|
คดีฆ่าสมภารพลิก ซดพิษเอง หนีหนี้สินท่วมหัว
“พระครูสังฆรักษ์วสันชัย”
จากเงื่อนงำปริศนากรณีที่ พระครูสังฆรัตน์ กิตติภัทโท อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดวังน้ำขาว ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ดื่มน้ำอัดลมแล้วเกิดอาการน้ำลายฟูมปากนอนแน่นิ่งอยู่ในกุฏิ จนลูกศิษย์เข้าไปเจอ รีบพาส่ง รพ.สามพราน ให้แพทย์ล้างท้อง
ก่อนถูกส่งตัวต่อไปยัง รพ.ศูนย์นครปฐม แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ มรณภาพ ในเวลาต่อมา แพทย์ตรวจพบมีสารพิษในกระแสเลือด เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะถูกวางยาพิษนั้น
บรรยากาศงานศพ พระครูสังฆรักษ์วสันชัย
ความคืบหน้าการคลี่คลายปมปริศนาการมรณภาพของสมภารวัดดัง ที่ตอนแรกสงสัยว่าอาจจะมีคนวางยาพิษสังหาร ล่าสุด กลับพลิกตาลปัตรส่อเค้าว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเอง โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 ฝ่ายปราบปราม เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เดินทางไปยัง สภ.สามพราน เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อตรวจสำนวนการสอบสวน เร่งรัดคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น พร้อมตรวจผลชันสูตรศพจากแพทย์ รพ. ศูนย์นครปฐม ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
ภายหลังการประชุม พนักงานสอบสวนได้เชิญนายสุพจน์ หรือไฮ้ ปึงเจริญ อายุ 60 ปี มัคนายกวัดวังน้ำขาว ที่ดูแลเรื่องการเงินของวัดตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์เก่าจนมาถึงองค์ปัจจุบัน และนายวิชัย กังใช่ง้วน อายุ 60 ปี กรรมการ วัดที่มีอำนาจเซ็นเบิกจ่ายเงินวัดมาสอบปากคำ ทั้งคู่ ให้การว่า มีหน้าที่ดูแลเงินของวัดร่วมกับคณะกรรมการอื่นๆ อีก 3-4 คน แต่ตนทั้ง 2 และเจ้าอาวาสมีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน โดยการเบิกเงินทุกครั้งจะต้องมีลายเซ็นเจ้าอาวาสกับพวกตนคนใดคนหนึ่งเซ็นด้วยถึงจะเบิกเงินได้ สำหรับเงินกฐินที่ชาวบ้านนำมาทอดเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เงินจำนวน 1 ล้าน 8 หมื่นบาท ทั้งหมดเจ้าอาวาสเป็นคนเก็บไว้ในตู้เซฟที่กุฏิ ทั้งที่ตามปกติแล้วตนทั้ง 2 จะต้องนำไปเข้าธนาคาร แต่ครั้งนี้เจ้าอาวาสกลับนำไปเก็บไว้เอง
มัคนายกและกรรมการวัดให้การต่อไปว่า หลังงานกฐินเสร็จสิ้นแล้ว กรรมการวัดได้ประชุมกันและมีการสอบถามเรื่องเงินทอดกฐิน เมื่อทราบว่าเจ้าอาวาสนำไปเก็บรักษาไว้เอง ทำให้กรรมการต่างวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแจ้งให้เจ้าอาวาสนำเงินไปฝากไว้ในธนาคาร หากจะเบิกจ่ายอะไรก็ให้ผ่านธนาคารเพื่อความโปร่งใส ตนทั้งคู่จึงไปบอกเจ้าอาวาส และท่านก็รับปากว่าจะเอาเงินให้ไปเข้าธนาคาร โดยนัดมาเอาเงินในช่วงสายวันที่ 7 พ.ย. พอถึงวันนัดหมายไปหาเจ้าอาวาสที่กุฏิ ก็พบร่างนอนแน่นิ่งน้ำลายฟูมปากหายใจรวยริน จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หลังจากเจ้าอาวาสมรณภาพแล้ว ตำรวจขอตรวจสอบตู้เซฟในกุฏิเจ้าอาวาส จึงนำกุญแจไปไขรหัสเปิดตู้เซฟ ตอนแรกคิดว่ามีเงินกฐินอยู่ในนั้น แต่ปรากฏว่าเหลือเงินแค่ไม่ถึงพันบาท ไม่ทราบว่าเงินกฐินทั้งหมดหายไปไหน
ภายหลังสอบปากคำ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 นำกำลังเดินทางไปตรวจที่กุฏิของพระครูสังฆรัตน์ ที่วัดวังน้ำขาวอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมสอบถามชาวบ้านตามร้านค้าใกล้เคียงวัดทราบว่า หลังจากงานกฐินเสร็จสิ้น มีเจ้าหนี้มาทวงเงินเจ้าอาวาสหลายราย ไม่ทราบมาทวงเงินค่าอะไรบ้าง ขณะเดียวกัน ได้มีนางฉะอ้อน เกี๊ยะรักษา อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน ช.รุ่งเรือง ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดในตลาดสามพราน มาเข้าพบ พล.ต.ต.โสภณ พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนงานกฐินของวัดจะเริ่มไม่กี่วัน เจ้าอาวาสไปหาที่ร้านเพื่อขอยืมเงิน 7.5 แสนบาท บอกว่าจะนำไปใช้จ่ายซื้อของรับกฐิน หลังเสร็จสิ้นงานกฐินแล้วจะนำเงินมาใช้คืนให้ ตนเห็นว่าเจ้าอาวาสมาซื้อของที่ร้านค้าเป็นประจำไม่เคยติดค้าง จึงให้ยืมเงินไป จากนั้นในตอนเช้าวันที่ 7 พ.ย. มีรถ จยย.รับจ้างนำกล่องปิดผนึกแน่นหนามาให้ที่ร้าน บอกว่าเจ้าอาวาสวัดวังน้ำขาวให้นำมาให้ เมื่อเปิดดูพบว่าภายในเป็นเงินสด 5.9 แสนบาท ตนเข้าใจว่าเป็นเงินกฐินจึงนำไปฝากไว้ที่ธนาคารแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ได้รับผลการชันสูตรศพพระครูสังฆรัตน์ จาก รพ.ศูนย์นครปฐม แพทย์ระบุว่า พบสารอ๊อกโนคอสเฟส ซึ่งเป็นสารที่ใช้ฆ่าหญ้าอยู่ในร่างกาย และจากการตรวจค้นในกุฏิวันแรกที่เจ้าอาวาสมรณภาพ พบยาฆ่าหญ้าขวดสีเขียว ซึ่งมีสารอ๊อกโนคอสเฟสอยู่ในกุฏิ โดยมีรอยนิ้วมือของเจ้าอาวาสติดอยู่เต็มไปหมด นอกจากนี้ ยังพบโพยหวยซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก เป็นลายมือที่เจ้าอาวาสเขียนเอง แต่ละงวดแทงเลขเด็ดเป็นหมื่นบาท ขณะที่การสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ ทราบว่าเจ้าอาวาสมีหนี้สินอยู่ภายนอกหลายล้านบาท เป็นหนี้ส่วนตัวที่ยืมคนอื่นมา และเป็นหนี้จากการเล่นหวย จึงน่าจะเป็นชนวนเหตุให้ตัดสินใจดื่มยาพิษฆ่าตัวตายหนีหนี้ ขณะนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบว่าเจ้าอาวาสเป็นหนี้ที่ไหนบ้าง พร้อมเรียกเจ้าหนี้มาสอบปากคำไว้ประกอบสำนวนให้ สมบูรณ์ ก่อนจะสรุปประเด็นการเสียชีวิต ซึ่งคดีนี้บรรดาญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย แต่ตำรวจต้องทำให้ชัดเจน
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ”
| 
