุรกิจรีสอร์ต ปกติพกเหรียญจตุคามรามเทพติดตัว แต่ก่อนเดินทางทราบเพียงว่าได้ลืมเหรียญไว้ที่บ้าน จนมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ตำรวจได้มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป


หลอกขาย- นายเผชิญ และนางอรษา ซ้วนละลิ้ม สองผัวเมียขึ้นโรงพัก สภ.ต.ชะเมา จ.นครศรีธรรมราช แจ้งจับนายจำนงค์ บุษบรรณ หรือ "จ่าขุนพันธ์" ลูกบุญธรรมขุนพันธ์ หลอกขายจตุคามฯ เก๊ มูลค่ากว่า 8 หมื่นบาท

อีกคดีเมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายเผชิญ ซ้วมละลิ้ม อายุ 43 ปี และนางอรษา ซ้วนละลิ้ม อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 21 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความพ.ต.ท.สมทรง รักษาแก้ว สารวัตรเวร สภ.ต.ชะเมา อ.เมือง นครศรีธรรมราช ว่าถูกนายจำนงค์ บุษบรรณ หรือ"จ่าขุนพันธ์" อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.15 ต.ท่าเรือ อ.เมือง นครศรีธรรมราช ลูกบุญธรรมของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช หลอกขายวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพรุ่นเงินไหลมา 1" หรือ "รุ่นปีมหามงคล 2549-50 เงินไหลมา 1" เป็นของเก๊จำนวน 83 เหรียญ มูลค่าจำนวน 83,000 บาท

นายเผชิญกับนางอรษาให้การว่า ตนมีอาชีพค้าขาย เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ติดต่อขอซื้อวัตถุมงคลองค์จตุคามรามเทพ รุ่นเงินไหลมา รุ่น 1 ผ่านนายอำนวย บุษบรรณ ญาติฝ่ายพ่อของนายจำนงค์ เนื่องจากเห็นว่านายจำนงค์เป็นศิษย์ใกล้ชิดของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงให้ความเชื่อถือว่าวัตถุมงคลที่นำมาขายนั้นไม่ใช่ของปลอมแน่ จึงเดินทางมาซื้อขายกันที่บ้านของนายจำนงค์ โดยนำเงินมาให้ทั้งหมด 83,000 บาท และได้วัตถุมงคลรุ่นเงินไหลมาจำนวน 83 เหรียญ แต่เมื่อนำวัตถุมงคลไปตรวจสอบปรากฏว่าวัตถุมงคลดังกล่าวเป็นของเก๊ทั้งหมด

ทั้งสองให้การต่อว่า จากนั้นพวกตนจึงนำของทั้งหมดมาคืนนายจำนงค์ เพื่อขอเงินคืน แต่นายจำนงค์อ้างว่าไม่เคยขายวัตถุมงคลให้และไม่ยอมคืนเงินให้ ตนพยายามไกล่เกลี่ย เพราะไม่ยากให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต แต่นายจำนงค์ไม่ยอมท่าเดียว บอกถ้าจะเอาเงินคืนให้ไปแจ้งความเอาผิดทางกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงนำของกลางพระเก๊ทั้งหมดมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

ต่อมาพ.ต.ท.พิรุณ กลัดทอง รองผกก.หน.สภ.ต.ชะเมา และพนักงานสอบสวนนำพระเก๊ทั้ง 83 เหรียญไปให้พระมหาไมตรี ปภารตโน เจ้าอาวาสวัดพระนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น "เงินไหลมา 1" ซึ่งพระมหาไมตรีทำหนังสือยืนยันว่า วัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่น ปีมหามงคล 2549-50 เงินไหลมา นั้น เป็นที่ศรัทธานิยมสะสมของสาธารณชน ทำให้มีการทำลอกเลียนแบบดังเช่นพิมพ์ที่นำมาให้ตรวจสอบทั้งหมดนี้ ซึ่งทั้งหมดและเนื้อไม่ได้ออกมาจากวัด จึงถือว่าเป็นของปลอม

จากนั้นเจ้าหน้าที่สายตรวจไปเชิญตัวนายจำนงค์มายังสภ.ต.ชะเมาเพื่อสอบสวน แต่นายจำนงค์ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักและไม่เคยขายวัตถุมงคลให้บุคคลทั้งสอง และยินดีให้เข้าไปค้นในบ้านทุกซอกทุกมุม และยืนยันว่าไม่มีวัตถุมงคลรุ่นนี้อยู่ในบ้านเลย

จากนั้น เจ้าหน้าที่นำนายจำนงค์รวมทั้งผู้เสียหายเดินทางไปยังบ้านพักของนายจำนงค์ เลขที่ 55/15 ม.15 ต.ท่าเรือ อ.เมือง นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจค้นทุกห้อง แต่จากการตรวจค้นอย่างละเอียด พบแต่วัตถุมงคลรุ่นอื่นๆ มีทั้งวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย 45 รวมอยู่กว่า 10 ลัง และยังมีเครื่องรางของขลังวัตถุมงคลรุ่นอื่นๆ อีกจำนวนมาก แต่ไม่มีรุ่นเงินไหลมาแบบที่ผู้เสียหายนำไปแจ้งความ แต่ที่ยังพอจะเป็นหลักฐานได้คือเงินสดที่ผู้เสียหายนำไปซื้อพระเก๊ดังกล่าวยังอยู่ครบ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในห้องพระบูชาอยู่นั้น นายจำนงค์ออกอาการตัวสั่นเป็นคนทรงเจ้า และแสดงสีหน้าน้ำเสียงว่าเป็นพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชเข้าทรง และพูดว่า "มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร มาเหยียดหยามกันอย่างนี้ ลูกกูสร้างแต่ความดี มาแกล้งลูกกูทำไม มันเป็นคนดี พวกสูเป็นพวกทำลายคนดี"

ขณะที่พ.ต.ท.พิรุณกล่าวตอบไปว่า ได้ขออนุญาตองค์พ่อแล้วไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจของนายจำนงค์เอง และขณะนั้นนายจำนงค์ร่ำไห้คล้ายคนแก่ และเมื่อเจ้าหน้าที่พาตัวออกมาจากห้องเก็บพระเครื่องอาการดังกล่าวได้หายไป

สำหรับเงินสดที่ผู้เสียยืนยันและเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบเงินสดธนบัตรชนิด 1,000 บาท จำนวน 69,000 บาท ธนบัตร 20 บาท จำนวน 3,000 บาท ธนบัตร 100 บาท จำนวน 6,000 บาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายจำนงค์ กลับไปยังสภ.ต.อีกครั้ง ซึ่งนายจำนงค์ ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นและไม่ได้เป็นผู้ขายพระดังกล่าวให้นายเผชิญ แต่ทางผู้เสียหายได้ยืนยันถึงตัวนายจำนงค์ เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงผู้อื่นก่อนที่จะปล่อยตัวไป และจะได้สอบปากคำดำเนินคดีอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจำนงค์ บุษบรรณ หรือ "จ่าขุนพันธ์" อ้างตนเองว่าเป็นลูกบุญธรรมของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชนั้น เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุยิงคนร้ายคือ นายเยาวลักษณ์ ผะลิกะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.8 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง ที่พาพวกเข้าปล้นบ้านเพื่อชิงเอาวัตถุมงคลพระผงอุดมโชค "จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย ปี 45" มาแล้ว ซึ่งพระดังกล่าวจัดสร้างโดยวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าพิธีคือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช และนายจำนงค์มีอยู่กว่า 1,500 องค์ มูลค่านับสิบล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคืนเกิดเหตุโจร 3 คน ซึ่งมีนายเยาวลักษณ์ร่วมอยู่ด้วยได้งัดประตูกระจกหน้าบ้านนายจำนงค์และถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนที่เหลือต่างก็วิ่งหนีไปได้ จากนั้น นายจำนงค์ถือปืนรอมอบตัวกับตำรวจ ขณะที่ตำรวจระบุว่าการก่อเหตุในครั้งนี้มีเซียนพระในพื้นที่เป็นนกต่อให้คนร้ายเข้ามาปล้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด"


ไปข้างบน