|
กทม.รวมมวลสารสิริมงคลสร้าง “พระเสาชิงช้า” ฤกษ์ปลุกเสก ก.ค.นี้
กทม.เตรียมนำมวลสารจากการจัดสร้างวัตถุมงคล 90 พรรษาสมเด็จย่า, 60 พรรษาราชินี, 72 พรรษาในหลวง และ 72 พรรษาราชินี สร้างพระเสาชิงช้าร่วมกับมวลสารเสาชิงช้าทั้งเก่าและใหม่ โดยมีพระเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศ จำนวน 81 รูปร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ ลานคนเมือง เดือนกรกฎาคมนี้
เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) เวลา 14.19 น. นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงเสาชิงช้าเพื่อขอพลีมวลสารนำมาจัดสร้างวัตถุมงคลในงานฉลองเสาชิงช้า โดยมีพระราชครูศิวาจารย์ ประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวง ณ โรงไม้ อู่บกพหลโยธิน จ.พระนครศรีอยุธยา
นายรัฐพล กล่าวว่า ตามที่ กทม.ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้าอันเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติจนแล้วเสร็จ และเตรียมการจัดงานฉลองเสาชิงช้าอย่างเป็นทางการ คณะกรรมการอำนวยการบูรณะเสาชิงช้า ได้มีมติให้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกในงานฉลองเสาชิงช้าใหม่ คือ “พระเสาชิงช้า” เพื่อให้ประชาชนเช่าไว้บูชา โดยจัดทำใน 2 รูปแบบ แบบแรก ด้านหน้าเป็น “พระศรีศากยมุนี” ด้านหลังเป็นรูปเสาชิงช้าและพระวิหารวัดสุทัศนฯ มี 3 แบบพิมพ์ คือ ทรงสี่เหลี่ยม วงกลม และรูปไข่ ส่วนแบบที่ 2 ด้านหน้าเป็น “พระตรีมูรติ” ด้านหลังเป็นรูปเสาชิงช้าและพระวิหารวัดสุทัศนฯ แบบพิมพ์เป็นรูปวงรี รวมทั้งสิ้น 4 แบบพิมพ์ พิมพ์ละ 2.5 แสนองค์ รวม 1 ล้านองค์
ทั้งนี้ เหตุที่ใช้รูปพระศรีศากยมุนีในการจัดสร้างวัตถุมงคล เนื่องจากพระศรีศากยมุนีถือเป็นพระประจำ กทม. ซึ่งรัชกาลที่ 1 โปรดให้อัญเชิญจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมายาวนาน ปัจจุบันเป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่อุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ส่วนการจัดสร้างพระตรีมูรตินั้นเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้คนมีความคิดแปลกแยกหลากหลาย
บ้านเมืองต้องการความรักความสมานฉันท์ พระตรีมูรติจึงเป็นการรวมตัวกันของพลังทั้งสามที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดไว้ในรูปหรือร่างเดียวกัน เชื่อกันว่าพระตรีมูรติจะเสด็จจากสวรรค์มายังโลกมนุษย์ในวันอังคารและวันพฤหัส เพื่อทรงรับฟังคำสวดภาวนาและการขอพรจากผู้ที่สักการะ ปัจจุบันพระตรีมูรติเป็นที่นิยมบูชาในหมู่หนุ่มสาวในฐานะเทพแห่งความรัก
นายรัฐพล กล่าวอีกว่า และเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระเสาชิงช้าซึ่งเป็นพระผง จึงกำหนดให้นำมวลสารที่สำคัญในการจัดสร้างประกอบด้วย มูลสารของเนื้อไม้เสาชิงช้าทั้งเก่าและใหม่ที่บดละเอียด นำมาเป็นส่วนผสมหลัก มวลสารจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 9 วัด และมวลสารจากการจัดสร้างวัตถุมงคลในวโรกาสที่สำคัญ ได้แก่ 90 พรรษาสมเด็จย่า, 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ, 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ 72 พรรษาพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยพระเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศ จำนวน 81 รูป จะร่วมปลุกเสก ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2550 ณ ลานคนเมือง เสาชิงช้า
รองปลัดกทม. กล่าวด้วยว่า กทม.จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจสั่งจองพระเสาชิงช้าระหว่างวันที่ 1 -31 พฤษภาคม 2550 ณ กองประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกทม. ชั้น 1 ศาลาว่าการ กทม. 0-2224-3074 และที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ในเช่าราคาองค์ละ 99 บาท สำหรับผู้สนใจสั่งจองเป็นชุดประกอบด้วยพระเสาชิงช้าทั้ง 4 แบบพิมพ์ บรรจุในกล่องกำมะหยี่สวยงาม สามารถสั่งจองในราคา 499 บาท โดยกทม. จะนำรายได้ไปจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์เสาชิงช้า เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับเสาชิงช้า เช่น การบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งต่อๆ ไป อีกทั้งนำรายได้ส่วนหนึ่งเป็นกองทุนพัฒนาท้องถิ่นในจังหวัดแพร่ที่เสียสละต้นสักทองอันล้ำค่าทั้ง 6 ต้นมาทำเสาชิงช้าต้นใหม่ด้วย
| |