ตระเวน 3 เกาะ ไหว้ 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองฮ่องกง
พระพุทธรูปกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่วัดโป่หลินมองมุมไหนก็จะเห็นท่านเสมอ
ต้องบอกกันก่อนว่าตัวฉันนั้นเป็นคนนิยมการไหว้พระ ทั้งการไหว้พระเก้าวัด หรือใครมาบอกว่าพระที่วัดไหนดี
พระองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นต้องหาทางไปไหว้ให้จงได้ ไม่ใช่ว่าเป็นคนขาดที่ยึดเหนี่ยวทางใจแต่อย่างใด เพียงแต่ฉันชอบบรรยากาศของการไปไหว้พระ ชอบความรู้สึกอิ่มบุญหลังจากที่ได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพเท่านั้นเอง
และเมื่อได้มีโอกาสที่จะได้มาเยือนยังฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของประเทศจีนแห่งนี้ แน่นอนว่าฉันย่อมไม่พลาดที่จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮ่องกงแน่ๆ และคราวนี้ก็ได้ตระเวนไปยังเกาะใหญ่ๆ ทั้งสามเกาะของฮ่องกง ซึ่งแต่ละที่ก็มีทั้งความเชื่อในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความสวยงามต่างกันไป
ขึ้นกระเช้านองปิงอีกหนึ่งสีสันใหม่ของฮ่องกง
สำหรับที่แรกนั้น ก็คือ "นองปิง360" ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลันเตา เกาะที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 เท่าของเกาะฮ่องกงและเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรฮ่องกง
จุดประสงค์ของการมานองปิงก็คือเพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชมทัศนียภาพมุมสูงรอบตัวที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ทั่วเกาะลันเตา ทั่วอ่าวตุงชุง ไปจนถึงวนอุทยานลันเตาเหนือ และสนามบินนานาชาติฮ่องกง
กระเช้านองปิงข้างในไม่ติดแอร์แต่ก็ไม่ร้อนกลับออกเย็นๆเสียด้วยซ้ำ อัตรค่าบริการแบ่งเป็นขาขึ้นอย่างเดียวเด็ก 28เหรียญ,ผู้ใหญ่58เหรียญ ทั้งขาขึ้นและขาลงเด็ก45เหรียญ,ผู้ใหญ่88เหรียญ เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์เวลา 10.00น. -18.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์และวันหยุดจะให้บริการถึงเวลา 18.30 น.
จากตุงชุงเราใช้เวลา 25 นาที วิ่งเป็นระยะทาง 5.7 กิโลเมตร เพื่อขึ้นมายังที่ราบนองปิงเมื่อมาถึงแล้วสิ่งแรกที่เราจะได้พบคือ "หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง" ( Ngong Ping Village ) ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมจีนโบราณแต่ไม่ใช้ของที่มีมาแต่เดิมหรอกนะ
ทางนองปิงเขาสร้างหมู่บ้านทั้งหมดขึ้นใหม่ สร้างบนพื้นที่ 1.5 เฮคตาร์ ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทั้งร้านค้า ร้านอาหาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของฮ่องกงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อกลางเดือนกันยายน 2549
ที่หมู่บ้านนองปิงแห่งนี้มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย ทั้งการแสดงกลางแจ้ง อาทิ อุปรากร มายากล การแสดง กังฟูจากสตั๊นท์แมน การแสดงย้อนรอยสู่เส้นทางแห่งการตรัสรู้ ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ หอพุทธประวัติ "Walking with Buddha" หรือเพลิดเพลินกับละครชาดกในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ แอนนิเมชั่น สเปเชียลเอฟเฟ็กต์
ที่โรงละคร "Monkey’s Tale Theater" มีการสาธิตวิธีการชงชา ธรรมเนียมการดื่มชาจีนที่ถูกวิธีให้ชมด้วย
หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิงในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน
เรียกได้ว่าตลอดสองฟากฝั่งของหมู่บ้านวัฒนธรรมแห่งนี้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ฉันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ช่วงที่ฉันมาจะมีผู้คนขึ้นมาที่นี่กันเยอะมากก็ตาม อ๋อ..ฉันลืมบอกไปว่าใครที่อยากทดสอบความแข็งแรงของกำลังขา ก็สามารถเลือกวิธีที่จะเดินขึ้นไปสู่ที่ราบนองปิงโดยไม่ใช้กระเช้าได้ หากเหนื่อยก็แข็งใจเดินมาให้ถึงจุดที่แวะพักกระเช้าแล้วก็ขึ้นจากจุดนั้นได้ ซึ่งจะมีอยู่เป็นระยะๆ
จากหมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิงเดินลึกเข้าไปก็จะเป็น "วัดโป่หลิน" (Po Lin Monastery) หรือเรียกเป็นชื่อไทยๆ ได้ว่าวัดดอกบัวงาม เป็นวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อ Giant Buddha เพราะจุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่พระพุทธรูปสัมฤทธิ์นั่งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นพระพุทธรูปนั่งกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ความสูงถึง 34 เมตร หนักถึง 220 ตัน
พระใหญ่ที่วัดโป่หลิน
พระพุทธรูปองค์นี้สามารถมองเห็นได้จากแทบทุกส่วนของเกาะลันเตา หากต้องการยลพระพักตร์ท่านใกล้ๆต้องไต่บันไดถึง 268 ขั้น เพื่อขึ้นไปด้านบนเดินไปก็หอบไปต้องหยุดพักเป็นระยะ
พระพุทธรูปองค์นี้ใช้เวลาสร้างนานกว่า 10 ปีด้วยกัน และเป็นที่เคารพสักการะของชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวต่างๆ มาตั้งแต่ ค.ศ.1993 พระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์นี้เหมือนกับกำลังประทานพรให้แก่ผู้ที่มากราบไหว้ท่าน แถมจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนั้นยังเป็นจุดชมวิวของเกาะลันเตาที่สวยงามมากๆ อีกจุดหนึ่งด้วย ส่วนบริเวณรอบๆ วัดก็ยังมีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อของชาวฮ่องกงให้สักการะกัน
ไหว้พระเสร็จแล้ว ลองเดินไปยัง "ทางเดินแห่งปรัชญา" (Wisdom Path) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทางเดินที่ว่านี้ จะมีแผ่นไม้สูงเกือบสิบเมตร ทั้งหมด 38 แผ่น ปักเรียงกันเป็นรูปเลขแปด บนแผ่นไม้นั้นสลักตัวอักษรภาษาจีน ซึ่งถ้าใครอ่านออกก็จะรู้ว่าเป็นบทสวดเก่าแก่ของศาสนาพุทธที่เรียกว่า Heart Sutra
การปักแผ่นไม้เรียงกันเป็นรูปเลขแปดนั้นก็หมายถึงความไม่สิ้นสุด ใครที่ได้เดินบนทางเดินแห่งนี้แล้วลองคิดถึงเรื่องราวของชีวิตไปด้วยอาจจะปลงก็ได้นะ
แผ่นไม้ทั้ง 38 แผ่น บนทางเดินแห่งปรัชญา
ข้ามมายังฝั่งเกาลูนกันบ้าง วัดแห่งนี้ก็มีคนนิยมไปไหว้กันเป็นจำนวนมาก ควันธูปตลบอบอวลไปหมด นั่นก็คือ วัด หว่อง ไท ซิน (Wong Tai Sin) หรือที่เรียกว่า หวัง ต้า เซียน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของฮ่องกง ซึ่งชื่อเสียงที่ว่านั่นก็คือ เชื่อกันว่าคนที่มาขอพรที่นี่จะสมหวังตามคำความปรารถนา และยังมีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่งดงามมากด้วย
สำหรับหวังต้าเซียนนั้น ก็เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่มีตำนานเล่าขานกันมาว่า ท่านเคยเป็นเด็กเลี้ยงแกะอยู่ที่ Red Pin Hill มาก่อน และเมื่ออายุได้เพียง 15 ปี ก็สามารถปรุงยาที่รักษาโรคทุกโรคได้ และได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ โดยทุกๆ วันที่ 23 ของเดือน 8 ตามปฏิทินจีน ก็จะมีการจัดเทศกาลหว่อง ไท ซิน ขึ้น เพื่อรำลึกถึงท่าน
ควันธูปที่นี่ไม่เคยจาง ที่วัดหว่อง ไท ซิน
วันที่ฉันไปไหว้ที่วัดหว่อง ไท ซิน นั้นก็เจอกับผู้คนมากมายเต็มไปหมด ควันธูปลอยหนาไปทั่วบริเวณ แต่หากว่ามาในช่วงเทศกาล หรือในช่วงวันตรุษจีนละก็ ความหนาแน่นของผู้คนและควันธูปจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เช่นในคืนก่อนวันตรุษจีนนั้นจะมีผู้คนมาเข้าแถวคอยเป็นชั่วโมงๆ เพื่อที่จะได้ปักธูปแรกของปีในเวลาเที่ยงคืน เพราะเชื่อว่าจะนำความโชคดีมาให้ตลอดทั้งปีนั้น และได้มาไหว้พระหว่อง ไท ซิน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของโชคดี รวมทั้งมาดูดวงกันที่วัดนี้ด้วย
กลับมายังเกาะฮ่องกงกันบ้าง ณ อ่าวรีพัลส์ เบย์ (Repulse Bay) อ่าวที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง เพราะมีชายหาดที่กว้าง หาดทรายขาว และคลื่นลมสงบน่าเล่นน้ำ ไม่ใช่แค่เพียงเท่านี้ เพราะที่ Repulse Bay ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพของชาวฮ่องกงอีกด้วย สถานที่ที่ว่านั้นก็คือศาลเจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมและเจ้าแม่ทับทิมขนาดใหญ่ตั้งอยู่คู่กัน หันหน้าออกสู่ทะเล
เจ้าแม่กวนอิมบนอ่าวรีพัลส์ เบย์
เมื่อก่อนนี้องค์เจ้าแม่กวนอิมยังเป็นเพียงองค์เล็กๆ เท่านั้นและสลักจากไม้ แต่เมื่อภายหลังมีผู้คนมาอาศัยอยู่ในละแวกนี้มากขึ้นจึงมีคนบริจาคเงินเพื่อสร้างศาลให้ใหญ่โตสวยงามขึ้น จึงมีการหล่อเจ้าแม่กวนอิมให้เป็นองค์ใหญ่ขึ้น แต่องค์จริงๆ นั้นจะอยู่ใต้ฐานขององค์ใหม่ นอกจากนั้นก็ยังสร้างรูปปั้นของเทพเจ้าต่างๆ ขึ้นอีกหลายองค์ด้วยกัน เช่นเจ้าแม่ทับทิมซึ่งตั้งอยู่คู่กัน เจ้าแม่ทับทิมเป็นเทพเจ้าที่เป็นที่เคารพของชาวประมง โดยมักมาขอพรให้ออกไปหาปลาและกลับมาได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนั้นก็ยังมีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นองค์เล็กๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าองค์นี้มีคนนิยมมาไหว้กันมากเช่นกัน โดยเมื่อไหว้ขอโชคลาภขอเงินทองเรียบร้อยแล้วเขาจะใช้มือลูบจากเคราลงมาถึงถุงใส่เงินของท่าน แล้วกำมาใส่ในกระเป๋าของตัวเอง เหมือนกับเป็นเคล็ดว่าให้เงินทองไหลเข้าสู่กระเป๋าของเรา
สะพานต่ออายุ เชื่อกันว่าข้ามหนึ่งครั้งต่ออายุได้อีก 3 ปี
สิ่งที่น่าสนใจของศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีอีกมาก เช่น สะพานต่ออายุสีแดงสด เชื่อกันว่าหากข้ามสะพานนี้แล้วจะมีอายุเพิ่มมากขึ้นอีกสามปีด้วยกัน แต่มีข้อแม้ว่าข้ามไปแล้วห้ามข้ามกลับ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นลดอายุลงมา ต้องใช้วิธีเดินข้ามไปแล้วเดิมอ้อมใต้สะพานกลับมาอีกทางหนึ่ง
ทั้งสามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ามานี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่คนฮ่องกงรวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างให้ความเคารพ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเยือนฮ่องกง ก็ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะได้ไปกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเอง และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการช้อปปิ้งก็ดีเหมือนกัน
* * * * * * * * ** * * * * * * * *
ต้องขึ้นบันไดทั้งหมด 268 ขั้น เพื่อไปสักการะพระใหญ่วัดโป่หลิน
"ฮ่องกง" เป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศจีน ฮ่องกงใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ซึ่งภาษาจีนกวางตุ้งเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุด และเงินที่ใช้เป็นเงิน ฮ่องกงดอลลาร์ (ฮ่องกงดอลลาร์ตกประมาณ 5 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น)
สายการบินจากกรุงเทพฯไปฮ่องกงมีอยู่หลายสายการบินด้วยกัน เช่น สายการบินไทย โทร. 0-2280-0060, 0-2628-2000 สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โทร. 0-2263-0606 สายการบินโอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ โทร. 1126, 0-2267-3210-5
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวฮ่องกง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวฮ่องกง โทร. 0-2233-4329-30 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับฮ่องกงได้ที่ www.discoverhongkong.com
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์"
|