หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

เที่ยว"ท่าพระจันทร์" ชมสีสันถนนวัตถุมงคล


ธรรมศาสตร์กับท่าพระจันทร์ อยู่คู่กันมาแต่ไหนแต่ไร



"ท่าพระจันทร์" อยู่ใกล้ๆกับท่าพระอาทิตย์ที่ฉันทำงานอยู่นี่เอง ที่ผ่านๆมาการไปเยือนท่าพระจันทร์ในหลายๆครั้งของฉันมักเป็นการไปหาของกิน ไปดูหนังสือหรือไม่ก็ไปเหล่สาวๆ แต่สำหรับปีนี้เป็นต้นมาท่าพระจันทร์มีความพิเศษตรงที่จากถนนพระเครื่อง วันนี้ได้เปลี่ยนโฉมเป็นถนนจตุคามรามเทพที่มีองค์จตุคามฯให้เช่ากันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้หากสืบค้นให้ลึกลงไปแล้ว ท่าพระจันทร์ถือเป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองกรุงที่นับได้ว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ทริปนี้หนุ่มลูกทุ่งจากท่าพระอาทิตย์จึงขอออกตะลุยท่าพระจันทร์เพื่อไปชมสีสันความน่าสนใจของย่านเก่าแห่งนี้กันสักหน่อย โดยฉันไม่ได้ออกท่องท่าพระจันทร์ไปเรื่อยๆคนเดียวอย่างไร้จุดหมาย แต่ว่าทริปนี้ฉันได้ไกด์กิตติมศักดิ์คือ คุณลุงสมชัย เริ่มตระกูล ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ที่อาศัยอยู่ในชุมชนท่าพระจันทร์มากว่า 70 ปี จะเป็นผู้ขันอาสาพาฉันไปชมสิ่งที่น่าสนใจในย่านท่าพระจันทร์แห่งนี้


นอกจากพระเครื่องแล้ว เสื้อยันต์ก็ยังมีขาย



"ชื่อท่าพระจันทร์นี้ได้มาจาก "ป้อมพระจันทร์" ป้อมปราการเก่าแก่ 1 ใน 14 ป้อม ที่พระบาทสมเด็จพระยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันพระนคร ป้อมพระจันทร์ที่ว่านี้เดิมเคยอยู่บริเวณที่เป็นท่าเรือปัจจุบัน แต่เมื่อป้อมทรุดโทรมลง รวมทั้งไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกต่อไปจึงได้มีการรื้อป้อมลง แต่ยังคงเรียกถนนที่ตัดตรงสู่บริเวณป้อมว่าถนนพระจันทร์ รวมถึงเรียกท่าเรือนี้ว่าท่าพระจันทร์ และก็เป็นที่ตั้งของชุมชนท่าพระจันทร์ ชุมชนที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ"

คุณลุงสมชัยอธิบายถึงที่มาของท่าพระจันทร์ ก่อนที่จะรำลึกความหลังเมื่อครั้งคุณลุงยังเด็กว่า ท่าพระจันทร์ในตอนนั้นก็ถือเป็นแหล่งที่สะดวกสบายพอควร รถรายังไม่มาก ถนนราดด้วยยางมะตอย ผู้คนแถวนั้นส่วนมากก็มีอาชีพค้าขาย มีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านเช่าหนังสือ ร้านตัดเสื้อ ตึกแถวบางห้องก็เปิดเป็นห้องพักสำหรับเด็กธรรมศาสตร์ที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาเป็นที่พักเรียนหนังสือ คุณลุงบอกว่าค่าเช่าห้องสมัยนั้นก็ไม่กี่สิบบาท


ถนนสายพระของกรุงเทพฯ



ด้วยความที่เป็นชุมชนใกล้แม่น้ำ คุณลุงจึงมีความประทับใจเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยามากเป็นพิเศษ โดยคุณลุงเล่าให้ฉันฟังว่า ในตอนเช้าและตอนเย็นชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็จะมาอาบน้ำกันที่โป๊ะเรือริมแม่น้ำ ส่วนในตอนกลางคืนโป๊ะเรือก็จะกลายเป็นที่ชุมนุมกัน เพราะจะมีข้าวต้มเรือ กาแฟเรือพายมาจากคลองบางกอกน้อยมาขายที่โป๊ะ นั่งกินกันไปคุยกันไปท่ามกลางลมแม่น้ำพัดมาเย็นๆ มองขึ้นไปข้างบนฟ้าก็มีดาวระยิบระยับ บางวันโชคดีก็ได้เห็นดาวตกอีกต่างหาก แหม...ฉันฟังคุณลุงเล่าไปก็เริ่มจะตาลอยๆ อยากจะไปเห็นบรรยากาศของท่าพระจันทร์ในสมัยนั้นบ้างจัง

มาจนถึงสมัยนี้ ท่าพระจันทร์ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของผู้คนที่พลุกพล่านขึ้นมาก คุณลุงเล่าว่าช่วงที่คึกคักที่สุดในย่านนี้ก็คงจะเป็นช่วงก่อนที่จะสร้างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพราะคนที่ต้องการจะข้ามฟากก็จะต้องมาขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าพระจันทร์ อีกทั้งเมื่อก่อนนี้ที่สถานีรถไฟธนบุรีก็ยังมีรถไฟวิ่งไปทางภาคใต้ ประมาณตีห้าก็จะเริ่มมีคนข้ามเรือเพื่อไปขึ้นรถไฟกันแล้ว แต่หลังจากสร้างสะพานพระปิ่นเกล้าเสร็จในปี พ.ศ. 2516 คนก็เริ่มหันไปข้ามฝั่งทางถนนกันแทน และหลังจากนั้นอีกช่วงหนึ่งที่คึกคักไม่แพ้กันก็คือช่วงก่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะย้ายนักศึกษาไปที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพราะหลังจากที่นักศึกษาย้ายกันไปเกือบหมดนั้นก็ทำเอาเศรษฐกิจแถวท่าพระจันทร์ซบเซากันไปเลยทีเดียว


ช่วงเย็นที่ท่าพระจันทร์จะกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่น



และอย่างที่ฉันบอกไว้ตอนแรกว่า ชุมชนท่าพระจันทร์นี้เป็นอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนๆ โดยถ้าพูดถึงท่าพระจันทร์ขึ้นมาก็มีอยู่หลายสิ่งด้วยกันที่ฉันจะนึกถึง อย่างแรกเลยก็คือนักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่แม้ตอนนี้จะโหรงเหรงไปบ้างเพราะส่วนหนึ่งย้ายไปที่รังสิตแล้ว นักศึกษาธรรมศาสตร์ก็อยู่คู่กับท่าพระจันทร์มานานแล้ว และถ้าพูดถึงร้านเช่าชุดครุยชุดรับปริญญา ใครๆ ก็ต้องนึกถึงท่าพระจันทร์ก่อนเป็นแห่งแรก เพราะที่นี่มีร้านเช่าชุดครุยให้เลือกกันหลายร้าน และมีให้เช่าทุกแบบทุกมหาวิทยาลัย

ส่วนหมอดูก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่น้อย แค่เฉพาะในซอยพระจันทร์กลางก็มีตั้ง 7-8 เจ้าเข้าไปแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีให้เลือกดูดวงกันได้ทั้งที่บริเวณท่าเรือและลานคนเมืองด้วย ฉันแอบกระซิบถามคุณลุงว่าเจ้าไหนดูแม่นไม่แม่น คุณลุงหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะบอกฉันว่า ไม่รู้เหมือนกันเพราะลุงก็ไม่เคยดู ต้องลองไปวัดดวงเอาเอง


เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า มีหมด



เรื่องของหนังกับเพลงที่ท่าพระจันทร์ก็มีร้านเจ๋งๆ กับเขาเหมือนกัน อย่างร้าน "น้องท่าพระจันทร์" ที่มีขายเทปและซีดีเพลงหลากหลายแนว ทั้งแนวป๊อป ร็อค แจ๊ซ ลูกทุ่ง เพื่อชีวิต เพลงไทยเดิม เพลงเด็ก เพลงพื้นเมือง ฯลฯ อยากได้เพลงแบบไหนก็เข้าไปถามที่ร้านได้ ส่วนถ้าใครอยากดูหนัง ไปเลือกได้เลยที่ร้าน "เฟม ท่าพระจันทร์" ร้านเช่าวีดีโอ วีซีดี และดีวีดี ที่มีหนังให้เลือกแทบทุกประเภท ทั้งหนังเก่าและใหม่ ไม่ใช่เฉพาะหนังที่ฉายในโรงเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากดูหนังทางเลือกหรือหนังนอกกระแสของประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น จีน อิหร่าน อิตาลี ฝรั่งเศส ฯลฯ หรือการ์ตูน ที่นี่ก็เลือกดูได้ตามความพอใจ ถ้าหาไม่เจอถามเจ้าของร้านได้

และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของท่าพระจันทร์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ การเป็นแหล่งร้านอาหารอร่อยที่ถือว่าเป็นจุดเด่นเลยทีเดียวละ ต้องจาระไนกันยาวกว่าจะครบทุกร้าน ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อนคุณลุงบอกว่าที่นี่มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวเจ้าอร่อยโด่งดังมาก แต่ตอนนี้ก็เลิกขายไปเรียบร้อยเพราะคนทำตายไปแล้ว แล้วก็มีร้านมะตะบะซึ่งเจ้าเดิมนั้นเป็นร้านของคนอิสลามจริงๆ แต่ตอนนี้ได้ย้ายร้านไปอยู่ตรงถนนพระอาทิตย์แล้ว ส่วนที่ขายอยู่ตอนนี้คือเจ้าใหม่


คุณลุงสมชัย เริ่มตระกูล



แต่ร้านอร่อยที่มีลูกค้านิยมกินในปัจจุบันก็ยังมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ร้านส้มตำข้าวโพดทอด ร้านกุยช่ายเจ้าอร่อย ร้านมะขามหวานและเค้ก และร้านอาหารตามสั่งมากมายในซอยริมน้ำ ส่วนที่เป็นรถเข็นก็มีอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมูทอด ปีกไก่ทอด ข้อไก่ทอด ลูกชิ้นทอด และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งถ้าเป็นตอนเย็นๆ แล้วละก็ สองฟุตบาทแทบจะไม่มีทางเดินต้องไปเดินกันบนถนนเลยทีเดียว เพราะร้านอาหารต่างๆ มาตั้งเต็มไปหมด ทั้งร้านผัดไทย ร้านข้าวต้ม ร้านอาหารตามสั่งน่าอร่อยทั้งนั้น

แต่เดี๋ยวนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์สุดๆ ละก็ ต้องมาหาเช่าจตุคามรามเทพกันที่ศูนย์พระเครื่องบูชาที่ท่าพระจันทร์ ในตรอกนคร ตรอกสนามพระ ไปจนถึงตรอกมหาธาตุ ถ้าใครที่เคยเดินเข้าไปดูในตรอกเหล่านี้เหมือนฉันก็จะรู้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน เพราะทุกร้านจะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่างๆ มากมาย บางร้านให้เช่าพระพุทธรูปห้อยคอองค์เล็กๆ เป็นกองๆ ให้เลือกค้นเอาเอง บางร้านให้เช่าพระพุทธรูปแบบตั้งโต๊ะ มีทั้งรูปหล่อของพระเกจิชื่อดัง และพระพุทธรูปปางต่างๆ บางร้านไม่ได้เช่าแค่พระพุทธรูป แต่ยังมีเสื้อยันต์ขายอีกต่างหาก

ส่วนจตุคามรามเทพองค์กลมๆ นั้นหายห่วงได้เลย เพราะทุกร้านมีให้เช่าแทบทั้งนั้น และไม่ใช่แค่เพียงองค์จตุคามเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์เสริมครบครันไม่ว่าจะเป็นกรอบใส่ ทั้งกรอบพลาสติก กรอบแสตนเลส กรอบโลหะ สร้อยร้อยองค์จตุคาม รูปโปสเตอร์องค์จตุคาม รวมไปถึงภาพถ่ายของขุนพันธรักษ์ราชเดชด้วย


ร้านอาหารริมน้ำมีให้เลือกมากมาย



และไม่เพียงแค่ในสามตรอกที่ว่าเท่านั้นที่มีบรรดาวัตถุมงคลให้เช่า แต่บนฟุตบาทริมถนนพระจันทร์ข้างกำแพงวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ทั้งสายก็เต็มไปด้วยวัตถุมงคลปูเสื่อวางกันเต็ม ภาพที่เห็นจนชินตาก็คือลูกค้าจะนั่งยองๆ ถือแว่นส่องพระจนชิดลูกตา พร้อมกับส่องดูพระอย่างตั้งใจ พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่เร่งรัดให้ซื้อ เชิญให้ส่องกันได้สบายๆ ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นสีสันของท่าพระจันทร์ที่คุ้นตาผู้คนมานาน

ส่วนในตอนเย็นช่วงแดดร่มลมตก พื้นที่บริเวณหน้าท่าเรือท่าพระจันทร์หรือที่เรียกว่าลานคนเมืองจะก็แปรสภาพจากพื้นที่โล่งๆ เป็นแหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่นไปในทันที ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับแบบเก๋ๆ ต่างก็มาวางขายให้เลือกซื้อกันเต็มที่ ความนิยมวัดได้จากผู้คนที่มาเดินช้อปปิ้งกันเต็มไปหมดทุกเย็น

และทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่มีอยู่ในท่าพระจันทร์ ที่เป็นสีสันและเป็นเสน่ห์ที่ฉันว่าไม่มีที่ไหนเหมือน ถ้าใครมีโอกาสก็อยากให้มาลองสัมผัสกันดูสักครั้ง

* * * * * * *

การเดินทางไปยังท่าพระจันทร์ สามารถนั่งรถประจำทางสาย 3, 32, 51, 53, 124, 201, 203, 508, 524 นอกจากนั้นก็ยังสามารถนั่งเรือข้ามฟากจากท่าวังหลัง (ศิริราช) มายังท่าพระจันทร์ได้ด้วย

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์" งานเขียนโดย หนุ่มลูกทุ่ง


ไปข้างบน