สังคมจตุคามรามเทพ
ไร้สติ : ประชาชนนับหมื่นคน หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศของเมืองไทย เพื่อมาจองวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่งเงินไหลมา 2 จนแน่นขัดพร้อมทั้งแย่งชิงใบจองจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ภาพฝูงชนนับหมื่นเบียดเสียดเพื่อแย่งชิงใบจองวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ที่ จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งเหยียบกันเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นภาพที่อเนจอนาถ จนไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินพุทธแผ่นดินธรรม
กล่าวกันว่า ในยามที่บ้านเมืองสงบร่มเย็น พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรือง หากแต่ยามใดที่บ้านเมืองเข้ายุคลำเค็ญ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง จะเฟื่องฟู
สังคมไทยขณะนี้กำลังเป็นเช่นนั้น กระแสความคลั่งไคล้ต่อวัตถุมงคล จตุคามรามเทพ ถูกปลุกปั่น สร้างกระแสอาศัยความศรัทธา อาศัยความทุกข์ของคน เสริมส่งความลุ่มหลงต่อเทพที่เชื่อกันว่าสามารถบันดาลลาภยศ เงินตรา ทรัพย์สินเงินทอง ปัดเป่าให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย
ส่งผลให้มีผู้หลงเชื่อเหลือคณานับ ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการเทวพาณิชย์
ประชาชนเหลือคณานับถูกพัดพาไปท่ามกลางพายุแห่งการปั่นราคา
ประชาชนจำนวนไม่น้อย เปลี่ยนพฤติกรรมราวกับนักเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อมาขายไปอ่อนไหวกับราคาอันเป็นสมมติ
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ
การโหมประโคมความศักดิ์สิทธิ์ มากอิทธิฤทธิ์เพื่อสร้างราคาวัตถุมงคลแต่ละรุ่น แต่ละสำนัก เป็นไปด้วยกลวิธีแห่งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยไม่มีเหตุผลเป็นวิทยาศาสตร์ หลักพระพุทธศาสนา หลักความเชื่อเรื่องทำดีได้ดี ไม่มีความหมาย
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอย ปรากฏว่าสติสัมปชัญญะของผู้คนได้พลอยถดถอยไปด้วย แต่ละวัด แต่ละสำนักที่ผลิตจตุคามรามเทพออกมาจำหน่าย ตั้งชื่อรุ่นเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ เกทับบลัฟกันอย่างสุดใจขาดดิ้น อาทิ รุ่นกำเนิดเศรษฐี รุ่นโคตรเศรษฐี รุ่นพ่อให้รวย รุ่นอัครมหาเศรษฐีนวโกฏิ เป็นต้น
สิ่งที่น่าตระหนกเป็นอย่างยิ่งคือ กระบวนการผลิตจตุคามรามเทพ แต่เดิมเริ่มแรกจากการเข้าทรง มาเป็นกิจของราษฎร์
ปัจจุบันวัดวาอารามหลายแห่ง แม้กระทั่งพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ก็ไม่อาจต้านกระแสจตุคามรามเทพ เหล่าพระภิกษุสงฆ์ พุทธสาวกที่ศึกษาพุทธธรรม ร่วมดำรงตนเป็นจอมขมังเวท เข้าร่วมวงปลุกเสกจตุคามรามเทพเพื่อจำหน่าย จนกลายเป็นอุตสาหกรรมประจำวัดวาอารามหลายแห่ง
จริงอยู่ แม้ว่าการสร้างจตุคามรามเทพ เป็นกุศโลบายที่ดีในการจัดหารายได้เพื่อมาใช้ในกิจทางศาสนา การศึกษา หรือสาธารณประโยชน์
วัดหลายแห่ง หลวงพ่อหลายองค์สามารถเรียกศรัทธา สร้างเม็ดเงินมหาศาลนับร้อยล้านบาท นำไปก่อสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร อาคารธรรม ยิ่งใหญ่งดงาม ไม่คร้ามต่อวัดอื่นๆ ทั้งปวง
หลวงพ่อทั้งหลายจึงน่าจะกลับมาทบทวนและตั้งคำถามกับตัวท่านเอง ว่า เดินมาถูกทางที่แผ้วถางโดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วหรือ กับวิธีที่ แต่ละรูปมุ่งสร้างถาวรวัตถุเหล่านี้เพียงประการเดียว โดยละเว้นวัตรปฏิบัติของพระภิกษุ มิหนำซ้ำกลับกระตุ้นปลุกเร้าหรือร่วมกระทำให้สังคมมากไปด้วยความงมงาย ห่างศีล วางธรรม เพื่อรอพรวิเศษจากเทพมาดลบันดาล
สมควรแก่เวลาแล้วหรือยัง ที่มหาเถรสมาคม องค์กรปกครองสงฆ์ จะได้ออกมาว่ากล่าวตักเตือน ให้สติต่อสังคม ดึงพุทธบุตรให้หลุดพ้นจากความงมงาย
|