"โรงหล่อพระพุทธรัตน" พาณิชย์แห่งศรัทธาเมืองสองแคว
วัดใหญ่ จังหวัดพิษณุโลกเป็นวัดชื่อดังระดับประเทศ แต่ละปีพุทธศาสนิกชนชาวไทยจะหลั่งไหลมากราบไหว้บูชาจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาคือ ธุรกิจต่อเนื่องต่างๆ ได้รับอานิสงส์ด้านรายได้ไปด้วย หนึ่งในนั้น คือ “โรงหล่อพระพุทธรัตน” ซึ่งอยู่ในแวดวงธุรกิจโรงหล่อพระพุทธรูปทองเหลืองมานาน ได้เปิดเผยถึงเส้นทางอาชีพ พร้อมเบื้องหน้าและหลังของแวดวงธุรกิจแห่งศรัทธานี้
โรงหล่อพระพุทธรัตน ตั้งอยู่ใน ถ.พิษณุโลก – บึงพระ ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของ คือ “วิรัตน์ บุตรดี” ซึ่งมีประสบการณ์เป็นช่างปั้น และหล่อพระพุทธรูปทองเหลืองมากว่า 10 ปี ก่อนจะออกมาเปิดโรงหล่อเป็นของตัวเอง เมื่อกว่า 13 ปีที่แล้ว
เขา เล่าว่า การปรับตัวจากเดิมเป็นแค่ช่างปั้นมาเป็นเจ้าของเอง สิ่งสำคัญ คือ เรียนรู้ด้านตลาด ซึ่งตัวเขาเคยเป็นช่างมาก่อน ถือเป็นข้อได้เปรียบ เพราะมีลูกค้าเก่าๆ เชื่อมั่นในฝีมือ เข้ามาว่าจ้างให้ปั้นพระพุทธรูปอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้กิจการสามารถเติบโตขึ้นมาตามลำดับ
วิรัตน์ บุตรดี
ด้วยเป็นคนพิษณุโลกโดยกำเนิด จึงมีความผูกพันกับวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่สุดของจังหวัด เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธชินราช" หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกว่า"หลวงพ่อใหญ่"
ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญในการปั้นหลวงพ่อใหญ่มากที่สุด ตั้งแต่ทำอาชีพนี้ ปั้นมาแล้วนับไม่ถ้วน รายละเอียดทั้งหมด ตลอดจนสัดส่วนต่างๆ จำขึ้นสมอง แต่ทุกครั้งที่จะลงมือปั้นใหม่จะไปที่วัดใหญ่ดูองค์จริงเสมอๆ เพื่อพยายามหาจุดที่จะพัฒนาการปั้นให้ดียิ่งๆ ขึ้น อีกทั้ง เป็นขวัญกำลังใจ และแสดงความเคารพต่อหลวงพ่อใหญ่
“ผมมีความเชื่อว่า ไม่มีช่างคนใดจะปั้นเหมือนของแท้ได้ 100% ขนาดผมปั้นองค์พระพุทธชินราชมานับครั้งไม่ถ้วน จำสัดส่วนทุกอย่างขึ้นสมอง แต่ก็ยังรู้สึกว่า ต้องพัฒนาต่อไป ดังนั้น คนที่จะมาทำงานตรงนี้ ต้องมีความรักจะทำงานเดิมๆ ให้ดียิ่งขึ้น และเคารพต่อองค์พระที่ปั้นด้วย จึงจะทำงานได้สำเร็จ และสวยงาม”
จุดเด่นที่ทำให้ผลงานของโรงหล่อพระแห่งนี้ เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกค้า เจ้าของกิจการ ระบุว่า อยู่ที่ฝีมือความละเอียด และประณีตของชิ้นงาน มีความคมชัดของลายเส้นต่างๆ ผิวเรียบเนียน และที่สำคัญถูกต้องตามพุทธลักษณะอย่างแท้จริง ในการทำรูปจำลองพระพุทธรูป หรือพระเกจิองค์ใด ก็ตาม จะต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลจากของจริง เพื่อจะปั้นให้ถูกต้องแม่นยำทั้งรูปทรง สัดส่วน และรายละเอียดต่างๆ
วิรัตน์ เผยว่า ด้านตลาดกว่า 90% คือ ปั้นและหล่อองค์พระพุทธรูปทองเหลืองส่งให้วัดใหญ่ โดยกรรมการวัดจะเป็นผู้ว่าจ้าง ส่วนอีก 10% คือ งานปั้นและหล่อทองเหลืองตามแต่คำสั่งเฉพาะราย เช่น พระบูชาต่างๆ อนุสาวรีย์ เป็นต้น โดยโรงหล่อของเขา สามารถทำได้ครบวงจรตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงส่งงานให้ลูกค้า ระยะเวลาในการทำขึ้นอยู่กับความยากง่าย ทุกขั้นตอนเป็นงานแฮนด์เมด ราคามีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักล้าน การผลิตมีช่างและทีมงานผลิตรวม 20 คน เฉลี่ยแล้วต่อเดือนทำประมาณ 200 องค์ รายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 700,000 – 800,000 บาทต่อเดือน
ด้านเงินลงทุนนั้น เริ่มแรกใช้น้อยมาก อาศัยวิธีเมื่อได้เงินมา ก็เอาไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจเรื่อยๆ แต่หลังจากมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จำเป็นต้องขยายการผลิต และปรับปรุงสถานที่ จึงได้เข้าไปกู้เงินจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในวงเงินรวมประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลที่เลือกกู้กับสถาบันการเงินแห่งนี้ เพราะนโยบายของเอสเอ็มอีแบงก์ เน้นพัฒนาความรู้ด้านต่างๆ ในการประกอบธุรกิจให้ลูกค้าควบคู่กับการให้เงินทุน สามารถช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ที่ชำนาญเฉพาะผลิต แต่ขาดความรู้ด้านบริหาร
วิรัตน์ เผยต่อว่า ผู้ผลิตพระพุทธรูปทองเหลืองในจังหวัดพิษณุโลก นอกจากโรงหล่อของเขาแล้ว มีผู้ผลิตที่ทำงานใกล้เคียงกันอีก 3 ราย บวกกับรายย่อยอีก 4 แห่ง ทั้งหมดมุ่งทำส่งให้วัดใหญ่เหมือนกันหมด แม้ว่าจะพยายามหารือเพื่อรวมกลุ่มตั้งคลัสเตอร์แต่ยังไม่สำเร็จ จึงเกิดปัญหาแข่งขันตัดราคากันเอง ราคาขายต่อหน่วย เหลือกำไร ยังไม่รวมค่าแรง ประมาณ 30% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบคุณค่าของงานศิลปะแฮนด์เมด
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กำลังจะขยายการผลิตออกไป ไม่จำกัดแค่พระพุทธรูปเท่านั้น แต่จะนำเสนอให้ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญงานเกี่ยวกับทองเหลืองทั้งหมด เช่น ทำเครื่องประดับจากทองเหลือง และรูปหล่อทองเหลืองทุกชนิด แล้วทำตลาดขายปลีกด้วยตัวเอง เวลานี้ได้เริ่มนำนักศึกษารุ่นใหม่ มาช่วยออกแบบ รวมถึงลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท ก่อสร้างโชว์รูมในตัวเมือง จ.พิษณุโลก คาดว่าจะเปิดได้ในต้นปี 2551 ที่จะถึงนี้
ส่งไปยังร้านขายวัตถุบูชา ที่วัดใหญ่
“ทุกวันนี้ ธุรกิจหล่อพระพุทธรูปในจังหวัดพิษณุโลก และหลายจังหวัดทางภาคเหนือใกล้ถึงทางตัน เพราะมีคู่แข่งมาก แต่ตลาดไม่กว้าง ลูกค้ามีเฉพาะกลุ่ม ทำให้ตัดราคากันต่ำลงเรื่อยๆ ดังนั้น ผมจึงพยายามพัฒนาตัวเองให้แตกไลน์ผลิตออกไป ทำงานเกี่ยวกับทองเหลืองทั้งหมด ซึ่งในอนาคตจะมุ่งไปที่ตลาดส่งออกด้วย”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนงานปั้นและหล่อพระพุทธรูปจะไม่ยอมทิ้งเด็ดขาด เพราะเป็นงานที่รัก และศรัทธาอย่างสูง โดยจะพยายามมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง สร้างคนรุ่นใหม่มาสานต่อภูมิปัญญา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป
* * * * * * * * * * *
โทร. 081-973-8358 , 089-960-3113
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์"
|