ภาวนาให้ได้ผลดีต้องโง่มากๆ
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
การภาวนานี่ ถ้าจะให้ได้ผลดี ต้องโง่มากๆ หน่อย ถ้าขืนฉลาดแล้วเป็นอุปสรรคกั้นอยู่นั่น
ตัวอย่าง ญาติผู้ใหญ่ของหลวงพ่อคนหนึ่งอ่านหนังสือไม่ออก สวดมนต์ไม่เป็น แกก็มาบ่นว่า "โอ๊ย...เกิดมาชาตินี้ทำไมโง่ นักหนาน้อ"
"มันโง่อย่างไร"
"จะไม่โง่อย่างไร สวดมนต์ก็ไม่เป็น ฟังเทศน์ก็ไม่รู้เรื่อง ท่านเทศน์ภาษาไทย เราเป็นลาว เราก็ฟังภาษาไทยไม่ออก" แกว่า
ถามแกว่า "สวด 'พุทโธ' คำเดียวได้ไหม"
"ได้!"
"เอ้า! ถ้างั้นสวด 'พุทโธ' คำเดียว"
แกก็สวดของแกอยู่นั่นทั้งกลางวันกลางคืน ตื่นเวลาไหน แกก็สวด บางทีแกบอกว่านอนหลับแล้วก็ยังสวดพุทโธอยู่
อยู่มาวันหนึ่ง หลวงพ่อกำลังจะลงทำวัตรเช้าตอนตี ๔ แก บุกขึ้นไปบนกุฏิ พอเห็นแกโผล่ขึ้นไป
"อ้าว! โยม มาทำไมล่ะ ผู้หญิงยิงเรือมาหาพระเจ้าพระสงฆ์ เวลาค่ำคืนไม่งามนะ"
"โอ๊ย! มันทนไม่ไหว"
"ทำไมทนไม่ไหว"
"ทำไมหัวใจคนมันจึงลุกเป็นไฟได้"
เราก็รู้ทันทีว่าจิตของแกสงบเป็นสมาธิ
ถามว่า "มันลุกเป็นไฟแล้วมันร้อนหรือเปล่า"
"ไม่ร้อน มันเย็นสบาย เกิดมาไม่เคยพบกับความสุขอย่าง นี้เลย เดี๋ยวนี้มันก็ยังลุกอยู่นะ"
"เออ... ถ้ามันไม่ร้อน ก็ปล่อยให้มันลุกอยู่นั่น"
ภายหลังมา ถามทีไรๆ
"หัวใจมันยังลุกเป็นไฟอยู่หรือเปล่า"
เดี๋ยวนี้มันยิ่งลุกแรง บางทีจนตกใจว่านั่งอยู่ในศาลานี่ ความสว่างไสวมันเต็มศาลาไปหมด"
อันนั้นจิตแกเป็นสมาธิ แล้วถามว่า
"จิตมันลุกเป็นไฟแล้ว มันยังท่องพุทโธอยู่หรือเปล่า"
"มันไม่ท่อง มันหยุด หยุดนิ่ง แล้วก็รู้...มีความสุขหาที่เปรียบไม่ได้เลย เกิดมาไม่เคยเจอความสุขอย่างนี้สักที"
จนกระทั่งแกตาย เวลาจวนจะตายนี่ ไปถามแก
"เดี๋ยวนี้หัวใจมันยังลุกเป็นไฟอยู่หรือเปล่า"
"เดี๋ยวนี้มันยิ่งลุกแรง มันไม่ได้ไปไหน"
"แล้วพิจารณาดูอายุขัยหรือยัง มันหมดหรือยัง"
"หมดไปนานแล้ว คอยฟังคำสั่งเท่านั้น"
"อ้าว! จะให้ฉันสั่งให้ตายหรือ"
"ก็อย่างนั้นสิ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ คนนั้นต้องสั่ง"
"ถ้าแกแน่ใจว่าอายุขัยแกหมดแล้ว เอ้า! ฉันสั่งนะ แต่ว่า ไม่ใช่วันนี้นะ ให้งานเสร็จก่อน"
วันนั้นเป็นงานวันบูรพาจารย์ วันที่ ๒ (ธันวาคม) พองาน เราเสร็จคืนวันที่ ๓ แกตื่นเช้ามาวันที่ ๔ แกก็ไป
|