หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

ออกพรรษาที่แม่ฮ่องสอน

ลมหนาวเริ่มมาเยือนฤดูฝนกำลังจะจากไปพร้อมๆกับเทศกาลออกพรรษาที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่วัน เทศกาลเข้าพรรษาถือเป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิบัติธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพุทธศาสนิกชนยาวนานติดต่อกันถึง 3 เดือน ช่วงออกพรรษาทั่วทุกภูมิภาคของไทยจึงมีการจัดงานเทศกาลประเพณี ทั้งประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาเช่นงานบุญออกพรรษา ประเพณีตักบาตรเทโว และงานประเพณีที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบไทยๆ เช่นงานประเพณีแข่งเรือในน่านน้ำต่างๆ เป็นต้น เรียกว่าในช่วงเทศกาลออกพรรษานั้นมีงานประเพณีให้เที่ยวชมกันมากมายจนเที่ยวกันไม่หมด

สำหรับวันออกพรรษาปีนี้ตรงกับวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งจะมีการจัดงานบุญออกพรรษาขึ้นในทุกจังหวัด คอลัมน์ถนนคนเดินทางสัปดาห์นี้จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับงานประเพณีออกพรรษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนกัน

แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งมีผู้คนไม่มากนักที่มีโอกาสเดินทางไปถึง เพราะแม่ฮ่องสอนไม่ใช่ทางผ่าน แต่เป็นดินแดนที่ต้องตั้งใจจริงที่จะเดินทางไปเท่านั้น แต่ความสวยงามของดินแดนท่ามกลางขุนเขา ผสมผสานกับความเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของผู้คนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เส้นทางหมายเลข 108 จากเชียงใหม่ ผ่านอำเภอฮอด แม่สะเรียง แม่ลาน้อย ขุนยวม เข้าสู่แม่ฮ่องสอนระยะทางราว 369 กิโลเมตร ที่ต้องผ่านขุนเขาคดเคี้ยวผ่านโค้งมากถึง 1,864 โค้งในอดีตนั้น เรียกว่านักขับต้องเลี้ยวให้ครบขาดไปไม่ได้แม่แต่โค้งเดียว ซึ่งวันนี้จำนวนโค้งก็ยังไม่ลดลง แต่นั่นก็คงไม่เป็นอุปสรรค์สำหรับคนรักการเดินทาง

เช่นเดียวกับผู้ที่ชื่นชอบเที่ยวชมทะเลหมอก มักเลือกออกเดินทางจากเชียงใหม่ตั้งแต่ก่อนตี 5 ใช้เส้นทางหมายเลข 1095 สายแม่มาลัย ปาย ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ระยะทางราว 245 กิโลเมตร โดยแวะเข้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอกที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังที่อยู่บนเส้นทางโดยเลี้ยวขวาเข้าไปเพียง 6 กิโลเมตรเสียก่อน จากนั้นจึงแวะเที่ยวชมอำเภอปาย หรือแวะเที่ยวถ้ำที่อำเภอปางมะผ้า ก่อนเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

ทุกๆปีชาวแม่ฮ่องสอนถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรื่อยไปจนถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันจัดงานประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด หรืองานประเพณีออกพรรษาของชาวไทยใหญ่นั่นเอง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ตุลาคมถึง 3 พฤศจิกายน ชาวแม่ฮ่องสอนนั้นมีเชื้อสายไทยใหญ่เป็นส่วนใหญ่และยังคงยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษชาวไทยใหญ่สืบมาจนปัจจุบัน โดยมีคติความเชื่อของชาวไทยใหญ่ที่มีสืบมาแต่โบราณว่าในวันออกพรรษานั้น จะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับลงมาจากสรวงสวรรค์หลังจากขึ้นไปแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพระมารดา ชาวบ้านจึงได้สร้างปราสาทจำลองหรือ "จองพารา" ขึ้นเพื่อรับเสด็จ จองพารานี้สร้างขึ้นจากโครงไม้ไผ่ ประดับประดาด้วยกระดาษสาและกระดาษแก้วหลากสีสัน ตัดฉลุเป็นลวดลายประดับประดาปราสาทหรือจองพาราให้สวยงาม นอกจากนั้นยังประดับประดาด้วยหน่อกล้วย ต้นอ้อยและติดประดับโคมไฟ จากนั้นจึงยกไปตั้งไว้นอกชายคา นอกรั้วบ้าน หรือกลางลานวัด ในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

ในวันออกพรรษานั้นชาวแม่ฮ่องสอนจะตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางมารวมกันตักบาตรเทโวที่วัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนยอดดอยกองมูในเมืองแม่ฮ่องสอน โดยชาวบ้านนับพันจะเรียงรายกันตลอดสองข้างทางเดินขึ้นดอยกองมู เรื่อยลงมาจนถึงวัดม่วยต่อที่อยู่บริเวณเชิงเขา เพื่อตักบาตรพระเณรจำนวนนับร้อยที่จะเดินเรียงแถวลงมาจากยอดดอย เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ นับเป็นภาพอันงดงามที่แสดงถึงความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของชาวแม่ฮ่องสอน ส่วนในตอนเย็นจะมีการนำดอกไม้ไปขอขมาบิดามารดา และญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และก่อนย่ำรุ่งของวันแรม 1 ค่ำ จะมีพิธี "ต่างซอมต่อ" คือการอุทิศเครื่องเซ่นแก่สิ่งที่ชาวไตหรือชาวไทยใหญ่ถือว่ามีบุญคุณต่อการดำเนินชีวิต โดยการนำกระทงอาหารเล็กๆ ที่จุดเทียนติดไว้ไปตั้งตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ไฟจากแสงเทียนนับพันๆ ดวงสว่างไสวไปทั่วทั้งเมืองตลอดเทศกาลตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ ไปจนถึงวันแรม 8 ค่ำ และจะมีการถวายข้าวที่จองพาราวันละครั้งตลอดเทศกาลด้วยเช่นกัน

ตามบ้านเรือนในตอนกลางคืน ชาวแม่ฮ่องสอนจะแขวนโคมไฟประดับประดาไว้ตามบ้านอย่างสวยงาม และมีการละเล่น การฟ้อนรำเฉลิมฉลอง เช่นการฟ้อนโต และการฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ อันเป็นการฟ้อนที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไต โดยถือคติความเชื่อที่ว่า เมื่อพระพุทธองค์เสด็จกลับจากสรวงสวรรค์ลงมาสู่โลกมนุษย์ ทั้งมนุษย์และสิงสาราสัตว์ต่างๆก็เกิดความปิติยินดี ต่างมาเฝ้ารับเสด็จกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการฟ้อนก้าแลวหรือฟ้อนดาบเป็นต้น และก่อนจะถึงวันแรม 8 ค่ำ จะมีพิธี "หลู่เตนเหง" หรือพิธีถวายเทียนพันเล่ม โดยชาวบ้านจะแห่ต้นเทียนที่ประดับด้วยเทียนต้นเล็กๆพันเล่มไปถวายวัด

และในวันแรม 8 ค่ำอันเป็นสุดท้ายของเทศกาลออกพรรษา จะมีพิธี "ถวายไม้เกี๊ยะ" หรือไม้สนภูเขาซึ่งเป็นไม้ที่มีน้ำมันสามารถใช้ในการจุดไฟ นำมามัดรวมกันเป็นต้นสูง นำเข้าขบวนแห่ที่มีการฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ แห่ไปทำพิธีจุดถวายเป็นพุทธบูชาที่วัด อันเป็นการสิ้นสุดของประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด หรือประเพณีวันออกพรรษาของชาวแม่ฮ่องสอน โดยการจัดงานนั้นจะมีทั้งในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และในอำเภอต่างๆเช่นอำเภอปาย อำเภอขุนยวม อำเภอแม่สะเรียง ซึ่งก็ล้วนมีความน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน

นอกจากพิธีการงานบุญ ขบวนแห่ การแสดงพื้นบ้าน การฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆแล้ว ทุกๆเย็นถึงค่ำนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเรื่อยไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทางเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนยังได้จัดให้มีกิจกรรมถนนคนเดินบริเวณรอบหนองจองคำ ซึ่งจะมีสินค้าพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านและหัตถกรรมชาวเขาเผ่าต่างๆ มาวางจำหน่าย มีการแสดงทางวัฒนธรรมให้ชมกันทุกวัน มีโอกาสก็อย่าลืมจัดโปรแกรมเดินทางไปเที่ยวชมกันครับ

แหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์


ไปข้างบน