|
ถอดรหัส “หัวใจมีฤทธิ์” ตามกระแส “แฟชั่นความเชื่อจตุคามรามเทพ”
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ
ขณะที่สังคมไทยฟุ้งไปด้วยฝุ่นแห่งพลังแสดงอำนาจ กระแสประลองกำลังระหว่าง “ซ้ายถูก ขวาใช่” ที่คนไทยสับสน เบื่อหน่าย และเริ่มจะตัดสินใจเดินฝ่าฝุ่น ผ่ากลาง ไม่เชื่อ ไม่เลือก ไม่มั่นใจ ทั้งซ้ายและขวา ไม่ว่าคน ระบบ กฎหมาย หรือกติกาสังคมโลก
ก็เกิดปรากฎการณ์พลัง “หัวใจมีฤทธิ์” (Mind-made, Magical Power) สว่างวาบ ปลุกกระแส “พึ่งตนเอง”
คนไทยหันมาบริกรรมบทภาวนาทุกค่ำก่อนนอน ทุกเช้าตรู่ก่อนทำงาน บูชา “องค์จตุคามรามเทพ” เติมพลัง “มโนมยิทธิ” สะท้อนผัสสะ “ตาเรา คือ ใจเรา ใจเขา คือ ตาเรา” บุญฤทธิ์ซ้อนเร้น โหมรุกเป็นกระแส “แฟชั่นความเชื่อมั่น” เติมเต็มวิถีชีวิตไทยที่แรง รุกล้ำ อย่างน่าประหลาดยิ่ง
จากตำนานองค์จตุคามรามเทพ พระองค์มีพระราชปณิธานมุ่งบำเพ็ญบารมีหกประการตามคติพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน คือ ทานบารมี ศีลบารมี ขันติบารมี วิริยะบารมี ธยานบารมี(ฌานบารมี) และปัญญาบารมี อย่างครบถ้วน จนบรรลุความเป็นมนุษย์โพธิสัตว์ หรือคฤหโพธิสัตว์
ทั้งยังได้พากเพียรสร้างบารมีขั้นสูงอีกสี่ประการ คือ อุปายบารมี ณิธานบารมี พลบารมี และชญาบารมี จนสำเร็จเป็นเทวโพธิสัตว์ที่ทรงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลมนุษย์ให้พ้นทุกข์ และภัยพิบัติ ก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ
ตำนานเล่าต่อว่า องค์จตุคามรามเทพนั้นแกล้วกล้าสามารถ เจนจบสรรพศาสตร์ทั้งปวง บำเพ็ญบารมีถึงพรหมโพธิสัตว์ ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่ ได้รับนามพิไธยราชฐานันดรว่า “จันทรภาณุ” มีอำนาจดังพระอาทิตย์ และพระจันทร์
ถืออาญาสิทธิ์รูปราหูอมจันทร์และวัฏจักร รพศาสตร์ทั้งปวง บำเพ็ญบารมีถึงพรหมโพธิสัตว์ ทรงอาน12 นักษัตรเป็นสัญลักษณ์ (ซึ่งก็คือตราประจำเมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน)
องค์จตุคามรามเทพมีบริวารทั้งสี่ ได้แก่ พญาชิงชัย พญาหลวงเมือง พญาสุขุม และพญาโหรา เป็นกำลังหลักในการปราบปรามพวกพราหมณ์ที่ปกครองเมืองตามพรลิงค์
เมื่อได้เมืองแล้วจึงทรงสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ สถาปนาเมืองนครศรีธรรมราชโศกราช ฝังรากฐานพระพุทธศาสนาอย่างถาวรในดินแดนแหลมทอง จนได้รับการเทิดพระเกียรติว่า “พระยาศรีธรรมโศกราช”
หลังจากทรงสวรรคต ก็ได้เป็นเทวดารักษาเมือง สถิตอยู่ ณ รูปจำหลักที่บานประตูไม้ทั้งสองตรงทางขึ้นลง ประทักษิณรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ส่วนบริวารทั้งสี่ก็ได้เป็นเทวดารักษาเมือง ประจำทิศทั้งสี่ และได้มีการอัญเชิญท่านมาสถิต ณ เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราชอันงดงาม ดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ
ด้วยรูปลักษณ์ของความกลมใหญ่ ภายใต้กรอบกลมเงา ที่ต้องร้อยสวมบนคอด้วยเส้นขนาดใหญ่ ทำให้มีโอกาสประดิษฐ์ความงดงามของลวดลาย วนสลับ บนเส้นสายลายสร้อยคล้ององค์จตุคามรามเทพ
ด้วยสไตล์ที่อาจถือเป็นความภาคภูมิใจ จนต้องอวดโชว์ กลายเป็น แนวนิยมแฟชั่นเครื่องประดับความเชื่อ ซึ่งสร้างจุดดึงดูดสายตาผู้พบเห็น
และด้วยหลากรุ่นที่ล้วนมุ่งสานต่อกิติศัพท์ความเข้มขลังขององค์เทพฯที่ตอกย้ำคำประกาศิตอันอหังการว่า “มึงมีกูไว้ไม่จน” ให้ปรากฏเป็นจริง
ถ้าเปรียบองค์จตุคามรามเทพเป็นแบรนด์เนมแฟชั่น ก็ต้องถือว่าหลากรุ่นที่หลากหลาย คือ คอลเลกชั่นทางเลือกที่ดีไซน์กันออกมา ภายใต้นิยามและเป้าหมายเดียวกัน คือ “ทำให้ชีวิตไม่จนมุม จนแต้ม มีแสงสว่าง แห่งความสำเร็จ”
หากบูชายึดมั่น กระทำตน ให้สอดคล้องสัมพันธ์กับพระราชปณิธานแห่งบุญฤทธิ์ขององค์จตุคามรามเทพ ที่สะท้อนชัดสู่ปรัชญา “ 3 พึ่งพา” คือ “พึ่งพาตนเองได้ ให้ผู้อื่นพึ่งพาได้ และต่างพึ่งพาซึ่งกันและกันได้”
หากคนไทยนับแสน และจะทวีเป็นล้านๆ ในไม่ช้า ที่หันเหมายึดการบูชาองค์จตุคามรามเทพ จะไม่เพียงเป็นผู้ตามกระแส “แฟชั่นความเชื่อ” แค่ “มีเหมือน มีเท่า” หรือ “สร้างภาพ” ให้คนอื่นเห็นว่า-เราก็มี หรือเพียงเพื่อ-ประดับบารมี หรือเพียงภาวนา เพื่อหวัง อิทธิฤทธิ์ โดยไม่ลงมือปฏิบัติตน ให้พึ่งตนเองได้
แสงสว่างที่มาแทรกกลางระหว่างความมืดมัว รังสี ชั่วคือดี ดีคือชั่ว ของพลังอำนาจซ้าย-ขวา ที่กำลังเริ่มจะต้องมีบทสรุปที่ไม่รู้ว่าคนไทยจะได้ประโยชน์หรือไม่
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น มีแล้วรวย
เมื่อคนไทยหันกลับมาเป็นผู้บริโภคกระแส “แฟชั่นความเชื่อมั่น” ในองค์จตุคามรามเทพ ถือเป็นทิศทางเริ่มต้นของพลังเงียบประชาชนซึ่งบ่งบอกชัดว่า ไม่ต้องการสิ่งใด จากใคร นอกจากการพึ่งพาตนเอง ให้ได้
“มึงมีกูไว้ไม่จน”
คำว่า “ไม่จน” น่าจะตีความว่า “ไม่จนปัญญา”
การตามแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การบริโภค การแสดงออก การใช้ชีวิตตามกระแสตะวันตก ที่เต็มไปด้วยศรัทธา ความเชื่อมั่น ในวิถีชีวิตโลกไร้พรมแดน แต่ขาดสติมาเป็นตัวกลั่นกรอง ก็ไม่ทำให้เกิดการแยกแยะ ผิด ถูก ใช่ ไม่ใช่ ซึ่งก็คือ “การรู้แจ้ง” หรือที่เรียกว่า “ปัญญา”
เมื่อรักจะเป็นผู้เท่าทัน และเท่าเทียมกับแฟชั่นทุกกระแส ทุกรูปแบบ ก็จำเป็นที่จะต้องหันมาบริหารพลัง “หัวใจมีฤทธิ์ (Will Power)” หรือ “มโนมยิทธิ” ซึ่งเป็น 1 ในวิชชา 8 (Supermormal Knowledge) ด้วยการดูแลหัวใจตนเองให้เกิด “ความชัด” ในความเชื่อ
แขวนองค์จตุคามรามเทพ นั่งภาวนา บริกรรมบทคาถา เพียงแค่ขอให้เราชาว ไทยทุกคนร่วมสร้างพลังหัวใจมีฤทธิ์ ให้พึ่งพาตนเองได้ชัด ทุกชั่วขณะของลมหายใจ เลือกบริโภคข้อมูลข่าวสาร เลือกคิด เลือกทำ ในสิ่งที่ทำให้ตนมีสุข ให้ตนแข็งแรง แข็งแกร่ง
อะไรจะเกิดขึ้น หากคนไทยทั้งประเทศเกิดพลังหัวใจมีฤทธิ์ ยืนหยัดพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องเฝ้ารอจากการให้ หรือคอยพึ่งพา จากผลการต่อสู้ระหว่าง “ซ้าย กับ ขวา”
เราได้เห็นใบหน้าอิ่มเอิบ อารมณ์ระรื่น ตื่นเช้าภาวนาองค์จตุคามรามเทพ มีสติในการเริ่มต้นชีวิต
แม่ค้าปรุงอาหารครบถ้วนตามสูตร เปิดร้านรับลูกค้า ปฏิสันถารด้วยรอยยิ้ม ลูกค้าเดินเข้ามาด้วยอารมณ์อบอุ่น ผู้คนในลิฟท์หันหน้าสนทนากันข้ามกลุ่ม แทนการก้มนิ่ง ไม่มองใคร
เมื่อมีสุขที่ใจ เมื่อสัมผัสกันและกันแล้วสุขใจ ความสงบแห่งอารมณ์ประสานร่วมกัน คนไทยจะเริ่มเข้าใจกันและกัน ไม่เกิดแยกซ้ายแยกขวา พวกใครพวกมัน เวบบอร์ดเริ่มสะอาดด้วยภาษาสวยๆ และลดการแดกดัน ดูหมิ่นดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อนั้นชัยชนะของ “ซ้ายถูก ขวาใช่” จะไร้ความหมาย เพราะมวลชนชาวไทยตั้งหลัก พึ่งพาตนเองได้เสียแล้ว คนจากซ้าย หรือคนจากขวา ก็แค่คนรับจ้างรับใช้ บริหารแผ่นดินไทยให้คนไทย เท่านั้นเอง
ขอให้ร่วมภาวนา ขอบุญบารมีองค์จตุคามรามเทพ ได้โปรดดลบันดาลให้คนไทยทุกคนพึ่งพาตนเองได้ ให้ผู้อื่นพึ่งพาได้ รวมทั้งพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้อยู่ร่วมกันเป็นเจ้าของแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง ตลอดไป
ที่มาจาก "ผู้จัดการ Online" งานเขียนโดย....แดงส์ ตักสิลา
| 
