ไหว้พระไหว้เจ้าเสริมสิริมงคล ที่มาเก๊า
เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า
พอฉันบอกใครๆ ว่าฉันจะไปเที่ยว "มาเก๊า" หลายๆ คนถึงกับถามฉันเป็นเสียงเดียวกันว่า "จะไปเล่นการพนันที่บ่อนคาสิโน ไปโกยเงินออกจากกระเป๋าหรือยังไง?"
ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ได้ยินประโยคนี้จากปากหลายๆ คน เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่มักจะรับรู้และได้ยินชื่อเสียงของมาเก๊าในแง่มุมที่ว่าเป็นดินแดนแห่งการพนัน มีแต่บ่อนคาสิโนเต็มเมือง แต่แท้ที่จริงแล้ว มาเก๊ายังมีอีกหลายแง่มุมที่มีความน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆท่านๆยังไม่ค่อยรู้
"มาเก๊า" นับเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ ในอดีตมาเก๊าเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเกษตรกรรมและประมงเล็กๆ โดยมีชาวจีนกวางตุ้งและฟูเจี้ยนเป็นชนชาติดั้งเดิม จนมาถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือเข้ามายังคาบสมุทรแถบนี้เพื่อติดต่อค้าขายกับชาวจีน และมาสร้างอาณานิคมอยู่ในแถบนี้
ทันทีที่ฉันเหินฟ้าข้ามทะเลมาถึงยังมาเก๊า ภารกิจออนทัวร์เมืองมาเก๊าก็เริ่มปฏิบัติการทันที และจุดหมายปลายทางแรกที่ฉันมุ่งหน้าไป คือ วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Temple) ถือเป็นการไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13
พอเดินเข้ามาภายในวัด ฉันสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และมนต์ขลังอันเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมของชาวจีนที่ดูมีเสน่ห์ในแบบฉบับของชาวจีน ซึ่งภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่ชาวมาเก๊าเคารพนับถืออยู่หลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 3 ยุค ที่มีประดิษฐานอยู่ด้วยกัน 3 องค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาทางพระพุทธศาสนาที่ว่า มี อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
มีพระยูไล ที่คนมาเก๊าให้ความเคารพนับถือมากราบไหว้ขอพรกันเยอะ และองค์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษเห็นจะเป็น องค์เจ้าแม่กวนอิม ที่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดเจ้าสาวของจีนที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างงดงาม
บรรยากาศภายในวัดเจ้าแม่กวนอิม ผู้คนมากราบไหว้ขอพรกัน
ฉันเพลินอยู่กับการชอปปิ้งและเดินดูตึกสวยๆ อยู่นานจนตะวันใกล้จะตกดินแล้ว เลยต้องเร่งเวลาเพื่อที่จะไปให้ทันชมความงามของ เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง (Kun Iam Statue) ที่ตั้งอยู่ริมทะเล เจ้าแม่กวนอิมองค์ทองสร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ มีความสูง 18 เมตร หนักกว่า 1.8 ตัน
ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวดูงดงามอ่อนช้อย สะท้อนกับแดดยามเย็นเป็นประกายเรืองรองเหลืองอร่ามงดงามจับตา
แต่หากเพ่งมองดูดีๆ จะเห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้เป็นเจ้าแม่กวนอิมลูกครึ่ง คือปั้นเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่ว่ากลับมีพระพักตร์เป็นหน้าพระแม่มารี ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน เพื่อที่ว่าคนรุ่นหลังเห็นแล้วจะได้ระลึกถึงว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่โปรตุเกสมอบให้กับมาเก๊า
และภายใต้ฐานรูปปั้นยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างอีกด้วย
และบริเวณใกล้ๆ องค์เจ้าแม่กวนอิมนี้ ยังเป็นสถานที่ที่ชาวมาเก๊านิยมมาพักผ่อนหรือมาเดินเล่นยามราตรีบริเวณถนนเลียบชายฝั่งที่ชื่อว่าถนน ดร. ซุน ยัด เซ็น ซึ่งในยามค่ำคืนถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วยร้านอาหาร และผับบาร์ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า
ศาลเจ้าแม่ทับทิม (A-Ma Temple)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม (A-Ma Temple) ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊า สร้างขึ้นเพื่อเป็นการถวายสักการะแด่อาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า
เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊า
"มาเก๊า" อยู่ในเขตมณฑลกวางตุ้ง บนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของสามเหลี่ยม ปากแม่น้ำเพิร์ล ในอดีตมาเก๊าตกเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสนานถึง 400 ปี และกลับคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1999
มาเก๊าใช้ภาษาจีนและภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการ แต่จะนิยมใช้ภาษาจีนกวางตุ้งในการสื่อสารมากกว่า ส่วนภาษาอังกฤษจะนิยมใช้เป็นภาษาเพื่อทำการค้า และการท่องเที่ยว และใช้เงินสกุล “ปาตากาส์” (Pataca) MOP$ มีค่าประมาณ 1 MOP$ ต่อ 1.3 HK$ หรือประมาณ 5-6 บาท สามารถใช้เงินฮ่องกงจับจ่ายใช้สอยแทนเงินมาเก๊าได้ โดยคิดเป็นอัตรา 1 MOP$ เท่ากับ 1 HK$
นักท่องเที่ยวสัญชาติไทย สามารถเดินทางเข้ามาเก๊าโดยไม่ต้องทำวีซ่า ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวมาเก๊าในประเทศไทย โทร. 0-2255-5989
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์" โดย คุณหมวยเกี๊ยะ
|