หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

ตะลุยลาวใต้ ยลเสน่ห์จำปาสัก จากวัดพูสู่ ไนแองการาเอเชีย

น้ำตกคอนพะเพ็ง หรือไนแองการาเอเชียอันยิ่งใหญ่อลังการ

หากพูดถึงสุดยอดน้ำตกของโลก คงจะไม่มีน้ำตกไหนยิ่งใหญ่เกิน "น้ำตกไนแองการา" ที่ตั้งอยู่ชายแดนอเมริกา-แคนาดา

ส่วนในภูมิภาคอุษาคเนย์ หากพูดถึงน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ในระดับน้องๆของน้ำตกไนแองการา(ต้นฉบับ)ก็คงจะหนีไม่พ้น "น้ำตกคอนพะเพ็ง" หรือ "ไนแองการาแห่งเอเชีย" ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาน่าตื่นตาตื่นใจ

น้ำตกคอนพะเพ็ง ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสักแห่งดินแดนลาวใต้ อดีตเมืองหลวงเก่า ซึ่งหลังการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 13 ก็ทำให้การเดินทางจากเมืองไทยไปยลเสน่ห์แห่งลาวใต้สะดวกสบายง่ายดายขึ้น และยิ่งยุคนี้การไปมาหาสู่ระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างสปป.ลาวนั้นไม่ต้องทำวีซ่าก็ยิ่งทำให้จำปาสักน่าไปเที่ยวมากขึ้น

ปรางค์ประธานปราสาทวัดพูที่ตั้งอยู่บนเขา

เยือนมรดกโลก "ปราสาทหินวัดพู"

จากเมืองไทยผมข้ามแดนสู่ประเทศลาวที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี นี้ ก่อนเดินทางไปยังเมืองปากเซ เมืองที่มีความเจริญและมีความคึกคักทางด้านการค้ามากกว่าตัวแขวงจำปาสักเสียอีก เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากลักษณะทางกายภาพของเมืองและวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะในย่านร้านตลาดที่มีความเคลื่อนไหวของการซื้อ-ขาย กันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าไปยันบ่าย

แต่ครั้นพอเดินทางออกนอกเมืองปากเซสู่เมืองเก่าจำปาสัก ที่มีบรรยากาศคล้ายชนบทบ้านเราเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในเมืองเก่าจำปาสักห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 10 กม. เป็นที่ตั้งของมรดกโลก"ปราสาทหินวัดพู" ที่ถือเป็นจุดหมายแรกของการทริปตะลุยลาวใต้

ทางเดินสู่ปราสาทวัดพูหากไปถูกที่ถูกเวลาจะมีดอกจำปาบานขาวเต็มต้น

ปราสาทหินวัดพู แม้จะดูไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับปราสาทหินพนมรุ้งแห่งบุรีรัมย์ แต่ว่าปราสาทแห่งนี้มีความโดดเด่นตรงที่เป็นปราสาทขอมหนึ่งเดียวในประเทศลาว ทำให้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกในปี 2545 นอกจากนี้ยังเป็นศาสนสถานที่เป็นทั้งปราสาทและวัดอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้มีที่มาคร่าวๆว่า ในอดีตโบราณกาลก่อนที่อาณาจักรขอมจะเรืองอำนาจแบบสุดขีดในยุคพระนคร(มีนครวัดและนครธมเป็นผลงานชิ้นเอก)

ขอมได้แบ่งเป็น 2 อาณาจักร คือ เจนละน้ำ (อยู่บริเวณเขมรตอนกลางกับตอนล่างในปัจจุบัน ) และเจนละบก(พื้นที่ตั้งแต่อุบลราชธานี บุรีรัมย์ จำปาสัก ไล่ไปจนถึงเขมร) โดยเจนละบกในยุคนั้น(ราว 1,300 ปีก่อน) มีปราสาทวัดพูเป็นศูนย์กลาง

สมัยนั้นชาวขอมนับถือศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายที่นับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุด ชาวขอมเมื่อสร้างศาสนสถาน ก็จะสร้างศิวลึงค์ที่เปรียบดังตัวแทนขององค์ศิวเทพไว้ที่ใจกลางปรางค์ประธานเพื่อให้เป็นที่เคารพบูชา สำหรับยอดเขาที่ตั้งปราสาทหินวัดพูนั้นมีลักษณะตามธรรมชาติคล้ายศิวลึงค์ หรือที่เรียกว่า "ลึงค์บรรพต" ซึ่งชาวขอมถือว่าศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ชาวลาวมองภูเขาลูกนี้เหมือนดังเกล้ามวยผมของผู้หญิงจึงพากันเรียกขานว่า "พูเก้า"

แน่นอนว่าเมื่อชาวขอมเป็นผู้สร้าง ก็ได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้เป็นปราสาท แต่พอสิ้นยุคเจนละ ชาวลาวที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนี้ซึ่งนับถือพุทธก็ได้ปรับเปลี่ยนปราสาทขอมให้เป็นวัดในศาสนาพุทธ ศิวลึงค์ในปรางค์ประธานก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพระประธานแทน

ถึงแม้กาลเวลาจะผันผ่านมาพันกว่าปี แต่ร่องรอยอดีตอันรุ่งโรจน์ของปราสาทวัดพูก็ยังมีให้ดูอยู่หลายแห่งโดยเฉพาะศิลปกรรมแบบขอม ทำให้ปราสาทแห่งนี้รับการประกาศเป็นมรดกโลกในปี 2545 สำหรับความน่าสนใจของปราสาทแห่งนี้ก็มี่ไล่ไปตั้งแต่ทางขึ้นที่มีบาราย(สระขุด)ขนาดใหญ่

ถัดจากบารายก็จะเป็นปราสาทหลังใหญ่ 2 หลัง ที่แม้ว่าจะพุพังไปตามกาลเวลา แต่ร่องรอยของความงามในอดีตอย่างพวกลวดลายสลักหินต่างๆก็ยังพอมีให้เห็น

สีสันชีวิตชาวลาวในตลาดเมืองปากเซ

เลยจากปราสาท 2 หลังไป จะมีเสานางเรียงที่หลงเหลือ ตั้งบ้าง ล้มบ้าง นำสายจาไปสู่ทางเดินบันไดหินขึ้นตัวปราสาทบนยอดพูเก้า ที่ 2 ฟากฝั่งมีต้นจำปา(ลั่นทมหรือลีลาวดี)อายุหลายร้อยปีปลูกประดับอยู่ ซึ่งหากใครไปในช่วงหน้าแล้งที่จำปาสลัดใบแต่ออกดอกขาวเต็มต้น บันไดหินสายนี้จะสวยงามมาก เพราะดอกจำปาขาวนวลจะให้สีตัดกับท้องฟ้า พร้อมๆกับส่งกลิ่นหอมเย็นอบอวลไปทั่วบริเวณ นับเป็นการช่วยสร้างบรรยากาศการเดินขึ้นสู่ตัวปราสาทให้น่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้น และลดทอนความร้อนและเหนื่อยไปได้มากโข

สำหรับตัวปราสาทประธานบนเขามีลักษณะเป็นปราสาทเล็กๆ ที่เห็นได้ชัดเจนถึงความเป็นพุทธและพราหมณ์อยู่คู่กัน โดยความเป็นพราหมณ์ นั้นดูได้จากคติความเชื่อในการวางผัง การสร้างปราสาทและรูปสลักต่างๆ อาทิ รูปนางอัปสร รูปทวารบาล รูปพระศิวะ รูปพระนารายณ์ รูปหน้ากาล

ส่วนความเป็นพุทธนั้นก็ดูได้จากปราสาทปรางค์ที่น่าจะเรียกว่าโบสถ์มากกว่า เพราะในนั้นมีพระพุทธรูปทั้งพระประธานและพระพุทธรูปองค์เล็กๆอีกจำนวนหนึ่ง ประดิษฐานอยู่ให้ผู้คนที่ขึ้นไปสักการะบูชา

ไม่เพียงโดดเด่นไปด้วยความเป็นพุทธและพราหมณ์ที่ผสมกลมกลืนกัน บริเวณด้านหน้าของปราสาทประธาน ยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่เมื่อมองย้อนลงไปก็จะเห็น บารายขนาดใหญ่ เห็นท้องทุ่งกว้าง เห็นคนเดินขึ้นเขา เห็นดวงจำปาที่ขึ้นเป็นซุ้มสวยงาม รวมถึงเห็นทิวทัศน์ส่วนหนึ่งของแขวงจำปาสัก เมืองที่มีน้ำตกคอนพะเพ็งหรือไนแองการาแห่งเอเชียเป็นไฮไลท์ ซึ่งเป็นเป้าหมายต่อไปของการเดินทางในทริปนี้

แม้สายน้ำแห่งคอนพะเพ็งจะรุนแรงดุดันแต่ก็ยังมีคนไปวางอุปกรณ์ดักปลากันไม่น้อย

อลังการ มหานที สี่พันดอน "น้ำตกคอนพะเพ็ง : ไนแองการาแห่งเอเชีย"

น้ำตกคอนพะเพ็ง มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากน้ำตกในบ้านเราที่ส่วนใหญ่เกิดจากตาน้ำไหลมารวมกันก่อนตกเป็นสายฟูฟ่องลงมาจากหน้าผา โตรกหิน แต่น้ำตกคอนพะเพ็งกลับเป็นน้ำตกที่เกิดจากการไหลบ่าอย่างดุดันเชี่ยวกรากของแม่น้ำโขง หรือ “แม่น้ำของ” ในภาษาลาว ก่อนจะไปไหลตัดลงอย่างรุนแรงตามระนาบดิ่งของแก่งหินขนาดมหึมาเกิดเป็นน้ำตกคอนพะเพ็งขึ้นมา

แม้น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นน้ำตกสำหรับดูเพราะมีขนาดใหญ่ไหลเชี่ยวกรากดุดันเป็นสายฟูฟ่อง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ว่าก็มีความสวยงามอยู่ในที

ในขณะที่ชาวต่างชาติยกให้น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นไนแองการ่าแห่งเอเชีย แต่คนลาวและคนไทยต่างเรียกพื้นที่บริเวณน้ำตกแห่งนี้ว่า "มหานที สี่พันดอน" เนื่องจากเต็มไปด้วยเกาะแก่งและดอนน้อยใหญ่มากมายนับไม่ถ้วน จนคนลาวเรียกรวมๆว่า "สี่พันดอน"

ส่วนชื่อของน้ำตกคอนพะเพ็งที่ผู้รู้ชาวลาวอธิบายให้ฟังผมนั้น นับเป็นน้ำตกที่มีชื่อน่ารักไม่น้อย โดยคำว่า "คอน" ในภาษาไทยก็คือ "แก่ง" ส่วน "พะเพ็ง" คำไทยคือ "พระจันทร์วันเพ็ญ" คอนพะเพ็งหากแปลเป็นไทยแบบเท่ๆ ก็คือ “แก่งจันทร์เพ็ญ” ที่ฟังแล้วมันช่างแตกต่างกับสายน้ำตกที่ไหลอย่างโจนทะยานเชี่ยวกรากโดยสิ้นเชิง

แต่ทั้งนี้ครั้งหนึ่งในยุคล่าอาณานิคม คอนพะเพ็งเคยถูกฝรั่งเศสพยายามระเบิดทิ้ง เพราะแก่งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสายน้ำอันดุดันแห่งนี้ถือเป็นอุปสรรคต่อการขนถ่ายทรัพยากรออกจากลาว เนื่องจากทำให้การเดินเรือในแม่น้ำโขงชะงัก ขาดช่วง ไม่สามารถเดินเรือได้ อย่างต่อเนื่อง หากระเบิดคอนพะเพ็งทิ้งก็จะเป็นผลดีต่อการเดินเรือ และฝรั่งเศส

แต่ว่าการระเบิดคอนพะเพ็งของฝรั่งเศสไม่ประสบความสำเร็จ เพราะระเบิดไม่ทำงาน ซึ่ง ณ วันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดระเบิดถึงไม่ทำงาน แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวลาวเชื่อว่าเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ได้ทำการปกป้องน้ำตกคอนพะเพ็งไว้ ซึ่งในยุคนั้นหากมีการระเบิดขึ้นก็จะไม่มีน้ำตกคอนพะเพ็งในวันนี้ และก็จะไม่มีน้ำตกอันยิ่งใหญ่อลังการนาม "ไนแองการาแห่งเอเชีย" ด้วย

ลวดลายประดับบนปรางค์ประธานปราสาทวัดพู

* * * * * * * * * * * * * * * * * *

ปราสาทวัดพู และน้ำตกคอนพะเพ็ง ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสัก สปป.ลาว

สำหรับการเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่ง จากเมืองไทย ข้ามชายแดนที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ข้ามไปด่านในสปป.ลาว จากนั้นเดินทางสู่เมืองปากเซประมาณ 50 กม.(ทางหมายเลข 13 ใต้) จากปากเซไปอีกประมาณ 30 กม.จะมีทางแยกไปแพขนานยนต์ข้ามระหว่างท่าบ้านม่วง-บ้านพระพีน เมื่อข้ามแม่น้ำแล้วก็จะถึงเมืองเก่าจำปาสัก จากจำปาสักไปอีกประมาณ 10 กม.ก็จะถึงยังปราสาทวัดพู ส่วนน้ำตกคอนพะเพ็ง อยู่ห่างจากปากเซไปตามทางหมายเลข 13 ใต้ ประมาณ 100 กม.

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์" เรียบเรียงโดย : คุณเหล็งฮู้ชง



ไปข้างบน