หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

เพราะกระแส "จตุคามฯ" ลูกหลาน-ว่านเครือขุนพันธ์ ชีวิตปั่นป่วนวุ่นวาย


วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ

กระแสความนิยมวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ก่อเกิดปรากฏการณ์อันไม่เคยปรากฏในแวดวงวัตถุมงคลของเมืองไทย

เป็นความนิยมที่มาเร็วและแรง ทั้งที่ครั้งแรกเริ่มเดิมสร้างตกอยู่ในชะตาถึงขั้น "ให้ฟรียังโกรธ"

นับจากวันจัดสร้างรุ่นแรกในวาระสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช พ.ศ. 2530 เมื่อครั้ง พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ลงคุมพื้นที่ในตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช

มีปัญหาต่างๆ มากมาย จนมีการเข้าทรงเทพชั้นสูงซึ่งระบุว่าปัญหาที่ไม่หมด เนื่องจากมีการสาปแช่งเมืองนครศรีธรรมราชเอาไว้ในอดีตกาล ต้องทำพิธีสร้างหลักเมืองเพื่อแก้เคล็ด

แล้วร่างทรงพลันวาดภาพเทพองค์หนึ่ง และให้ไปถาม "อ้ายหนวด" ว่าเทพในภาพคือใคร!?

"อ้ายหนวด" คนนั้น คือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือ "ขุนพันธ์" อดีตนายตำรวจมือปราบชื่อดังที่สุดคนหนึ่งในรอบศตวรรษของวงการสีกากี

โด่งดังด้วยฝีมือ ด้วยความสัตย์ซื่อมือสะอาด และด้วยเสียงร่ำลือยกย่องเป็นจอมขมังเวทย์

ครั้งนั้นขุนพันธ์ซึ่งอายุล่วงเข้าวัย 88 แล้ว บอกชัดเจน ภาพเทพที่วาดออกมาคือ "จตุคามรามเทพ" หรือเรียกอีกนามว่า "จันทรภาณุ" กษัตริย์แห่งอาณาจักรศรีวิชัย

การสร้างจตุคามรามเทพรุ่นที่ 1 เริ่มขึ้น และตั้งแต่นั้นชื่อของขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งเลื่องลืออยู่แล้ว ก็ถูกจับเอาไว้เคียงกัน


พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือ "ขุนพันธ์"

5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ขุนพันธ์ล่วงลับ สิริอายุ 108 ปี

ไม่มีใครลืม และยิ่งไม่ลืมวันพระราชทานเพลิงศพครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของประเทศไทย มหาชนนับจำนวนกว่า 2 แสนคนเข้าร่วมงาน เป็นภาพสะท้อนศรัทธาแน่นแฟ้น

และเป็นภาพสะท้อนความมุ่งหมายใน "จตุคามรามเทพ"

ปรากฏการณ์ประวัติการณ์ในแวดวงวัตถุมงคล และยังพุ่งไม่ตก

สืบสายตรง ณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช วัย 56 บุตรชายคนโต ผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนบิดาในงานพิธีเกี่ยวกับจตุคามรามเทพ

เล่าว่าร่างประทับทรงเคยบอกไว้ว่า "เก็บเอาไว้ให้ดี ของของเราจะแพงขนาดพระสมเด็จวัดระฆังฯ"

เป็นพ่องานจัดสร้างเหรียญที่ระลึกพิธีพระราชทานเพลิงศพ เผยเป็นเหรียญซึ่งผสมมวลสารพิเศษต่างๆ รวมทั้งเส้นผมของขุนพันธ์ มี 3 แบบ โดยแบบที่ 1 เป็นเหรียญเงิน ทองแดงลงดำ และผงว่านขาวดำแดง มีรูปขุนพันธรักษ์ราชเดชอยู่ด้านหน้า ด้านหลังเป็นลายนิ้วหัวแม่มือข้างขวาของท่าน

อีก 2 แบบ เป็นเหรียญชนิดผง ด้านหน้าเป็นรูปองค์ท้าวจตุคามรามเทพยกมือ ด้านหลังเป็นรูปขุนพันธรักษ์ราชเดชนั่งเก้าอี้ถือดาบ และแบบเป็นเหรียญทองแดงพิมพ์เสมา ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ทวด ด้านหลังเป็นรูปขุนพันธรักษ์ราชเดช

ที่ผ่านมาต้องขึ้นล่องกรุงเทพฯ-นครฯ แจ้งความในคดีจตุคามฯ ปลอมแล้วปลอมอีก


เหรียญขุนพันธ์

ยังมีเรื่องไม่ธรรมดาของ นายจำนงค์ บุษบรรณ หรือ "จ่าขุนพันธ์" วัย 58 ปี ลูกบุญธรรมขุนพันธ์

ไม่ธรรมดานับแต่มีโจรบุกเข้าบ้านหมายชิงเอาจตุคามรามเทพรุ่นบูรณะเจดีย์ราย ปี 2545 ที่อยู่ในความครอบครองกว่า 1,500 องค์ มูลค่านับสิบล้านบาท

ให้หลังเพียงสัปดาห์เดียว จำเลยคดีฆ่าก็มาเป็นจำเลยซ้ำ เมื่อคนประกาศว่ามีจุตคามฯ จริงนับพันองค์ในครอบครอง ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหลอกขายจตุคามรามเทพรุ่นเงินไหลมา 1 ของเก๊จำนวน 83 เหรียญ มูลค่า 83,000 บาท มีชาวบ้านหลายรายเป็นเจ้าทุกข์

อีกคนลืมไม่ได้ กฤตภาส สิทธิรักษ์ อัยการอาวุโส ประจำสำนักงานอัยการคดีศาลแขวง จ.นนทบุรี ผู้เรียกขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นลุง

คนสั่งทำเหรียญจตุคามฯ ที่ต่อมา นายณสรรค์ เข้าร้องเรียนให้ตำรวจดำเนินคดี ระบุเป็นผู้ปลอมเหรียญจตุคามรามเทพที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ

โต้มาว่าไม่ใช่เหรียญปลอม เพราะเข้าพิธีมาแล้วถึง 3 ครั้ง และไม่มีการโฆษณา อวดอ้างสรรพคุณ หรือแผ่นปลิวให้เช่าบูชาแต่อย่างใด

ยืนยันความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับขุนพันธ์

และยืนยันว่าประชาชนทั่วไปที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาใน "ท่านลุงขุนพันธ์" มีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ในการจัดสร้างเหรียญ โดยมิต้องขออนุญาตผู้ใดทั้งสิ้น

เครือข่ายทายาทและคนใกล้ชิด ชีวิตวันนี้ผันผวนขึ้นลงด้วยกระแสจตุคามฯ และขุนพันธ์โดยแท้


ไปข้างบน