ยาวิเศษ

คนกลุ่มหนึ่งกำลังคุยกันอย่างออกรส
ทันใดนั้นกลิ่นตดก็ตลบอบอวลทั่วทั้งห้อง แต่หาต้นตอไม่ได้ ต่างคนจึงกล่าวหากัน ถึงขั้นด่าทอกัน ขณะที่บรรยากาศในห้องกำลังร้อนแรง ก็มีชายคนหนึ่งหัวเราะดังไม่หยุด มีคนถามว่า “มีอะไรน่าหัวเราะ?”
ชายผู้นั้นตอบว่า “ไม่มีอะไรพี่ ผมแค่หัวเราะคนที่ตด เพราะเขาก็รุมด่าผมด้วย”
เวลาถูกปรักปรำ เรามักจะโกรธ และโกรธมาก ๆ หากรู้ว่าคนที่ปรักปรำนั้นคือคนที่เป็นตัวปัญหา แต่ชายผู้นั้นกลับเห็นเป็นเรื่องน่าหัว เขาอาจจะหัวเราะในความหน้าหนาของคนที่ตด หรือหัวเราะที่คนๆ นั้นโมเมหน้าตาเฉย ไม่ว่าจะหัวเราะเพราะเหตุใดก็ตาม ที่แน่ๆ ก็คือเขาไม่รู้สึกทุกข์ร้อน กลับสนุกด้วยซ้ำ
มานึกดู จะทุกข์ไปทำไม การถูกกล่าวหาในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ก็นับว่าแย่แล้ว เหตุใดเราจึงเอาความโกรธหรือความกลัดกลุ้มใจมาซ้ำเติมตัวเองอีก สู้หัวเราะเยาะมันไม่ดีหรือ
การหัวเราะคือวิธีเผชิญความทุกข์อย่างวิเศษ มันทำให้ความซีเรียสทั้งหลายคลายพิษสงลงไป ปัญหาใหญ่ๆ กลับกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
ในหนังไทย ผู้ร้ายจะเก่งแค่ไหน ดุดันเพียงใดก็ตาม ถ้าเจอตัวตลกก็เป็นอันหมดสภาพไปเลย ในชีวิตจริงก็เช่นกัน เคราะห์กรรมแม้จะหนักหนาเพียงใด ถ้ารู้จักหัวเราะเยาะมัน ชีวิตจะโปร่งเบาขึ้นมาก มีกำลังใจที่จะสู้อุปสรรคต่อไปอย่างหน้าชื่นตาบาน

ที่วัดพระบาทน้ำพุ มีผู้ป่วยเอดส์นอนรอความตายหลายสิบคน แทบทุกวันจะมีผู้พบร่างไร้วิญญาณแน่นิ่งอยู่บนเตียง แต่บรรยากาศหาได้สลดหดหู่ไปเสียทั้งหมดไม่ คราวหนึ่ง มีเสียงดังมาจากเครื่องวิทยุในเรือนคนไข้ “Happy birthday to you” เพลงไม่ทันจบ ก็มีคนไข้รายหนึ่งตะโกนแทรกมาว่า “Happy dead day to you” และแล้วคนไข้คนอื่นๆ ก็ร้องประสานเสียง
พอร้องจบทุกคนก็หัวเราะเสียงดัง
ความตายแม้จะเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์ แต่ผู้ป่วยเหล่านี้รู้จักเอามาล้อให้เป็นเรื่องสนุก ก็จะทุกข์ให้ช้ำใจไปทำไม ป่วยด้วยโรคเอดส์ก็นับว่าหนักหนาพอแรงอยู่แล้วมิใช่หรือ จะปล่อยให้มันมาย่ำยีเราฝ่ายเดียวได้อย่างไร ต้องหัดเอามันมาล้อเล่นให้หนำใจเสียบ้าง
เคราะห์กรรมทั้งหลายล้วนมีแง่มุมให้เราหัวเราะครื้นเครง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นหรือไม่ บ่อยครั้งเหตุการณ์อย่างเดียวกัน เราจะฉุนเฉียวโมโหโกรธา หรือเห็นเป็นเรื่องตลกก็ได้

หญิงผู้หนึ่งเป็นมะเร็งเต้านม จำเป็นต้องตัดเต้านมออกไปทั้งสองข้าง วันหนึ่งเธอจะไปว่ายน้ำ จึงซื้อเต้านมเทียมไปใช้ ปกติต้องติดเต้านมเทียมกับผิวหนังด้วยวัสดุพิเศษ แต่เธอแค่สอดเต้านมเทียมนั้นในชุดว่ายน้ำ เมื่อเธอว่ายน้ำเสร็จ ขึ้นออกมาจากสระ ก็พบว่าเต้านมข้างหนึ่งย้ายไปอยู่ข้างหลังเธอเสียแล้ว เจอแบบนี้ถ้าไม่หัวเราะ ก็ต้องร้องโวยวายเพราะหน้าแตก ไม่ต้องสงสัยเลย เธอเลือกที่จะหัวเราะด้วยเห็นเป็นเรื่องน่าขัน
ในยามเจ็บป่วย ไม่ว่าจะรักษาด้วยยาแผนใหม่หรืออาหารชีวจิตก็ตาม อย่าลืมหัวเราะให้มากๆ หัดเพิ่มพูนอารมณ์ขันให้เยอะๆ เพราะนี้แหละคือยาวิเศษ ถ้ายังหัวเราะฝืดอยู่ ก็ขอให้เพื่อนๆ ช่วยซื้อนิทานชวนหัวหรือเล่าเรื่องตลกให้ฟังมากๆ
ในยามพลัดพรากสูญเสียก็เช่นกัน อย่าปล่อยชีวิตให้จมกับความเศร้าหรือท้อแท้เสียใจ ควรโผล่ขึ้นมาหายใจ หรือออกมาจากความอุดอู้มืดทึบเสียบ้าง อารมณ์ขันช่วยเราตรงนี้ อย่างน้อยมันทำให้ความทุกข์ขาดตอนหรือสะดุดชั่วขณะ เปิดช่องให้เราพอหายใจหายคอได้บ้าง ก่อนที่จะจมลงไปใหม่ บางครั้งอารมณ์ขันก็มีพลังถึงขั้นที่จะสลัดเราจากความทุกข์ หรือปิดช่องไม่ให้ความทุกข์มาเยือนด้วยซ้ำ
เรียวกัน เป็นอนาคาริกที่มีอารมณ์ขันเหลือเฟือ เขาชอบเล่นซ่อนหากับเด็กๆ จนแทบจะกลายเป็นเด็ก ทั้งๆ ที่อายุมากแล้ว วันหนึ่งมีโจรเข้าไปขโมยของในกระท่อมของเขา เมื่อเขากลับมาถึงกระท่อมกลางดึก พบว่าไม่มีอะไรเหลือเลยแม้แต่ฟูกและหมอน เขาหัวเราะและพูดว่า
“ยังดีนะที่เขาทิ้งพระจันทร์เอาไว้ที่หน้าต่าง”
บทความจากนิตยสาร "Life & Family" งานเขียนโดย....รินใจ
|