แบงก์ชาติ ชี้กลางปีจตุคามฯ สิ้นมนต์
ยุคนี้ พ.ศ.นี้ มีคนแขวนจตุคามกันเกลื่อนเมือง
โพสต์ทูเดย์ — แบงก์ชาติเตือนสติสิ้นปี กระแสจตุคามรามเทพฟีเวอร์จางหาย หลังถูกปั่นราคาเกินจริงหลายเท่า ยอมรับช่วยเศรษฐกิจใต้ขยายนับหมื่นล้าน
นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ สาขาภาคใต้ กล่าวว่า กระแสจตุคามรามเทพใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยเชื่อว่าหลังจากกลางปีนี้ไปแล้ว กระแสจตุคามฯ น่าจะเป็นขาลง และจางหายไปในปีหน้า เนื่องจากราคาที่พุ่งขึ้นไปหลายเท่าตัว เพราะเกิดการปลุกกระแสเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ จนเกิดการปั่นราคาเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
“ผมมองว่าเป็นสินค้าที่มีต้นทุนไม่สูง แต่ได้รับการปลุกเสกทำให้เกิดราคาพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว อาจเกิดจากการปั่นราคา แต่ละรุ่นจะเป็นเท่าไหร่ก็ขึ้นกับความน่าเชื่อถือ เหมือนกับการปั่นหุ้นเพื่อสร้างราคา แต่เมื่อถึงระยะหนึ่ง เมื่อความต้องการสินค้าและสินค้าสมดุลกันแล้ว บวกกับมีของปลอมในตลาด ที่ไม่มีใครมาดูแลหรือรับประกันให้แก่ผู้ซื้อ แม้แต่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคก็ไม่เข้ามายุ่ง วันหนึ่งคงจบ วงจรชีวิตน่าจะถึงสิ้นปีนี้ ไม่เกินกว่านั้น” นายพงศ์อดุล กล่าว
นายพงศ์อดุล กฤษณะราช
นายพงศ์อดุล กล่าวว่า ขณะนี้มีความต้องการจตุคามฯ ในท้องตลาดสูงมาก แม้จะมีถึง 250 รุ่นแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากมีชาวมาเลเซียที่เข้ามากว้านซื้อโดยเฉพาะรุ่นปี 2530 ที่อยู่ในมือของชาวมาเลเซียจำนวนมาก ประกอบกับความนิยมของคนไทยที่มีการประโคมข่าว เช่น ตำรวจถูกยิงแล้วไม่เป็นไร เพราะแขวนองค์จตุคามฯ ทำให้มีกระแสเงินสะพัดพื้นที่ภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมานับหมื่น ล้านบาท
กระแสดังกล่าวส่งผลต่อธุรกิจ หลายด้าน ตั้งแต่การปริมาณนักท่องเที่ยว พ่อค้า และผู้ที่นับถือจตุคามฯ เดินทาง เข้ามายัง จ.นครศรีธรรมราช มีการใช้จ่ายเงินเป็นค่าที่พักแรม โดยเฉพาะช่วงที่มีการปลุกเสกจตุคามฯ ยอดจองโรงแรม จะมากเป็นพิเศษ มีกี่แห่งก็จะถูกจอง เต็มหมด ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น รับทำกรอบพระ ลงสี การโฆษณาในสื่อมวลชนท้องถิ่นอย่างคึกคัก ชาวบ้านเปลี่ยนอาชีพเปิดแผงให้เช่าพระจำนวนมาก โดยแต่ละรุ่นจตุคามฯ ที่ออกมาจะ ก็มีผู้จองจนหมดภายในพริบตา จากนั้นราคาก็พุ่งขึ้นหลายเท่าตัว
ผู้บริหารแบงก์ชาติ กล่าวว่า จ.นครศรีธรรมราช ถือว่าได้รับผลพวงไปเต็มๆ ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ผลิตและผู้ขาย อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) คงขึ้นได้ พอสมควร ขณะที่สรรพากรก็คงเก็บภาษีได้ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้ เพิ่มขึ้น 19.4% ส่วนหนึ่งก็คงเป็นผลจากกระแสจตุคามฯ และการท่องเที่ยว
ตอนนี้ยอดเก็บภาษีคงยังไม่เห็นผลนักในไตรมาสแรก แต่สิ้นเดือนมิถุนายนไปจะเห็นรายได้เข้ารัฐมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่การลงทุนใหม่แล้ว ก็คงเป็นการลงทุนระยะสั้น เท่านั้น สายการบินที่ไปเปิดเที่ยวบินใน จ.นครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อไหร่ที่กระแสจตุคามฯ เป็น ขาลง เที่ยวบินก็อาจกลับมาลดลงได้ ผู้ประกอบการที่ตั้งแผงให้เช่าก็ต้องเล็งระยะสั้น ช่วงนี้น้ำขึ้นให้รีบตัก ต่อไปกระแสก็ต้องลด เป็นสัจธรรม หลังจากทุกคนต่างมีจตุคามฯ คนละองค์แล้ว ธุรกิจประเภทนี้ก็น่าจะเบาบางลง
|