สมาธิไม่สังกัดศาสนา
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
หลวงพ่อเคยทดสอบมาทุกอย่าง ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องเกี่ยวข้องกับคนอื่น
ที่วัดวะภูแก้วบนภูเขาเป็นสถานที่อบรมสมาธิเด็ก ปีหนึ่ง เรารับอบรมนักเรียนไม่น้อยกว่าจำนวนหมื่นคนตลอดปี เดือน หนึ่งจะมีเด็กขึ้นไปรับอบรมสมาธิเดือนละ ๓-๔ ครั้ง แต่ละครั้งก็ ๓๐๐ คนขึ้นไป บางครั้งก็มีเด็กต่างศาสนาไปร่วมด้วย
เด็กศาสนาคริสต์เขาถูกสอนไม่ให้กราบให้ไหว้ ให้ไหว้แต่ พระเจ้าของเขาองค์เดียว ทีนี้ พอเด็กมันไปแล้ว พอมันเข้าไปใน ศาลาของเรา มันเห็นพระพุทธรูปมันก็ไม่ไหว้ มันก็นั่งอยู่เฉยๆ อาจารย์ผู้นำเขาบอกว่า พระของใครอยู่ในหัวใจของแต่ละบุคคล ถ้าใครมีพระอยู่ในใจ กราบลงตรงไหนถูกพระของตัวเองที่นั่น เด็กก็กราบหมดทุกคน
เวลานั่งสมาธิ ชาวพุทธภาวนา "พุทโธ" ชาวคริสต์ภาวนา "เยซู" พอเขาสั่งหยุดพัก เด็กชาวคริสต์มาถามชาวพุทธว่า
"เธอภาวนา 'พุทโธ' แล้ว จิตของเธอเป็นอย่างไร"
ชาวพุทธที่เขาได้สมาธิ เขาก็บอกว่า
"ภาวนาพุทโธไป มันมีอาการเบลอๆ เคลิ้มๆ นิดหน่อย แต่แล้วจิตมันวูบลงไปนิ่ง แล้วมันสว่างขึ้นมา มีปีติ มีความสุข... ของเธอล่ะ เป็นอย่างไร"
"ของฉันก็เป็นเหมือนกัน เราคนละศาสนา พระเจ้าคนละองค์ เมื่อมาปฏิบัติสมาธิ ทำไมมันเป็นเหมือนกัน"
เด็กมันก็คุยกัน แล้วก็ไปถามอาจารย์
อาจารย์เขาก็ตอบว่า สมาธิมีหนึ่งเดียว เป็นสัจธรรม มีหนึ่งเดียว ใครภาวนาคำไหน อย่างไร ศาสดาใด เมื่อทำสมาธิได้ มันมีแนวโน้มเป็นอย่างเดียวกันหมด แต่อุบายวิธีอาจจะแตกต่างกัน แต่เมื่อจิตเป็นสมาธิ มีอย่างเดียว เป็นอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ มีแตกต่าง ทีนี้เด็กมันก็เข้าใจ
บางคนมันก็สงสัย เมื่อจิตสงบ นิ่ง รู้ ตื่น เบิกบาน เราจะไม่เผลอเปลี่ยนศาสนาอย่างไม่รู้ตัวหรือ
สมาธิไม่ได้สังกัดในลัทธิและศาสนาใด พุทธ คริสต์ อิสลาม ปฏิบัติได้ทั้งนั้น ความแตกต่างของศาสนาอยู่ที่บทบัญญัติของพระเจ้าแต่ละองค์
ศาสนาพุทธ มีศีล ๕ ข้อเป็นบทบัญญัติให้ปฏิบัติทั่วไป
ศาสนาคริสต์ มีบัญญัติ ๑๐ ประการ
ศาสนาอิสลาม บัญญัติของเขาจะมีเท่าไรไม่ทราบ แต่เขา ก็ต้องมีกฎเกณฑ์ของเขา ศาสนาอิสลามนี่ หัวใจของศาสนาเขา ให้จงรักภักดีต่อพระเจ้าของเขา เขาสอนให้เอาพระเป็นเจ้าเป็น ศูนย์รวมจิต ให้เชื่อพระเป็นเจ้าองค์เดียว เขาปลูกฝังความเชื่อมั่น ลงไปอย่างนี้
|