สุสานคนเป็น
เวทีชีวิตของคนเรา ลีลาชีวิตของคนเราย่อมมีความแตกต่างกันไปตามเหตุตามปัจจัย บางคนก็เกิดมารวย บางคนก็เกิดมาจน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราไม่อาจจะเลือกเกิดได้ตามใจชอบ แต่อย่างไรก็ตามชีวิตของคนเราไม่ว่าจนหรือรวยต่างไม่พ้นสุสาน แต่ทำอย่างไรจึงจะไม่ได้เข้าไปอยู่ใน “สุสานคนเป็น”
เมื่อเอ่ยถึง “สุสาน” เราต่างก็รู้กันดีว่าหมายถึงสถานที่เช่นใด คนตายเขาก็นำไปสุสานสำหรับคนตาย แต่คนเป็นจะมีสุสานได้อย่างไรกัน! “สุสานคนเป็น” มีด้วยหรือ! หลายท่านอาจจะสงสัยได้ แต่ท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งคิดว่านี่เป็นการเล่าเรื่องในละครทีวี ที่กล่าวว่าสุสานคนเป็นนั้นมันมีที่มาที่ไปของเรื่องอยู่ ลองอ่านต่อไปแล้วท่านจะถึงบางอ้อเอง
คนเราทุกคนเกิดมาต้องมีการนอนหลับพักผ่อนเป็นธรรมดา แต่บางคนนอนไม่ธรรมดา คือนอนวันละ 18 ชั่วโมง การนอนเป็นการพักผ่อนก็จริงอยู่ แต่คนที่นอนมากเช่นนี้ไม่นับว่าเป็นการพักผ่อนแต่นับว่านอนใน “สุสานคนเป็น”
ถ้าหากวันหนึ่งเรานอน 7 ชั่วโมง ใน 1 เดือนเราจะนอนเท่ากับ 210 ชั่วโมง ใน 1 ปีเราจะนอนเท่ากับ 2,492 ชั่วโมง คิดเป็นวันก็เท่ากับ 103.83 วัน นั่นเท่ากับว่าใน 1 ปีเราเสียเวลาในการนอนไปเท่ากับ 103.83 วันฟรีๆ ฉะนั้น มหาบุรุษโลก มหาเศรษฐี หรือเจ้าสัวทั้งหลาย ได้เล็งเห็นผลเสียของการนอนมาก จึงนอนพักผ่อนเพียงวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น
เป็นธรรมดาที่คนเราทุกคนจะต้องนอน แต่เราก็ไม่ควรที่จะนิ่งนอนนานเกินไป จนเป็นการนอนนิ่งแล้วไม่ได้ทำอะไร การนอนมากเกินไป นอนมากเกินความจำเป็น เป็นการเสียเวลา เสียโอกาส ก้าวไม่ทันคนอื่นเขา ที่สำคัญทุกสิ่งทุกอย่างจะขาดความต่อเนื่อง และอาจจะเป็นต้นเหตุให้เราสูญเสียนิสัยที่ดีๆ ไปอีกหลายอย่างก็ได้ จึงกล่าวได้ว่า “การนอนมากเกินความจำเป็นเป็นความตายที่แอบซ่อนอยู่ในความเป็น” ลักษณะเช่นนี้ข้าพเจ้าจึงขอเรียกว่า “สุสานคนเป็น”
ดังนั้นเราจึงควรที่จะตระหนักให้ดีว่าจะอยู่ในสุสานเมื่อตายแล้ว หรือจะอยู่ในสุสานตั้งแต่ยังเป็น คือตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ คนที่นอนมาก นอนนานเกินความจำเป็นเท่ากับได้เข้าไปอยู่ในสุสานคนเป็น เพราะการนอนมาก นอนนานเกินความจำเป็นเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายหลายอย่าง และการนอนมาก นอนตื่นสายไม่เคยนำความสุขความสำเร็จมาให้ใครๆ
|