|
เร่งคุมพุทธพาณิชย์
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น มหาโชคมหาเศรษฐี
โพสต์ทูเดย์-หน่วยงานรัฐคงต้องเร่งมือมากกว่านี้ ในการลงไปจัดระเบียบวัตถุมงคล ซึ่งขณะนี้มุ่งเชิงพาณิชย์มากกว่าศรัทธาจนเกินงาม
รวมทั้งมูลค่าที่เกิดจากการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ โดยเฉพาะองค์ จตุคามรามเทพ ที่คาดกันว่าหมุนเวียนปีละกว่า 2 หมื่นล้านบาท สิ่งนี้เป็น วงเงินที่เกินความพอดีในการใช้ทำนุบำรุงวัดบางแห่ง หรือเพื่อการกุศลบางอย่างหรือไม่
ดังนั้น การที่อธิบดีกรมการศาสนา ปรีชา กันธิยะ เตรียมจะลงไป จ.นครศรีธรรมราช ต้นกำเนิดของจตุคามฯ เพื่อหารือแนวทางในการจัดระเบียบการประกอบพิธี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตองค์จตุคามฯ โดยกำหนดให้ต่อไปในการสร้างจตุคามฯ แต่ละรุ่น หากเป็นเอกชนจัดสร้าง จะต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุญาต ถ้าผู้จัดสร้างเป็นฝ่ายสงฆ์ จะต้องขออนุญาตตั้งแต่ระดับเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และ เจ้าคณะจังหวัด
วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ
ขณะการเอาผิดกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่แอบอ้างสาธารณกุศลต่างๆ เช่น จัดสร้างจตุคามฯ รุ่นดังกล่าวเพื่อนำเงินไปบริจาคสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน สร้างวัด แต่ในทางปฏิบัติไม่มีการบริจาคเงินให้หน่วยงานที่โดนแอบอ้างจริง กรมการศาสนา บอกว่า จะลงไปตรวจสอบประเด็นดังกล่าวย้อนหลังไปตั้งแต่การสร้างรุ่นแรกๆ จนถึงรุ่นใหม่ที่จะสร้าง
ซึ่ง มีคิวยาวรอทำพิธีไปถึงต้นปีหน้า เพื่อเอาผิด แจ้งความในข้อหาหลอกลวง หากผู้จัดสร้างที่นำชื่อไปแอบอ้างแล้วไม่นำเงินมาบริจาคให้จริง
นอกจากนี้ จะให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เข้าไปตรวจสอบผู้จัดสร้างว่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึงอิทธิฤทธิ์เกินจริง หรือไม่ เพราะ สคบ.สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ร้อง
อาการขึงขังในการลงไปจัดระเบียบการจัดสร้างจตุคามฯ ดังกล่าว ดูเหมือนว่ายังเป็นมาตรการที่ไม่มากพอจะแก้ปัญหาพุทธพาณิชย์ในปัจจุบัน เพราะในการจัดสร้างอย่างที่ทราบกันว่ามีนายหน้าหรือนายทุนลงไปติดต่อวัดที่มีชื่อเสียง นำชื่อมาใช้ในการจัดสร้าง โดยให้ส่วนแบ่งที่มากกว่าการ ทอดกฐิน หรือทอดผ้าป่า และผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้จัดสร้างก็ลำบากใจ ที่จะไม่อนุญาตการเข้าไปควบคุมพิธีการ จึงน่าจะไม่ทันเล่ห์ของนายหน้าหรือนายทุนที่มีการพลิกแพลงไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ส่วนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของผู้จัดสร้างองค์จตุคามฯ เรียกว่ามีการสร้างความต้องการเทียม เหนือชั้นกว่าการตรวจสอบของ สคบ.มาก เห็นได้จากการสร้างความต้องการแบบปากต่อปาก พูดถึงพุทธคุณอย่างเกินจริงกว่าชื่อรุ่นของจตุคามฯ แต่ละรุ่น สร้างกระแสด้วยการเก็งกำไรแม้กระทั่งใบจอง อีกทั้งมีข่าวเป็นระยะๆ ที่กลุ่มคนจำนวนมากไปเข้าแถวเพื่อแย่งกันเช่าองค์จตุคามฯ ในจังหวัดต่างๆ จนบางครั้งเกิดเรื่องเศร้าถึงกับเบียดกันจนผู้สูงอายุเสียชีวิต
จึงเห็นว่ากรมศาสนาและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องคงจะต้องเข้ามาควบคุม ไม่ให้ศรัทธาต้องเปลี่ยนไปเป็นความบ้าคลั่ง จากข่าวต่างๆ จากความโลภ ที่เชื่อกันว่า ลงทุนเช่าด้วยเงินเล็กน้อย แต่นำไปปล่อยต่อได้กำไรหลายเท่าตัว
อีกทั้งไม่ควรมองความคลั่งไคล้องค์จตุคามฯ ว่าเป็นเพียงแฟชั่น เพราะจากจำนวนรุ่นที่เข้าคิวกันทำพิธีที่ยาวไปจนถึงต้นปีหน้า เชื่อแน่ว่าผู้จัดสร้างเมื่อทำออกมาแล้วต้องหากลยุทธ์แปลกใหม่มาสร้างความต้องการเทียม พวกนายหน้าหรือนายทุนคงไม่ยอมสูญเงินที่ใช้สร้างหลายล้านบาทไปเปล่าๆ แน่
หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งรับมือ เพื่อจะได้ไม่ต้องนั่งล้อมคอกเหมือนหลายๆ เรื่องในภายหลัง
| 
