เชื้อโรค ดักแด้ และเด็กน้อย
สำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็นเบาหวาน มีข่าวดีและข่าวร้ายจะมาบอก
ข่าวดีก็คือ พบวิธีป้องกันโรคนี้แล้ว ข่าวร้ายก็คือ วิธีป้องกันนี้ถ้าจะให้ได้ผลดีก็ต้องเริ่มตอนอายุแรกเกิด
วิธีที่ว่ามิใช่การฉีดวัคซีนหรือให้ยา พูดไปแล้วออกจะแปลกสักหน่อย ถ้าไม่อยากเป็นโรคนี้ คุณต้องยอมให้โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเล่นงานคุณบ้าง นักวิทยาศาสตร์พบว่า เด็กที่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในช่วงปีแรก มีโอกาสที่จะเป็นเบาหวานน้อยมากตอนโต
ไล่ๆ กันก็มีรายงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเปิดเผยว่า เด็กที่เคยเป็นหัดมาก่อน จะไม่ค่อยเป็นโรคหืดหอบหรือไข้แพ้ละอองเกสรในทางกลับกัน หมอพบว่า เด็กที่เป็นโรคหอบหืด หรือไข้แพ้ละอองเกสรนั้น มักจะไม่เคยเป็นหัดมาเลย
เวลานี้มีหลักฐานยืนยันมากขึ้นว่า โรคภัยไข้เจ็บเป็นปัจจัยป้องกันโรค ที่ทรงประสิทธิภาพทีเดียว
แต่ก่อนมักมองว่าโรคภัยไข้เจ็บนั้นมีแต่โทษ แต่ความจริงมันก็มีประโยชน์มากเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่มันช่วยเราก็คือ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานในตัวเราให้ทำงานได้ตามปกติ
เด็กที่ไม่เคยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจหรือโรคหัดมาก่อน จำนวนไม่น้อยจะมีระบบภูมิต้านทานที่ผิดปกติ จนย้อนกลับมาเล่นงานร่างกายของตัวเอง เป็นเหตุให้เกิดโรคหอบหืด หรือโรคเบาหวานอย่างที่กล่าวข้างต้น
แม้ที่กล่าวมาบางส่วนยังเป็นข้อสมมุติฐานอยู่ แต่ก็เห็นชัดมากขึ้นแล้วว่า คนที่ไม่เคยล้มหมอนนอนเสื่อด้วยโรคภัยไข้เจ็บตอนเด็กๆ นั้น พอโตขึ้นมีสิทธิ์จะเป็นโรคได้หลายอย่าง
นั่นหมายความว่าคนเราจะมีสุขภาพดีได้
อาจจำเป็นจะต้องผ่านโรคภัยไข้เจ็บมาก่อน
ระบบภูมิต้านทานของเรา
ต้องมีเชื้อโรคแวะเวียนมาเป็นคู่ซ้อมสม่ำเสมอ
มันถึงจะแข็งแรง และทำให้เรามีสุขภาพดี
จะว่าไปไม่ใช่แต่ความผาสุกในทางกายเท่านั้น แม้กระทั่งความผาสุกในทางจิตใจก็อาศัยหลักการนี้เหมือนกัน คือต้องมีความทุกข์ยากลำบากมา เป็นคู่ซ้อม จิตใจเราจึงจะเข้มแข็งและมีสุขภาพดีได้
เราไม่ควรมองโรคภัยไข้เจ็บแต่ในแง่ลบฉันใด เราก็ไม่ควรจะมองเห็นความทุกข์ยากลำบากในชีวิต แต่แง่ที่เป็นโทษฉันนั้นปัญหาต่างๆ ที่กำลังรุมเร้าเราอยู่ขณะนี้ คือสิ่งที่กำลังทำให้เรากล้าแกร่งและปราดเปรียวยิ่งขึ้นทุกที
เมืองไทยกำลังถูกคุกคามด้วยโรคภูมิต้านทานบกพร่อง ภูมิต้านทานที่ว่านี้มิใช่ภูมิต้านทานไวรัส HIV เท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือ ภูมิต้านทานความทุกข์
เป็นเพราะขาดภูมิต้านทานประเภทหลัง ความทุกข์นานาชนิดจึงเข้ามาเล่นงานชีวิตจิตใจของเราจนซีดเซียวไปตามๆ กัน
คนที่กำลังมีภูมิต้านทานความทุกข์น้อยที่สุดในขณะนี้ก็คือ เด็กๆ และวัยรุ่น ความทุกข์แม้เพียงเล็กน้อย สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในจิตใจของคนกลุ่มนี้ได้อย่างง่ายดาย ปัญหาการเรียนสามารถทำให้วัยรุ่นกลุ้มใจอย่างหนักถึงกับฆ่าตัวตายได้
ทำไมคนเหล่านี้จึงมีภูมิต้านทานความทุกข์น้อยมาก? คำตอบก็คือ พวกเขามีชีวิตที่สะดวกสบายมากเกินไป ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ค่อยพบกับความผิดหวัง ได้ทุกอย่างที่ต้องการ พ่อแม่ประคบประหงมจนไม่รู้ว่าความยากลำบากนั้นเป็นอย่างไร
จิตใจของเด็กเหล่าน ี้ก็เหมือนกับระบบภูมิต้าน ทานที่ไม่เคยเจอเชื้อโรคมันก็เลยอ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง เชื้อโรค (หรือปัญหา) หากหลุดเข้ามาก็สามารถลุกลามอย่างรวดเร็ว
ใช่แต่เท่านั้น ระบบภูมิต้านทานนี้ยังแปรปรวนง่าย วันดีคืนดีก็กลับมาทำร้ายตัวเอง
ดักแด้เวลาออกจากรังไหม มันต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่นาน กว่าจะออกมาเป็นตัวไหมหรือผีเสื้อ มีเด็กบางคนสงสาร พยายามช่วยดักแด้ให้ออกมา โดยไม่ต้องลำบากมากนัก ปรากฏว่าดักแด้ตัวนั้นออกมาเป็นผีเสื้อได้ไม่นานก็ตาย
เด็กน้อยหารู้ไม่ว่า เวลาดักแด้ดิ้นรนกระเสือกกระสนออกจากรังนั้นปีกมันจะค่อยๆ แข็งแรงเพราะได้ออกกำลัง ดักแด้ที่ไม่ต้องดิ้นรนมาก จะกลายเป็นผีเสื้อที่มีปีกอ่อนแอ และจะตายในเวลาไม่นาน
พ่อแม่หลายคนมีความปรารถนาดีเหมือนเด็กผู้นั้น แต่ความไม่รู้กลับทำให้เกิดผลร้ายแก่ผู้ที่ตนต้องการช่วย
ความยากลำบากเป็นสิ่งจำเป็นต่อดักแด้เช่นเดียวกับลูกหลานของเรา ส่วนเราเองก็ต้องการความทุกข์ยากเป็นเครื่องฝึกฝนตนเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ขอให้ช่วยกันต้อนรับความทุกข์
ไม่ว่าจะมาจากทิศไหน
เราอาจจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อชั่วขณะ
แต่เมื่อเราหายดี
เราจะแข็งแรงกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน
บทความจากหนังสือ "สายธารแห่งความสุข" งานเขียนโดย....รินใจ
|