วิสาขบูชา...พุทธธรรมค้ำจุนโลก
ตามมติองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก จากการประชุมผู้นำชาวพุทธทั่วโลกกำหนดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก และได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกเป็นประจำ
โดยรัฐบาลไทยและมติมหาเถรสมาคม ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาของโลก ได้เป็นหน่วยงานในการประสานการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก ประจำปีพุทธศักราช 2550
ในปีนี้การจัดงานพิเศษกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยการจัดงานใหญ่ไม่แพ้ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาพุทธศาสนาเข้ามาใกล้ชีวิตคนมากยิ่งขึ้น ด้วยการจัดงานส่วนหนึ่ง ณ ศูนย์การค้าใจกลางเมืองอย่างสยามพารากอน
สำหรับประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ก่อนที่ปีหน้า ประเทศเวียดนามจะรับเป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชาโลก
วิสาขบูชาโลก
เหตุผลที่องค์การสหประชาชาติยกย่อง พิจารณา และมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2542 ด้วยเพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งไม่ต่างจากการพลิกประวัติศาสตร์โลกด้วยการเลิกทาส และยังเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย จากคำสอนที่ทรงไม่ให้ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พระองค์ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้ และให้พิสูจน์ด้วยตนเอง อย่าเชื่อตามคนอื่นพูดมา โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน
ธรรมะจะบุกเมือง
เมื่อพูดถึงงานวันวิสาขบูชาโลก หรือพิธีต่างๆ ของวันพระใหญ่ๆ โดยเฉพาะการเวียนเทียนแต่ละครั้ง ภาพที่ทุกคนนึกถึงก็คือ บริเวณพุทธมณฑล จ.นครปฐม ปีนี้ยิ่งพิเศษกว่าทุกปี โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การประชุมผู้นำชาวพุทธจากทั่วโลก เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-29 พฤษภาคม ณ หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม และหอประชุมองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นแบบอย่างพุทธมามกะ ทรงเป็นราชาผู้ทรงธรรมในการปกครองแผ่นดิน และได้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตตามปรัชญาแห่งความพอเพียงดังที่ประจักษ์แก่สังคมโลก องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พสล.) ร่วมกับองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ยพสล.) จัดโครงการ “ธรรมศิลป์นานาชาติเพื่อพ่อหลวง” ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ ที่สยามพารากอน โดยมีภาคีสมาชิกกว่า 20 ประเทศเข้าร่วมงาน
ในงานดังกล่าวจะได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปปางประสูติ จำนวน 280 องค์ จากพระอุโบสถวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล มาจัดแสดง พร้อมกิจกรรมเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาสู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวโลก นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการภาพถ่าย Spiritual Tea Talk กับหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ และหลวงปู่ติชนัทฮันห์ พระผู้ใหญ่ชาวเวียดนาม ที่ไปเปิดหมู่บ้านพลัมในประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งการเขียนภาพลายเส้นพู่กันโดยพระอาจารย์บุมจู พระผู้ใหญ่จากประเทศเกาหลี
ที่พิเศษสุดก็คือภาพเขียนฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน รวมทั้งภาพธรรมศิลป์จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินรับเชิญพิเศษอีกมากมาย
รายได้จากโครงการทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนกิจกรรมพัฒนาเยาวชนเพื่อการส่งเสริมศาสนาสู่เยาวชนโลก ขององค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ยพสล.) องค์การกุศลเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา อาทิ มูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมสมทบทุนโครงการก่อสร้างกุฏิวิปัสสนา วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล จำนวน 2 ล้านบาท โครงการก่อสร้างโรงเรียนศากยบุตร ของคณะ YMBA Nepal โครงการโพธิวัฒน์ สโมสรยุวพุทธฯ คลับ 25 ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และมูลนิธิลันทาต่อไป
ส่วนงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ประจำปี 2550 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-31 พฤษภาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อกระตุ้นให้พุทธบริษัททั้งหลายตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา ในฐานะศาสนาสากลและบทบาทของชาวพุทธในการมีส่วนร่วมจรรโลงสังคม และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในปีมหามงคลดังกล่าว
โปรยกลางเรื่อง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ
จากหนังสือพิมพ์ "โพสต์ทูเดย์"
|