หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

สันติในเรือนใจ


สงครามชีวิตไม่ได้มีอยู่แต่ในนวนิยายหรือละคร

หากเป็นเรื่องจริงที่ยากจะหนีพ้นได้ ถ้าไม่เคยเจอมาก่อนก็ต้องเจอ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้

สงครามชีวิตนั้นเกิดขึ้นได้ในหลายสมรภูมิ หนักเบาต่างกัน แต่ถ้าเทียบดูแล้ว คงจะเห็นพ้องกันว่า สงครามภายนอกนั้น ไม่หนักเท่าสงครามภายใน

สงครามภายนอกมีวันยุติ แต่สงครามภายในสิ บ่อยครั้งกลับยืดเยื้อเป็นแรมปี หรือนานชั่วชีวิตก็มี

เคยเจอไหม แม้เหตุการณ์ร้ายผ่านพ้นไปแล้ว แต่บาดแผลฝังลึกในจิตใจไม่ลืมเลือน ยามสงัด แทนที่จิตจะสงบความเจ็บแปลบกลับผุดขึ้นมา แล้วความโกรธ เกลียด ก็พรั่งพรูจู่โจม กระหน่ำซ้ำเติมจิตไม่ยั้ง สงครามภายนอกอาจพิชิตได้ด้วยกำลัง คำขู่ และคมปาก แต่สงครามภายในเล่า จะสยบด้วยอะไร

จริงอยู่ การตอบโต้อาจช่วยชำระความแค้นในใจ แต่ถ้าบาดแผลเกิดจากคนที่เรารักและนับถือล่ะ จิตจะสงบได้เพราะการแก้แค้นหรือ


หลายคนยังฝังใจที่ถูกพ่อแม่ลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมในวัยเด็ก แม้เวลาผ่านไปนับสิบปี ก็ยังยิ้มให้กับพ่อแม่ได้ไม่สนิทใจ ถึงจะยินดีพาท่านไปเที่ยวทุกมุมโลก แต่กลับตะขิดตะขวงใจ ที่จะกอดท่านเหมือนเมื่อเด็ก ๆ ความเจ็บปวดผิดหวังจากอดีต ทำให้รักท่านได้ไม่เต็มหัวใจ

และเป็นเพราะรักได้ไม่เต็มหัวใจ จึงรู้สึกผิดทั้งความเจ็บปวดผิดหวังและความรู้สึกผิด รุมกันทำร้ายจิตใจของตนปีแล้วปีเล่า สงครามภายในไม่ได้เกิดจากคนอื่นอย่างเดียว บ่อยครั้งตนเองก็ร่วมลงไม้ลงมือด้วย

ชายคนหนึ่งเล่าว่า ตอนเด็กถูกพ่อตีเสมอมา บางครั้งก็ถูกตีอย่างรุนแรง จนเกิดความรู้สึกกลัวผู้ใหญ่ทุกคน เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ จะทำตัวเรียบร้อย แต่ถ้าลับหลังผู้ใหญ่เมื่อไหร่ก็จะปล่อยตัวเต็มที่

แต่ถึงอย่างไร ลึก ๆ ก็ไม่มีความสุข เพราะความรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียดพ่อคอยรังควานจิตใจ แม้กระทั่งในระหว่างทำสมาธิ หลายครั้งจะเกิดนิมิตเห็นมือข้างหนึ่งยื่นมาจะตีเขา จิตจะสะดุ้งทันที เพราะกลัวเจ็บ ต้องเลิกทำสมาธิกลางคัน

วันหนึ่ง ขณะทำสมาธิ เขาเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่า ใครที่จะตีเขา ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะเป็นมือพ่อ แต่อีกใจหนึ่งก็พร้อมจะพบความจริง จึงตั้งสติ ทำใจให้เข้มแข็ง ยอมถูกตี แล้วเขาก็พบว่าในนิมิตนั้น คนที่จะตีเขาก็คือพ่อของตนจริง ๆ

แต่เมื่อเขาเพ่งมองต่อไป มืนนั้นก็เปลี่ยนจากท่าตีมาเป็นแบมือขอ ความรู้สึกบอกว่าพ่อกำลังขอความรักความเมตตา ชั่วขณะนั้นเอง เขารู้สึกสว่างโพลง เกิดความเข้าใจในตัวพ่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาได้คิดว่า สาเหตุที่พ่อเป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบใช้ความรุนแรง เพราะพ่อขาดความรัก ขาดคนเข้าใจ เวลาทำงานก็ไม่มีเพื่อน จึงหงุดหงิดฉุนเฉียว เมื่อมาบ้านเห็นลูกทำผิดนิดหน่อย ก็คุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงโทษลูกอย่างรุนแรง ลึก ๆ พ่อก็รู้ว่าลูกไม่รักตน จึงยิ่งทุกข์มากขึ้น


เมื่อเข้าใจพ่อ ก็สามารถให้อภัยพ่อได้ ทันทีที่ให้อภัย ความติดข้องในตัวพ่อก็เลือนหายไปพร้อมกับความเกลียดความกลัว บาดแผลในใจสมานได้สนิท

ตั้งแต่นั้นมา เขารู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ จิตใจโปร่งเบา ทำอะไรได้สะดวก ไม่เพียงแต่รักพ่อได้สนิทใจเท่านั้น หากยังไม่กลัวผู้ใหญ่อีกต่อไปด้วย

สงครามภายในของชายผู้นั้นยุติลง มันหมดพิษสงก็เพราะการให้อภัย เมื่อให้อภัยแก่ผู้อื่นได้ จิตใจก็เป็นสุข การยื่นไมตรีให้แก่ผู้อื่น จึงเป็นการสร้างไมตรีให้กับตนเองไปพร้อมกัน เมื่อสร้างสันติกับผู้อื่น เราเองก็พลอยมีสันติภายในด้วย

พระพุทธองค์ตรัสว่า ผู้ให้ความสุขย่อมได้รับความสุข ความสุขนั้นมีหลายรูปลักษณ์ การให้อภัยและมีไมตรี คือชื่อหนึ่งของความสุข แต่การให้อภัยที่แท้จริงนั้นต้องเกิดขึ้นจากความเข้าใจ เมื่อประจักษ์แก่ใจว่า เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการความรัก รักสุขเกลียดทุกข์เหมือนเรา ก็ง่ายที่เราจะให้อภัยเขา

ความเข้าใจและการให้อภัย คือกุญแจดอกสำคัญ
ที่เปิดใจเราให้พบกับสันติสุข ปราศจากกุญแจ ๒ ดอกนี้
ก็ยากที่สงครามภายในจะยุติได้
ไม่ว่าชีวิตภายนอกจะประสบความสำเร็จเพียงใด

บทความจากหนังสือ "สายธารแห่งความสุข " งานเขียนโดย....รินใจ


ไปข้างบน