หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

มหัศจรรย์เจ้าพระยา ตระการตา “กระบวนเรือฯถวายผ้าพระกฐิน”

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ที่ผ่านมานั้น ปวงชนชาวไทยได้สัมผัสถึงการแสดงขบวนเรือพระราชพิธี ในงานฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่บริเวณท่าวาสุกรีจนไปสิ้นสุดบริเวณวัดอรุณราชวรารามฯ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกที่ได้ปรากฏความยิ่งใหญ่ต่อหน้าพระประมุขและนานาประเทศ

มาปลายปีนี้ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 เป็นอีกวาระหนึ่งที่ปวงชนชาวไทย จะได้สัมผัสกับความวิจิตรงดงามยิ่งใหญ่ของกระบวนเรือพระราชพิธี “พยุหยาตราทางชลมารค”(การเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ) ที่จะจัดขึ้นใน “งานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน” ไปยังวัดอรุณราชวรารามฯ

ซึ่งงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินไปยังวัดอรุณราชวรารามฯครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็น “กฐินหลวง” คือ กฐินที่พระเจ้าแผ่นดินทอดถวายแก่สงฆ์ผู้จำพรรษาในวัดหลวง คือ วัดในพระพุทธศาสนาที่ได้รับยกย่องสถาปนาให้เป็นวัดพิเศษจากวัดราษฎร์ทั่วไปเรียกเต็มว่า “พระอารามหลวง”

วัดที่จะได้รับสถาปนาเป็นพระอารามหลวงนั้น ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 16 วัด ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร, วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร, วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร, วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร,วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร ,วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร,วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร,วัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร,วัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพมหานคร ,วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร,วัดราชโอรสาราม กรุงเทพมหานคร,วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม,วัดสุวรรณดาราราม พระนครศรีอยุธยา,วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ พระนครศรีอยุธยา,วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก

พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน เป็นการพระราชพิธีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และสูญหายไปช่วงต้นรัตนโกสินทร์นานจวบจนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดฯ ให้ฟื้นฟูจารีตประเพณีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคกระบวนใหญ่ โดยทรงเสด็จทอดผ้าพระกฐินที่วัดอรุณราชวรารามฯตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 เป็นต้นมา

เหตุที่มีพระราชหฤทัยในการฟื้นฟู ก็ด้วยเสด็จยังโรงเก็บเรือพระราชพิธีที่คลองบางกอกน้อย ทอดพระเนตรเรืออยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงมีพระราชดำริว่า ถ้าจะโปรดฯ ให้มีการฟื้นฟูการเสด็จระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคขึ้น

ทรงมีพระราชดำรัสว่า การฟื้นฟูคงไม่สิ้นเปลืองอะไรมากนัก เพราะกำลังคนสามารถใช้ของทหารเรือ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายทำขึ้นครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้แรมปี ส่วนประโยชน์ที่ได้รับนั้นมีมากมายหลายประการ เช่น เรือพระราชพิธีต่าง ๆ อันสวยงามและทรงคุณค่าในทางศิลปะเหล่านี้ จะได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ

สำหรับในรัชกาลปัจจุบันมีการจัดสำหรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน จำนวน 9 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด จัดเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2542 เป็นการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) เพื่อถวายผ้าพระกฐินหลวง ไปยังวัดอรุณราชวรารามฯเช่นกัน

ซึ่งครั้งนั้นมีการใช้เรือ 52 ลำ จัดเป็น 5 ริ้วกระบวน มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นเรือพระที่นั่งทรง เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9 เป็นเรือพระที่นั่งรอง และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นเรือทรงผ้าไตร อันเชิญผ้าพระกฐิน

ส่วนกระบวนพยุหยาตราฯนั้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน มีกระบวนพยุหยาตราฯเกิดขึ้นมาแล้ว 14 ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2500 ซึ่งทางราชการได้จัดขึ้นเนื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ โดยการแสดงขบวนเรือพระราชพิธี ในวันที่ 12 มิ.ย.2549 ที่ผ่านมานั้น ทางสำนักพระราชวังให้เรียกว่า การแสดงขบวนเรือพระราชพิธี ไม่ใช่กระบวนพยุหยาตราชลมารค เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จประทับในเรือพระที่นั่ง แต่พระองค์ทรงเสด็จทอดพระเนตรร่วมกับพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศที่อาคารราชนาวิกสภา

สำหรับงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ไปยังวัดอรุณราชวรารามฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. 2550 นี้จึงถือเป็นกระบวนพระยุหยาตราครั้งที่ 15 ในรัชกาลปัจจุบัน

โดยกระบวนเรือในครั้งนี้ มีความคล้ายคลึงกับเมื่อครั้งจัดแสดงในงานฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยิ่งใหญ่กว่าเมื่อครั้งจัดแสดงรับผู้นำเอเปค ซึ่ง “งานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน” สำหรับการจัดกระบวนเรือในครั้งนี้นับเป็นกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) อีกครั้งหนึ่ง ที่มีการนำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นเรือพระที่นั่งทรง เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9 เป็นเรือพระที่นั่งรอง และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นเรือทรงผ้าไตร มีการจัดกระบวนเรือพระราชพิธีกระบวนใหญ่ ใช้เรือพระราชพิธีและเรือพระที่นั่ง รวม 52 ลำ จำนวนฝีพาย 2,082 นาย พร้อมทั้งมีการจัดทำบทกาพย์เห่เรือใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลนี้โดยเฉพาะ

ทั้งนี้การซ้อมใหญ่กระบวนเรือฯจะมีทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่1จัดให้มีขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.2550 ครั้งที่ 2 จัดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2550 และในครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550 ตามกำหนดการเดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นผู้เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ในวันที่ 5 พ.ย. 2550 ด้วยพระองค์เอง โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนจากท่าวาสุกรีไปถึงวัดอรุณราชวราราม ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 45 นาที

อนึ่งมีจุดที่สามารถรับชมรับชมกระบวนเรือพระราชพิธีได้หลายจุดตามสถานที่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ สวนสันติชัยปราการ ผู้ชมสามารถนั่งชมกันได้บริเวณลานกว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีที่นั่งยาวขนานกับริมน้ำ

บริเวณทางเดินริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สวนสันติฯ ไปจนถึงท่าเรือพระอาทิตย์ และยาวต่อไปถึงบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า เป็นจุดที่สามารถมองเห็นขบวนเรือได้อย่างชัดเจน

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมขบวนเรือได้ จุดที่จะสามารถชมเรือพระราชพิธีได้ก็คือบริเวณโรงอาหารที่อยู่ใต้ตึกอเนกประสงค์ 2 (อาคาร 60 ปี) ติดกับคณะเศรษฐศาสตร์ ใกล้ประตูด้านถนนพระอาทิตย์ และอีกที่หนึ่งก็คือใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์ ใกล้ประตูท่าพระจันทร์ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นโรงพยาบาลศิริราช ก็นับว่าเป็นทำเลถ่ายภาพที่ไม่เลวนัก

สำหรับลานกว้างใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนฯ)นั้น ประชาชนทั่วไปสามารถจับจองรอชมขบวนเรือได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีท่าอื่นๆ คือ ท่าช้าง ท่าเตียน ท่าราชินี ซึ่งก็สามารถชมได้เช่นกัน

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์

Photo Gallery การซ้อมพยุหยาตราทางชลมารค (ภาพ: Manager )














ไปข้างบน