หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

10 วิธีตั้งสติก่อนสตาร์ทอารมณ์โกรธ

ปัจจุบันข่าวคราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ในแต่ละวันที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บ พิการหรือสูญเสียชีวิตอันมีสาเหตุมาจากการไม่สามารถยับยั้งควบคุมอารมณ์โกรธของผู้คนในสังคม มีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ การสูญเสียดังกล่าวไม่ได้จำกัดขอบเขตเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เท่านั้น ยังส่งผลกระทบถึงความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของสมาชิกครอบครัวที่ต้องพบกับความสูญเสีย ซึ่งหลายครั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะไม่สามารถหยุดอารมณ์ชั่ววูบของผู้กระทำได้ ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถระงับอารมณ์โกรธของตนลงได้ มีอารมณ์เยือกเย็นลงอีกสักนิด ความสูญเสียต่างๆ ก็คงไม่เกิดขึ้น

เหตุการณ์บันดาลโทสะของ ‘หมูแฮม ’ ต่อยคนขับรถเมล์-ตะบึงเบนซ์ชนคนตาย 1 เจ็บอีกมาก

นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลมนารมย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองและสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องได้รับการฝึกฝน ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้คนเราเกิดอารมณ์โกรธ นอกเหนือจากแรงผลักดันจากภาวะเศรษฐกิจ ครอบครัวและการสูญเสียการควบคุมอารมณ์ชั่วขณะอันเกิดมาจากการใช้เหล้าหรือสารเสพติดแล้ว ก็คือเรื่องบุคลิกภาพที่เป็นผลมาจากการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว เพราะในปัจจุบันสถาบันครอบครัวของไทยมีความอ่อนแอลงทุกวัน เวลาและความใกล้ชิดที่มีให้กันน้อยกว่าในอดีต

ในขณะที่ตัวอย่างการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรงในสังคมมีให้เห็นบ่อยมากขึ้น จนเกือบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา

โชเฟอร์รถปอ.ที่ถูก ‘หมูแฮม ’ ทำร้ายจนบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการนำเสนอข่าวสาร ภาพยนตร์หรือเกมที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรง และเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่สถาบันครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรถูกหยิบยกมาใช้

นพ.ไกรสิทธิ์ให้ข้อมูลต่อไปว่า การเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโตมีสุขภาพกาย ใจที่แข็งแรง เป็นงานสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตมนุษย์ ต้องใช้เวลา ต้องการทั้งความรู้ ความเข้าใจและความอดทนของผู้เลี้ยงดูเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วงอายุของเด็กที่มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการได้แก่ ช่วงอายุ 0-6 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่เด็กจะเรียนรู้เรื่องการวางใจผู้อื่น รับรู้และซึมซับบุคลิกภาพจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะจากผู้เลี้ยงดู การฝึกเด็กให้รู้จักคอย การเห็นอกเห็นใจ การเคารพสิทธิผู้อื่น การรู้จักแพ้ รู้จักชนะ จะมีส่วนช่วยในการฝึกทักษะการควบคุมอารมณ์ของเด็ก

“หากเราเลี้ยงดูเด็กให้เป็นผู้ที่มีทั้งไอคิว อีคิวที่ดี คนที่อยู่ใกล้ชิดและสังคมก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย ความก้าวร้าวของเด็กเมื่อมีพัฒนาการขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสมาชิกในครอบครัวต่างเป็นเบ้าหลอมสำคัญยิ่ง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เขา”

สำหรับหลักในการควบคุมอารมณ์นั้น นพ.ไกรสิทธิ์ได้ให้แนวทางปฏิบัติ 10 ประการที่สามารถนำไปใช้เพื่อระงับความโกรธแบบสั่งได้ดังใจไว้ ได้แก่

1. พยายามสังเกตตัวเองให้รู้เท่าทันอารมณ์ตนเองว่ากำลังจะโกรธ

2. เตือนตนเองว่าการโกรธคือการเผาตัวเอง ทำลายสุขภาพตัวเอง

3. ชะลออารมณ์โกรธโดยการเบี่ยงเบนความสนใจ ด้วยการนับ 1-10 หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ

4. พยายามออกจากสถานที่ยั่วยุให้เกิดอารมณ์โกรธนั้น เพื่อไปสงบสติอารมณ์

5. เตือนตนเองว่า เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังใจเรา

6. เตือนตนเองว่า คนเราแตกต่างกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้แต่ตัวเราเองก็มีข้อบกพร่อง

7. เตือนตนเองให้มองเห็นข้อดีของผู้อื่นและความดีของเขาในอดีตที่ผ่านมา

8. ฝึกคิดฝึกมองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในด้านบวก

9. ฝึกให้อภัยและปล่อยวาง

10. ถ้าแก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ ควรขอคำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ไว้ใจได้ ในบางครั้งถ้าปัญหารุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์"




ไปข้างบน